Ford Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป เเบบไม่มีข้อตกลง หรือ No-deal Brexit โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายด้านภาษีศุลกากรตามองค์การการค้าโลกเเละผลกระทบจากค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง
“ผลกระทบจาก Brexit ที่มีต่อ Ford นั้นคิดเป็นมูลค่าระหว่าง 500-1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆหลายประการ” Ford ระบุในเเถลงการณ์
ทั้งนี้ สำนักข่าว Sky News รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า Ford อาจต้องเเบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ด้านผู้ผลิตรถยนต์หลายเเห่ง ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่อย่าง Airbus ต่างกังวลต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหากเกิด Brexit เเบบไร้ข้อตกลงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาษีที่สูงขึ้น ผลกระทบด้าน Supply Chain เเละการจ้างงาน โดยซีอีโอของ Airbus ชี้ว่าอาจจำเป็นต้องโยกย้ายการลงทุนไปที่อื่นในอนาคต
นับถอยหลังสู่ Brexit
อังกฤษเตรียมตัวจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในอีก 63 วัน เเต่ทว่านายกรัฐมนตรี Theresa May ของอังกฤษ ยังไม่สามารถขอเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาถึงข้อตกลงในรายละเอียดของ Brexit ที่จะนำไปต่อรองกับทางสหภาพยุโรปได้ ทำให้บริษัทต่างๆ กังวลถึงความเป็นไปได้ว่าจะมี No-deal Brexit เกิดขึ้นจริง เเละคาดว่าจะเกิดความยุ่งยากตามมา
Bob Shanks ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Ford เผยว่าทางบริษัทได้เตรียมเเผนรับมือไว้เเล้ว “เราได้เริ่มดำเนินงานอย่างชัดเจนเเล้วในกรณีที่เกิด hard Brexit”
โดย Ford เคยประเมินไว้เมื่อเดือนมีนาคมปีท่ีเเล้วว่า ในกรณีที่เกิด “hard Brexit” อัตราภาษีตามองค์การการค้าโลกจะอยู่ที่ 10% สำหรับการนำเข้าเเละส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี
ทั้งนี้ Ford เป็นเเบรนด์ยานยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในสหราชอาณาจักร มีโรงงานผลิตเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 2 แห่งที่นี่เเละมีพนักงานทั้งสิ้นกว่า 1.3 หมื่นคน เเละเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เพิ่งประกาศปรับลดพนักงานไปหลายพันอัตราในยุโรป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเเผนการลดค่าใช้จ่ายเเละคืนกำไรในภูมิภาคนี้
ที่มา ภาพ AFP