‘เดอะมอลล์’ จับมือบริษัท AI จีน นำ ‘รถเข็นอัจฉริยะ’ ให้บริการที่กูร์เมต์ สแกนบนรถเข็น ค้นหาสินค้าได้เลย - Forbes Thailand

‘เดอะมอลล์’ จับมือบริษัท AI จีน นำ ‘รถเข็นอัจฉริยะ’ ให้บริการที่กูร์เมต์ สแกนบนรถเข็น ค้นหาสินค้าได้เลย

‘เดอะมอลล์’ ปรับตัวสู้ศึกซูเปอร์มาร์เก็ตเดือดยาวปีหน้า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน-กำลังซื้อชนชั้นกลางหด ล่าสุดจับมือบริษัท AI จีน นำรถเข็นอัจฉริยะ 200 คัน มาให้บริการที่กูร์เมต์ 12 ธ.ค. นี้ หวังจับ consumer insight ก่อนให้บริการแบบ “personalize” เต็มรูปแบบ สร้าง new s-curve ปีหน้า


    สถานการณ์เศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือน ความไม่มั่นคงในต่างประเทศ และภาวะสงคราม ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นเซ็กเมนต์ค้าปลีกที่ยังเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักได้ ค้าปลีกประเภทต่างๆ ทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต คอนวีเนียนสโตร์จึงขยายธุรกิจของตนเองมาในฟอร์แมตที่ใกล้เคียงกับซูเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น ขณะที่เชนซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างท็อปส์ก็ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

    “การแข่งขันในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตจะยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีกระดับ เพราะความ dynamic ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ด้วยสภาพเศรษฐกิจ ขนาดของครอบครัว ทำให้ลักษณะการบริโภคเปลี่ยนไป” ศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าว

    ปัจจุบันผู้บริโภคซื้อของเข้าบ้านเพื่อปรุงอาหารทานเองที่บ้านน้อยลง คนที่ยังทำกับข้าวอยู่จะเป็นคนชานเมืองและคนรักสุขภาพ ส่วนคนในเมืองจะมีพฤติกรรมสองแบบ ทั้งซื้ออาหารทานเอง และยังทำกับข้าวให้ครอบครัว แต่ลดขั้นตอนให้ง่ายขึ้น สำหรับบางคนที่ยังชอบทำอาหารอยู่ ก็จะหันมาใช้วัตถุดิบที่ปรุงสุกมาบ้างแล้ว ไม่ต้องหั่นผัก หั่นเนื้อเอง นอกจากนี้ยังมีบางกลุ่มชอบนั่งทานอาหารในซูเปอร์ฯ ที่มีเชฟปรุงให้เรียบร้อย หรือมีขายสำเร็จรูปอยู่แล้ว

    “ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมจากทำกับข้าว มาเป็น semi-cooking และ eating การเข้าถึงข้อมูล เข้าใจสินค้า รู้จักเทรนด์ใหม่ และคู่แข่งที่ขยายธุรกิจในฟอร์แมตที่ใกล้เคียงกับซูเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น ทำให้กูร์เมต์ มาร์เก็ต จะโฟกัสเรื่อง personalize กับลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ไตรมาสสองของปีหน้าเป็นต้นไป” ศุภวุฒิบอก

    การโฟกัสเรื่อง personalize นั้น ‘เทคโนโลยี’ จะเป็นอีกสิ่งที่ช่วยจะนำความต้องการของลูกค้ามาพัฒนาประสบการณ์ช็อปปิ้งให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมได้ กูร์เมต์ มาร์เก็ต จึงร่วมมือกับ Trolle พาร์ตเนอร์ด้าน AI จากประเทศจีน พัฒนาและเปิดตัว Gourmet Market Smart Cart ที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต


    “เราเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าแรกในประเทศไทยที่นำนวัตกรรมรถเข็นช็อปปิ้งอัจฉริยะมาใช้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Shopping Made Easy at Once ตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกรวดเร็วในการค้นหาสินค้าที่ต้องการซื้อ การเข้าถึงโปรโมชันต่างๆ และราคา ภายในรถเข็นคันเดียว” พลอยชมพู อัมพุช ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ปกล่าว

    การใช้งานของ Gourmet Market Smart Cart ทำได้ง่ายๆ เริ่มจาก

    1.ล็อกอิน M Card ที่หน้าจอเพื่อรับสิทธิพิเศษ
    2.ค้นหาสินค้าและตำแหน่งของสินค้าว่าอยู่ตรงไหนของซูเปอร์
    3.สแกนบาร์โค้ดสินค้าเพื่อช็อป
    4.ชำระเงินด้วยตนเองที่เครื่อง Self-Check Out เฉพาะรถเข็นอัจฉริยะนี้ที่มีบริการ 2-3 เคาน์เตอร์


    ในช่วงแรกจะมีรถเข็นจำนวน 200 คัน นำร่องให้บริการที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาสยามพารากอน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ สาขาเอ็มโพเรียม และสาขาเอ็มควอเทียร์ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 นี้ และมีแผนเพิ่มการใช้งานที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ในปี 2568 ส่วนรถเข็นทั่วไปยังให้บริการตามปกติ

    “รถเข็นอัจฉริยะไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องความสะดวกสบายในการช็อปปิ้ง แต่ยังเป็น data base ที่ช่วยทำให้เราบริการลูกค้าในแบบ personalize ได้อย่างสมบูรณ์ ใครซื้ออะไร ชอบสินค้าแบบไหน ใครคือคนที่สนใจซื้อจริง เป็น The right offer to the right person” พลอยชมพูกล่าวย้ำ


    ศุภวุฒิกล่าวต่อว่า ปัจจุบัน กูร์เมต์ มาร์เก็ต มีสาขาทั้งหมด 17 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ 16 สาขา และที่เดอะมอลล์โคราช 1 แห่ง ในปีหน้าบริษัทมีแผนจะเปิดกูร์เมต์ มาร์เก็ต 1-2 แห่ง บนพื้นที่เช่าจากแลนด์ลอร์ด ซึ่งจะมีพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 50-60 ล้านบาท

    ขณะเดียวกันก็จะปรับโฉมแฟล็กชิปสโตร์ของกูร์เมต์ มาร์เก็ต ให้ช็อปปิ้งได้ง่ายขึ้น เพิ่มสัดส่วนสินค้าซูเปอร์ฯ และส่วนของกิน อาหารสด อาหาร take home ให้อยู่ในสัดส่วนเท่าๆ กัน จากเดิมที่จะเน้นของซูเปอร์ฯ ถึง 80%

    แพลตฟอร์มของซูเปอร์ฯ และ eating จะเชื่อมกันอย่างไร้รอยต่อ การปรับโฉมจะทำในสาขากูร์เมต์ มาร์เก็ตที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์เป็นหลัก นอกจากนี้จะเพิ่มอาหารในโซน western deli มากขึ้นที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต เอ็มโพเรียม และปรับพื้นที่ให้ดูพรีเมียมขึ้น บางสาขาจะเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้ซื้ออาหารจากร้านต่างๆ มาทานร่วมกันได้

    ในแง่สินค้า นอกจากบริษัทจะหาสินค้าที่หายาก สินค้าที่มีจำกัด สินค้าพิเศษจากเซเลบริตี้ เพื่อสร้างความแตกต่างแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญในการนำสินค้า own-brand คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล จากซัพพลายเออร์และแบรนด์ของบริษัทเองมาจำหน่ายมากขึ้น เพราะเห็นสัญญาณการตอบรับที่ดีในปีนี้

    “ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตจะลำบากมากในปีหน้า ไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร จะเกิดสงครามหรือไม่ และมี third party เข้าร่วมอีกหรือเปล่า ความไม่มั่นคงในยุโรป หนี้ครัวเรือน การใช้จ่ายที่ลดลงของคนชั้นกลางโดยทั่วไปในรอบ 10 ปี สิ่งที่เราเตรียมทุกอย่างในปีนี้จะเป็น springboard ในการขยายธุรกิจให้ กูร์เมต์ มาร์เก็ตในปีหน้าและปีต่อไป

    “เราต้องเร่งเข้าใจลูกค้าให้ลึกซึ้งที่สุด เพื่อตอบสนองพวกเขาแบบ personalize เต็มรูปแบบในทุกมิติ ถ้าเราพัฒนาไม่พอ เราจะถอยหลัง และถ้าต้องวิ่งเราจะวิ่งไปข้างหน้า 2 ก้าว เราก็ต้องทำ เพื่อให้เกิด new s-curve ส่วนเรื่องการขยายสาขา เราจะไปในทำเลที่เราจะต้องชนะเท่านั้น” ศุภวุฒิกล่าว ก่อนจะเสริมว่าธุรกิจกูร์เมต์ มาร์เก็ต เติบโตเป็นตัวเลขสองหลักตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และใน 11 เดือนของปีนี้ยอดขายเติบโต 10% และคาดว่าจะเติบโตได้ทั้งปีราว 12%



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เดอะมอลล์’ ขยายพันธมิตรค้าปลีกเพิ่ม เน้นประเทศที่คนไทยชอบไปเที่ยว พร้อมต่อสัญญา ‘แพรงตองค์’ และ ‘ดองกี้’ อีก 1 ปี

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine