อานิสงส์โรงแรมยุโรป-คอนโดฯ เจวี “ยู ซิตี้" ปีนี้ อาจพลิกทำกำไรสำเร็จ - Forbes Thailand

อานิสงส์โรงแรมยุโรป-คอนโดฯ เจวี “ยู ซิตี้" ปีนี้ อาจพลิกทำกำไรสำเร็จ

หลังบีทีเอสเข้าเทกโอเวอร์ บมจ.เนเชอรัล พาร์ค และเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ. ยู ซิตี้ เมื่อปี 2558 ภารกิจของบริษัทคือการพลิกผลประกอบการที่ขาดทุนกลับมาทำกำไร ซึ่งดูเหมือนว่าอาจจะสำเร็จลงได้ในปีนี้

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้น 35% ใน บริษัท เนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2558 และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.ยู ซิตี้ โดยในปีนั้นบริษัทมีผลประกอบการขาดทุนอยู่ 277 ล้านบาท และมีหนี้สะสมในบริษัทซึ่งได้ทยอยแก้ปมมาตามลำดับ

บีทีเอสเอง มีการลงทุนหลายขาอยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหลักอย่างการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และธุรกิจอื่นๆ อย่าง วีจีไอ โกลบอล มีเดีย ซึ่ง คีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหารของบีทีเอสกล่าวว่าวันนี้ไม่ได้แค่ทำโฆษณาแล้วนอกจากนี้ บีทีเอสยังลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม และที่อยู่อาศัย

หลังจากเทกโอเวอร์ ยู ซิตี้เข้ามา คีรีได้ทำการจัดพอร์ตให้ธุรกิจอสังหาฯ ที่อยู่ในมือบริษัทแม่เข้าไปอยู่ในมือ ยู ซิตี้มากขึ้น และเป็นตัวช่วยล้างขาดทุนให้กับ ยู ซิตี้ อีกด้วย โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ยู ซิตี้ได้เข้าไปซื้อหุ้นส่วนของบีทีเอสที่ร่วมลงทุนอยู่กับ บมจ.แสนสิริ ตามดีลสัญญาพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน 25 โครงการ

ธุรกิจโรงแรมภายใต้ยู ซิตี้ เช่น โรงแรมยู สาทร, โรงแรม อีสติน แกรนด์ สาทร ส่วนในทวีปยุโรป เช่น Vienna House Easy Berlin, Steigenberger Hotel Stadt Hamburg, Wismar arconaLIVING SCHAFFHAUSEN

รวมถึงยังเดินหน้าลุยกับกลุ่มธุรกิจโรงแรม จากเดิมที่มีโรงแรมเฉพาะในไทย ยู ซิตี้ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Vienna House Capital GmbH และบริษัท Warimpex เมื่อปี 2560 โดยเครือโรงแรมทั้งสองแห่งดำเนินกิจการโรงแรมโซนยุโรปตะวันออกรวม 24 แห่ง มาปีนี้ ยู ซิตี้ยังทุ่มซื้อ เครือโรงแรม arcona เพิ่มอีก 17+2 แห่ง ในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ (อีก 2 แห่งยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง)

คำอธิบายและวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของ ยู ซิตี้ รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้ว่า สิ้นไตรมาส 2/62 บริษัทมีพอร์ตสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 5.42 หมื่นล้านบาท และเริ่มเห็นผลกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมีรายได้ครึ่งปีแรก 2562 ที่ 3.96 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 155 ล้านบาท มาจากการเติบโตของธุรกิจโรงแรม และจากส่วนแบ่งกำไรของโครงการ JV กับแสนสิริ

 

รร.นานาชาติ, mix-used, โรงแรมหรู เสริมแกร่ง ยู ซิตี้

ปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันพอร์ตรายได้ 70-80% ของบริษัทมาจากธุรกิจโรงแรม 50 กว่าแห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรป

ส่วนอีก 20-30% นั้นมาจากรายได้เช่าอาคารสำนักงาน 4 แห่ง ได้แก่ ทีเอสที ทาวเวอร์, อาคาร Gracechurch กรุง London, อาคาร Underwood กรุง London และอาคารพาณิชย์ในโครงการโนเบิล เพลินจิต ซึ่งเพิ่งซื้อกิจการเข้ามา รวมถึงพอร์ตคอนโดฯ ร่วมทุนกับแสนสิริ ซึ่งส่วนนี้จะรับรู้เข้ามาเป็นกำไรสุทธิ

เป้าหมายระยะยาวนั้น กลุ่มโรงแรมยังเป็นหัวหอกสำคัญ และปิยพรแย้มว่า มีความเป็นไปได้ที่จะควบรวมกิจการใหม่ๆ เข้ามาอีกในกลุ่มนี้

ปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน)
ปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน)

ส่วนเป้าหมายระยะใกล้ คือโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ (Verso), โครงการ mix-used เดอะ ยูนิคอร์น และโครงการโรงแรมบนที่ดินโรงภาษีร้อยชักสามริมแม่น้ำเจ้าพระยา

สำหรับ โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ นั้นตั้งอยู่บนที่ดิน 168 ไร่ในโครงการธนาซิตี้ (โครงการบ้านจัดสรรและสนามกอล์ฟในเครือบีทีเอส) ถนนบางนา-ตราด มูลค่าการลงทุนเฟสแรก 5 พันล้านบาท เป็นโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอเมริกัน รองรับนักเรียนได้ 1,800 คน เตรียมเปิดการเรียนการสอนเดือนสิงหาคม 2563

ปิยพรกล่าวว่า โรงเรียนนานาชาตินี้บริษัทมองในมุมการลงทุนเชิงกลยุทธ์ มากกว่าการหารายได้เป็นพอร์ตใหญ่ โดยปีแรกที่เปิดคาดว่าจะมีนักเรียนลงทะเบียน 200 คน

โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ ยู ซิตี้
ตัวอย่างภาพอาคารเรียนโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ

การลงทุนเชิงกลยุทธ์' ในที่นี้เป็นไปได้ว่าจะเป็นการต่อจิ๊กซอว์ให้พื้นที่ธนาซิตี้ 1,700 ไร่ เนื่องจาก คีรี กล่าวถึงโครงการนี้ว่า เขาตั้งใจที่จะต่อยอดให้ธนาซิตี้เป็นเมืองอย่างแท้จริง จากปัจจุบันที่เป็นโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่อาศัยของคน 2,000 คน และสนามกอล์ฟ เมื่อมีโรงเรียนก็จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

และบีทีเอสยังคงมีที่ดินเปล่าเกือบ 200 ไร่ในบริเวณธนาซิตี้ ที่เขากำลังพิจารณาคอนเซปท์ว่าจะต่อยอดอย่างไร ความเป็นไปได้มีทั้งออฟฟิศ โรงแรม และธุรกิจบันเทิง คาดว่าจะเห็นแผนชัดเจนปีหน้า โดยยังไม่ฟันธงว่าโอนย้ายให้ ยู ซิตี้พัฒนาหรือไม่

ยู ซิตี้ เดอะ ยูนิคอร์น
โครงการเดอะ ยูนิคอร์น

อีกโครงการที่ปักหมุดไปแล้วของบริษัท คือโครงการเดอะ ยูนิคอร์น บนที่ดิน 7 ไร่ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าพญาไท มูลค่าโครงการ 9.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็น mix-used โรงแรม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และที่อยู่อาศัย เริ่มก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะให้บริการได้ปลายปี 2564

ปิดท้ายที่ โครงการโรงแรม 5 ดาวในอาคารโรงภาษีร้อยชักสามริมแม่น้ำเจ้าพระยา (สถานีดับเพลิงบางรัก) อายุอาคาร 130 ปี ซึ่งบริษัทประมูลได้สิทธิการเช่า 30+6 ปีจากกรมธนารักษ์ โครงการนี้ ยู ซิตี้เตรียมลงทุน 3 พันล้านบาทเพื่อรีโนเวตอาคาร 1 หลัง และก่อสร้างอาคารเพิ่มอีก 1 หลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบ คาดว่าจะเปิดบริการในปี 2568

ยู ซิตี้ อาคารเก่าโรงภาษีร้อยชักสาม
ตัวอย่างภาพโรงแรมริมน้ำที่ยู ซิตี้จะรีโนเวตอาคารเก่าโรงภาษีร้อยชักสาม

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแลนด์แบงก์สำคัญอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาโครงการใน 3 ทำเล ได้แก่ ที่ดินราษฎร์บูรณะ 27 ไร่ ที่ดินคูคต 57 ไร่ และที่ดินย่านสุขสวัสดิ์ประมาณ 40-50 ไร่อีกด้วย

 

ครึ่งปีหลังรอโอนคอนโดฯ ร่วมทุนอีก 6 โครงการ

ย้อนกลับมาที่ปี 2562 ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยู ซิตี้กำลังจะเก็บเกี่ยวดอกผลจากโครงการร่วมทุนกับแสนสิริได้อีก 6 โครงการ มูลค่าแบ็กล็อกรอโอนกรรมสิทธิ์รวม 6.9 พันล้านบาท ทำให้เป็นไปได้ว่าปีนี้บริษัทจะมีผลประกอบการเป็นบวก

นอกจากนี้ ยังมีแบ็กล็อกที่เหลืออีกราว 9 พันกว่าล้านบาทในคอนโดฯ ร่วมทุนที่จะทยอยโอนตั้งแต่ปี 2563-65 ตุนไว้ในมืออีกด้วย

คุณ บาย ยู ทองหล่อ หนึ่งในโครงการ JV ระหว่างแสนสิริกับเครือบีทีเอส

ปิยพรกล่าวว่า สำหรับสัญญาร่วมทุนกับแสนสิริที่จะพัฒนาคอนโดฯ 25 โครงการนั้นมีการเปิดตัวไปแล้ว 14 โครงการ อีก 11 โครงการที่เหลือนั้นอยู่ในแผนงานแล้ว ไม่ได้มีการยกเลิก เพียงแต่อาจมีการชะลอบ้างตามจังหวะตลาด

ส่วนจะมีการเซ็นสัญญารอบใหม่กับแสนสิริหรือไม่ ต้องติดตามตอนต่อไป

 
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine