SHARP คัมแบ็กหลังเงียบกว่า 10 ปี ปรับดีไซน์ครั้งใหญ่สุดใน 52 ปี พร้อมสู้ศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก - Forbes Thailand

SHARP คัมแบ็กหลังเงียบกว่า 10 ปี ปรับดีไซน์ครั้งใหญ่สุดใน 52 ปี พร้อมสู้ศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก

SHARP กลับมาแล้วปีนี้ หลังเงียบกว่า 10 ปีซุ่มพัฒนาสินค้าและปรับดีไซน์ครั้งใหญ่สุดใน 52 ปี และเสริมแกร่งช่องทางขาย เผยปีนี้พร้อมสู้ศึกเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ส่งสินค้าใหม่ทุกหมวดสู่ตลาด เปลี่ยนทั้งรูปลักษณ์และดีไซน์ ดึงคนรุ่นใหม่


    แม้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในเมืองไทยมูลค่าตลาดกว่า 80,000 ล้านบาท จะยังคงเผชิญความท้าทายต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยลบจากต่างประเทศและในประเทศโดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ทำให้มีผลต่อกำลังซื้อที่ลดลง ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและภาพรวมเศรษฐกิจที่ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายค่ายทั้งแบรนด์จีน แบรนด์เกาหลี และแบรนด์ญี่ปุ่น อาทิ ทีซีแอล ไฮเออร์ ไฮเซนส์ โตชิบ้า และแอลจี ได้ออกมาประกาศแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

    ไม่เว้นแม้แต่ ‘ชาร์ป’ หรือ SHARP เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กภายใต้ บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ที่อยู่ในตลาดนี้มามากกว่า 52 ปี ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวในตลาดเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 10 ปี

    วิโรจน์ ทานัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด เปิดเผยว่า ชาร์ป พร้อมแล้วที่จะกลับมาทำตลาดอีกครั้งในปีนี้ โดยในไตรมาสแรกจะเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์ มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ชอบการแต่งบ้าน ชอบสินค้าที่มีดีไซน์ และเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ กระจายตัวอยู่ในทุกพื้นที่ เพื่อครองความเป็นหนึ่งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก

วิโรจน์ ทานัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด


    สินค้าใหม่ไตรมาสนี้จะประกอบด้วย พัดลม ชาร์ป ขนาด 18” ที่มีดีไซน์ใหม่ ทน และสวยงามเข้ากับการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลได้อย่างดี โดยชาร์ปรับประกันทุกชิ้นส่วน 3 ปี คุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น และมั่นใจด้วยความปลอดภัย 3 ระบบ คือ มีอุปกรณ์ตัดไฟเมื่อความร้อนเกิน เมื่อกระแสไฟเกิน และเนื่องจากพัดลมของชาร์ปใช้พลาสติกเกรด V0 จึงไม่ลามไฟ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องฟังชั่นก์การใช้งาน ดีไซน์และความปลอดภัย


    ปัจจุบันชาร์ปมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ที่มีแชร์ใกล้ผู้นำตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ และทิ้งห่างเบอร์ 3 มากขึ้น แม่จะเจอคู่แข่งจันจากจีน แต่ชาร์ปบอกว่าไม่มีผลกระทบ เพราะกลยุทธ์ของชาร์ปคือเน้นพัฒนาสินค้าที่ไม่ได้ตอบโจทย์เพียงแค่การใช้งาน แต่ผลิตให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์สวยงามเข้ากับบ้านได้

    นอกจากพัดลมแล้ว บริษัทยังเพิ่มไลน์หม้อหุงข้าว ชาร์ป CUBE ขนาด 1 ลิตร มีสีขาวและสีชมพูให้เลือก โดยหม้อหุงข้าวรุ่นใหม่ได้ปรับจากรูปแบบหม้อหุงข้าวที่คุ้นเคยสู่หม้อหุงข้าวมิติใหม่ที่มีดีไซน์สวยเรียบ มินิมอล เข้าได้กับทุกครัว หุงง่าย กระจายความร้อนได้ทั่วถึง เคลือบสารกันติด ทำความสะอาดง่าย ตอบโจทย์ทั้ง functional และ emotional ปัจจุบันชาร์ปเป็นผู้นำตลาดหม้อหุงข้าวด้วยส่วนแบ่งตลาด 40% จากตลาดรวมหม้อหุงข้าว 4,000 ล้านบาท


    หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดหม้อทอดไร้น้ำมันขนาด 7 ลิตรในปีที่ผ่านมา ในปีนี้บริษัทได้แนะนำหม้อทอดไร้น้ำมันใหม่อีก 2 ขนาด คือ ขนาด 4.2 ลิตร และ 6.8 ลิตร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำอาหารของครอบครัวยุคใหม่ทุกขนาด ที่เน้นความสะดวก เร็ว ง่าย แต่ยังได้สุขภาพที่ดี


    และเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้แนะนำสินค้าเตารีดไอน้ำสู่ตลาด หลังจากที่เป็นผู้นำด้านเตารีดแห้งมาแล้ว เตารีดไอน้ำ ชาร์ป ที่วางตลาดในปีนี้จะมีทั้งหมด 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ รุ่น 1,800 วัตต์ (EI-S300), 2,000 วัตต์ ( EI-S301) และ 2,400 วัตต์ (EI-S302) ที่ถูกออกแบบมาให้รีดผ้าได้ง่ายและประหยัดเวลาขึ้น


    “ชาร์ปเข้าสู่ตลาดเตารีดไอน้ำเป็นครั้งแรก เพราะอัตราการใช้ในครัวเรือนยังต่ำกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กชนิดอื่น ตลาดเตารีดไอน้ำในไทยซึ่งมูลค่ารวมอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทต่อปี มีการเติบโตต่อเนื่อง และด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ชาร์ป ดีไซน์และโครงสร้างทีมขายที่แข็งแรง เตารีดไอน้ำของชาร์ปจะเข้าถึงลูกค้าเจนเนอเรชั่นใหม่ได้” วิโรจน์กล่าว

    นอกจากนี้แล้วบริษัทยังได้แนะนำเครื่องทำน้ำอุ่นชาร์ปสู่ตลาดอีกสองรุ่น ได้แก่ รุ่น MODI (โมดี้) ขนาด 3,500 วัตต์ และ 4,500 วัตต์ ถือเป็นการปรับดีไซน์เครื่องทำน้ำอุ่นครั้งใหญ่ เน้นออกแบบให้ตัวเครื่องสวยโมเดิร์น มินิมอล เข้ากับเทรนด์ห้องน้ำในปัจจุบัน และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการแต่งบ้าน โดยสีที่ออกวางจำหน่ายแล้วมี 2 สี ได้แก่ สีขาว และสีเทา และปีนี้พร้อมเปิดตัวสีใหม่ล่าสุด คือสีดำ เพื่อตอบโจทย์ทุกสไคล์ของลูกค้า


    สำหรับตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กมีมูลค่าตลาดมากกว่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น พัดลมประมาณ 7,000 ล้านบาท หม้อหุงข้าว 4,000 ล้านบาท เตารีดไอน้ำ 2,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอื่นๆ

    “การกลับมาเคลื่อนไหวทางการตลาดครั้งนี้ เรามั่นใจว่าสินค้าใหม่ทุกตัวจะตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปและได้ฐานลูกค้าอายุ 25 ปีมากขึ้นจากเดิมฐานลูกค้าหลักจะอายุ 35 ปี และเพิ่มความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้า ปรับตัวให้ทันกับทิศทางของโลกธุรกิจ เพื่อพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในอนาคต” วิโรจน์กล่าว



ภาพ: SHARP



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : LG ทุ่มงบการตลาด 100 ล้าน เปิดตัวแอร์ใหม่มีนวัตกรรม AI พร้อมดึง ‘เจฟ ซาเตอร์’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine