GM ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ปลดพนักงาน 15% ปิดโรงงาน 8 แห่ง มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า-รถยนต์ไร้คนขับ - Forbes Thailand

GM ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ปลดพนักงาน 15% ปิดโรงงาน 8 แห่ง มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า-รถยนต์ไร้คนขับ

General Motors (GM) ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศปรับโครงสร้างบริษัท ปลดพนักงานลงกว่า 15% หรือมากกว่า 1.4 หมื่นตำเเหน่ง หวังลดค่าใช้จ่ายได้ 6 พันล้านเหรียญ พร้อมปรับตัวรับการเปลี่ยนเเปลงตลาด มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเเละรถยนต์ไร้คนขับ

ความเคลื่อนไหวที่สะเทือนวงการยานยนต์ครั้งนี้ ยังรวมไปถึงการที่ GM สั่งระงับการผลิตในโรงงาน 5 แห่งในทวีปอเมริกาเหนือ เเละจะปิดโรงงานผลิตรถนอกทวีปอเมริกาเหนืออีก 3 แห่งภายในสิ้นปี 2019 โดย GM จะปิดโรงงานผลิตแบตเตอรีและชุดเกียร์ ทั้งใน Baltimore, Maryland เเละ Michigan เช่นเดียวกับโรงงานอีก 2 แห่งนอกอเมริกาเหนือ ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นที่ใด หลังจากเคยแถลงยุติปฏิบัติการที่โรงงานในเมือง Kansan ประเทศเกาหลีใต้ไปก่อนหน้านี้ จากนั้นภายในปีหน้าจะสั่งปิดโรงงานประกอบรถยนต์ 3 แห่งในอเมริกาเหนือ ได้เเก่โรงงาน Oshawa ในรัฐ Ontario ประเทศแคนาดา, โรงงานในเมือง Detroit ของรัฐ Michigan เเละโรงงานใน Lordstown  ในเมือง Warren รัฐ Ohio ของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังสั่งยุติการผลิตรถยนต์หลายรุ่นในอเมริกา ได้แก่ Chevrolet Cruze, Cadillac CT6 และ Buick LaCrosse ด้วย โดยบริษัทได้เริ่มเสนอแผนการลาออกโดยสมัครใจให้กับพนักงาน 1.8 หมื่นคนในอเมริกาเหนือตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับว่าเป็นการปรับตัวของบริษัทที่ต้องการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนเเปลงไปเเละยอดขายที่ลดลง เนื่องจากผู้ซื้อไม่สนใจที่จะซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก ขณะที่รถกระบะและรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 70% ของการซื้อรถในอเมริกาเหนือทั้งหมด
AFP / JEFF KOWALSKY
นอกจากนี้ GM ยังต้องเเบกรับกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น จากมาตรการภาษีนำเข้าเหล็กเเละอลูมิเนียม ซึ่งทำให้ต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 เเละอาจพุ่งถึง 1 พันล้านเหรียญในปีหน้า หากประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงเดินหน้ามาตรการภาษีนำเข้ายานยนต์เเละชิ้นส่วนต่อไป ดังนั้น GM จึงมีความตั้งใจจะหันไปลงทุนด้านยานยนต์แห่งอนาคต อย่างรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับ พร้อมพัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ทั้งนี้ การปฏิรูปองค์กรของ GM เรียกเสียงวิจารณ์จากสหภาพแรงงานสหรัฐฯที่เป็นตัวแทนของแรงงานทั่วประเทศ โดยระบุว่าบริษัทกำลังจะย้ายฐานการผลิตในต่างแดนแทน เนื่องจากค่าแรงของแรงงานในอเมริกานั้นค่อนข้างสูง โดยแผนการปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าว สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับประธานาธิบดี Donald Trump แห่งสหรัฐฯ โดยเฉพาะการระงับการผลิตในโรงงานที่รัฐ Ohio  ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานเสียงของเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 2 ปีก่อน โดยผู้นำสหรัฐฯได้ให้สัมภาษณ์กับ wall street journal ว่า GM ควรยุติการผลิตรถยนต์ในจีน และมาเปิดโรงงานใหม่ใน Ohio เพื่อทดแทนกับโรงงานที่บริษัทมีแผนจะยุติการผลิต รายงานข่าวระบุว่า โรงงานทั้ง 5 แห่งในอเมริกาเหนือของ GM มีการจ้างพนักงานเกือบ 7 พันคน โดยในจำนวนนั้น 3 พันคนเป็นพนักงานของโรงงานใน Ontario “ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือการเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ความคล่องตัวขั้นสูง ความยืดหยุ่นและผลกำไร สำหรับการลงทุนในอนาคต เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอยู่เเถวหน้าในตลาดเเละยึดถือความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อความสำเร็จในระยะยาวของบริษัทMary Barra  ซีอีโอของ General Motors ระบุในเเถลงการณ์ ทั้งนี้ ในการปรับลดพนักงานนั้น ราว 25% จะเป็นการปรับลดพนักงานในระดับบริหารเพื่อให้การตัดสินใจมีความยุ่งยากน้อยลง เเละคาดว่าแผนการปฏิรูปองค์กรดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ถึง 6 พันล้านเหรียญภายในสิ้นปี 2020 ขณะที่หลังจากบริษัทมีประกาศจากเป็นทางการ พนักงานประจำโรงงานในรัฐ Ontario ของเเคนาดา ได้ผละงานเพื่อประท้วงการปิดโรงงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้านนายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ของเเคนาดา เเสดงความผิดหวังต่อกรณีนี้ พร้อมเผยว่า พนักงานของ GM เป็นส่วนหนึ่งในหัวใจและจิตวิญญาณของ Oshawa มาหลายชั่วอายุคน และเราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากข่าวนี้ ให้พวกเขากลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง https://twitter.com/JustinTrudeau/status/1067082236686753792?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1067082236686753792&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.cnn.com%2F2018%2F11%2F26%2Fbusiness%2Fgm-oshawa-plant%2Findex.html   ที่มา