เดอะมอลล์ กรุ๊ป เล็งต่อสัญญา ‘แพรงตองค์’ ห้างหรูฝรั่งเศส และ ‘ดองกี้’ จากญี่ปุ่นอีก 1 ปี พร้อมผนึกพันธมิตรค้าปลีกประเทศท่องเที่ยวชั้นนำเอเชีย-ยุโรปเพิ่ม ล่าสุดเซ็นสัญญากับศูนย์การค้า K11 Musea ในฮ่องกง ก่อนขยายเครือข่ายช็อปปิ้งอีก 5 แห่งทั้งยุโรปและเอเชีย
กลุ่มเดอะมอลล์ สร้างเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกเพื่อเสริมศักยภาพในระดับโกลบอล ด้วยการจับมือกับมัตสึยะกินซ่าในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เพื่อขยายสิทธิประโยชน์ให้สมาชิก M Card เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา
จนถึงปัจจุบันสมาชิก M Card ตลอดจนผู้ถือบัตร Co-Brand เครดิตการ์ด Bangkok Bank M Visa สามารถช็อปปิ้งได้อย่างไร้รอยต่อ ที่ช็อปปิ้งมอลล์ชั้นนำทั่วโลกถึง 18 แห่งใน 9 ประเทศ ได้แก่ แพรงตองค์ (Printemps) ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของฝรั่งเศส บนถนน Haussmann ในกรุงปารีส, เอล คอร์เต้ อิงเลส เอสเอ (El Corte Ingles) ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในสเปน, ช็อปปิ้งเอาท์เล็ตในเครือ เดอะบิสเตอร์ คอลเลคชั่น (The Bicester Collection) ที่มีสาขาอยู่ 9 แห่งในยุโรป อาทิ อิตาลี เยอรมนี เบลเยียม และไอซ์แลนด์, ดองกิโฮเต้ (Don Quijote) หรือ ดองกี้ ในประเทศญี่ปุ่น, ซันเวย์ ซิตี้ (Sunway City) ประเทศมาเลเซีย
วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเซ็นสัญญากับ K11 Musea ศูนย์การค้าในเขตพิเศษฮ่องกง เพื่อขยาย shopping privilege network ให้กับสมาชิก M Card และผู้ถือบัตร Co-Brand เครดิตการ์ด Bangkok Bank M Visa ของเดอะมอลล์ มีผลตั้งแต่ต้นเดือนหน้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับค้าปลีกในสิงคโปร์เพื่อเติมเต็มช็อปปิ้งอีโคซิสเต็มของเดอะมอลล์ คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาได้ในราวไตรมาสแรกของปีหน้า นอกจากนี้แล้วบริษัทตั้งเป้าว่า จะมีการเซ็นสัญญาทำความร่วมมือกับพันธมิตรค้าปลีกอีก 4 แห่ง มีทั้งพันธมิตรจากประเทศเดิมและพันธมิตรรายใหม่
“เราพยายามจะหาพันธมิตรใหม่ในทุกประเทศที่คนไทยชอบไปเที่ยว คาดว่าจะมีเครือข่ายอยู่ในอีโคซิสเต็มของเราประมาณ 30-40 รายในอนาคต” วรลักษณ์กล่าว และว่า บริษัทจะเลือกพันธมิตรจากข้อมูลสมาชิก ซึ่งพบว่า ประเทศที่เลือกช็อปปิ้งสูงสุดในยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส, สวิสเซอร์แลนด์ และอังกฤษ ขณะที่ในเอเชียอยู่ที่ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ฮ่องกง
เนื่องจากความร่วมมือกับแพรงตองค์และดองกี้ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา กำลังจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคมนี้ บริษัทจึงอยู่ระหว่างการพูดคุยกับพันธมิตรทั้งสองรายเพื่อต่อสัญญาอีก 1 ปี
โชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมกับเดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดตัวบัตรเครดิตและบัตรเดบิต Co-Brand “Bangkok Bank M Visa” ใน 1 ปีที่ผ่านมา สามารถเพิ่มฐานลูกค้าบัตรในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มเซเลบริตี้ได้เป็นจำนวนมาก
โดยเซกเมนต์มีการใช้จ่ายผ่านบัตรมากที่สุดคือ ห้างสรรพสินค้า รองลงมาคือ Insurance และ Retail Goods มีค่าเฉลี่ย Achieve Customer มากกว่า 50-70% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยปัจจัยที่เร่งให้เกิดการใช้จ่ายน่าจะมาจากบัตรเครดิต Bangkok Bank M สามารถสะสมคะแนน M Point ได้เร็วสูงสุดถึง 4 เท่า ในขณะที่บัตรเดบิต Bangkok Bank M Visa ให้คะแนนคูณ 2 เมื่อใช้จ่ายภายให้ห้างสรรพสินค้าในเครือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และยังได้สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์การอำนวยความสะดวกด้านไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว เช่น รถรับส่งสนามบิน ห้องรับรองภายในสนามบิน ตลอดจนเอกสิทธิ์ต่างๆ เมื่อช็อปปิ้งในห้างฯ ต่างประเทศ ที่ร่วมโปรแกรมกับกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป
รวมถึงยอดใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้า กลุ่ม เดอะมอลล์ กรุ๊ป สามารถใช้ร่วมกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษ โดยเฉพาะกิจกรรมด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งได้รับความนิยมมาก ในปีหน้าบริษัทจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การร่วมขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยว และการให้บริการเพิ่มขึ้น
สำหรับบัตรที่ธนาคารกรุงเทพเตรียมเปิดตัวในครึ่งปีแรกของปีหน้า ได้แก่ บัตร Prepaid และบัตรกดเงินสด Revolving Card เพื่อขยายให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า
โดยบัตร Prepaid จะเน้นให้บริการลูกค้ากลุ่ม Tourist ที่สะสม M Point และส่วนใหญ่มีแนวโน้วกลับมาใช้จ่ายในเมืองไทย ทำให้ทุกการใช้จ่ายคุ้มค่าและเพิ่ม Loyalty ให้กับกลุ่ม Tourist ที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ส่วนบัตรกดเงินสด Revolving Card เป็นบัตรที่ออกมาเพื่อลูกค้าที่ต้องการสภาพคล่องทางการเงินและมีวงเงินไว้เผื่อยามฉุกเฉิน
ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพรวม 4 แสนกว่าใบ จากฐานข้อมูลการใช้จ่ายของลูกค้าเดอะมอลล์พบว่า ประเทศที่ลูกค้าชอบไปคือ ญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ ฮ่องกง และจีน คาดว่าจำนวนบัตรจะเพิ่มเป็น 1 ล้านใบหลังจากธนาคารกรุงเทพได้ออกบัตร Prepaid และบัตรกดเงินสด Revolving Cardในครึ่งปีแรกของปีหน้า
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ทำไมต้อง ‘Chidlom Pink’ ? เจาะลึกการปรับโฉม ‘เซ็นทรัลชิดลม’ ครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine