RAGTAG ร้านแฟชั่นมือสองจากญี่ปุ่น ประกาศขยายตลาดสู่ประเทศไทย หลังผนึกกำลังกับบริษัทกลุ่มสหพัฒน์ - Forbes Thailand

RAGTAG ร้านแฟชั่นมือสองจากญี่ปุ่น ประกาศขยายตลาดสู่ประเทศไทย หลังผนึกกำลังกับบริษัทกลุ่มสหพัฒน์

“แร็กแท็ก” (RAGTAG) ประกาศขยายธุรกิจครั้งสำคัญสู่ประเทศไทย ผนึกกำลังกับ 4 บริษัทเครือสหกรุ๊ป นำแบรนด์สินค้าแฟชั่นมือสองระดับดีไซเนอร์มาสู่กรุงเทพฯ


    ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเครือสหกรุ๊ป หลังจากจับมือกับบริษัท เวิลด์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน “แร็กแท็ก” (RAGTAG) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งสำคัญเพื่อนำร้านค้าดีไซเนอร์แฟชั่นมือสองอย่าง “แร็กแท็ก” (RAGTAG) เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

    โดยมี นายโนบุเทรุ ซูซูกิ ประธานและตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าชั้นนำของญี่ปุ่น และบริษัทแม่ของ Tin Pan Alley Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการ “แร็กแท็ก” (RAGTAG) และ กลุ่มสหพัฒน์ โดยนายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย ร่วมลงนามในความร่วมมือดังกล่าว


    ทั้งนี้ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกรวมความเชี่ยวชาญของผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งสองเข้าด้วยกัน เพื่อปูทางไปสู่การขยายธุรกิจแฟชั่นที่ยั่งยืนและเป็นผู้นำเทรนด์ในประเทศไทย

    สำหรับตลาดสินค้ามือสองเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่น ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ตระหนักในความรับผิดชอบและแสวงหาทางเลือกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ความสามารถในการซื้อ และความเป็นปัจเจกมากขึ้น

    แฟชั่นที่นำกลับมาใช้ใหม่จึงกลายมาเป็นกระแสที่ทรงพลังในการเปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์การค้าปลีกทั่วโลก การเข้ามาของ “แร็กแท็ก” (RAGTAG) ในประเทศไทยเป็นเครื่องพิสูจน์การเปลี่ยนแปลงนี้ โดยให้ผู้บริโภคเข้าถึงชิ้นงานของนักออกแบบคุณภาพสูงที่ไม่ซ้ำใครในขณะที่สอดคล้องกับค่านิยมด้านความยั่งยืนพร้อมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม


    “แร็กแท็ก” (RAGTAG) เป็นชื่อชั้นนำของญี่ปุ่นในด้านร้านค้าแฟชั่นหรูมือสองซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีร้านค้า 23 แห่งที่เปิดดำเนินการในญี่ปุ่น หลังจากเปิดร้านแห่งแรกในฮาราจูกุ โตเกียว ในปี 2528

    โดยบริษัทซื้อสินค้า 700,000 ชิ้นต่อปี และสินค้าที่ซื้อทั้งหมดจะถูกนำมาจัดสรรในคลังสินค้ากลาง พร้อมตรวจสอบคุณภาพ และซ่อมแซมก่อนจำหน่าย


    นอกเหนือจากการจำหน่ายในร้านแล้ว บริษัทยังนำผลิตภัณฑ์จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีความรวดเร็วอีกด้วย ในส่วนของผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายหน้าร้านค้าเป็นสินค้ามือสองคุณภาพสูงที่คัดสรรโดยผู้ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขในการเลือกซื้อสินค้าด้วยความสบายใจ ส่งผลให้สามารถดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองมาโดยตลอด

    ทั้งนี้ บริษัท เวิลด์ จำกัด ผู้ค้าปลีกแฟชั่นชื่อดังจากญี่ปุ่น เป็นเจ้าของ “แร็กแท็ก” (RAGTAG) ผ่าน Tin Pan Alley บริษัทในเครือ โดยบริษัทได้วางตัวในตลาดแฟชั่นมือสองอย่างมีกลยุทธ์ เป็นผลให้มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนโฉมหน้าแฟชั่นมือสองให้กลายเป็นประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ทั้งน่าประทับใจและสามารถเข้าถึงได้

    สำหรับกลุ่มสหพัฒน์ ซึ่งมี บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในภาคค้าปลีกและแฟชั่นของประเทศไทย มีเครือข่ายที่กว้างขวางและมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจการค้าปลีกของประเทศ การประสานความร่วมมือของพันธมิตรทั้งสองจะสามารถร่วมกันสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์แฟชั่นสุดหรูในรูปแบบใหม่

    ไม่เพียงเท่านั้น ธุรกิจนี้ยังตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดสินค้ามือสองในประเทศไทย ซึ่งขับเคลื่อนโดยนักช็อปรุ่นใหม่ที่ชาญฉลาดและใส่ใจในสไตล์ แนวทางการคัดสรรสินค้าสวยหรูมือสองของ “แร็กแท็ก” (RAGTAG) มอบโอกาสที่น่าตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคชาวไทยในการเลือกช้อปสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์ในราคาที่เอื้อมถึงได้ พร้อมรวบรวมความเป็นเอกลักษณ์และสไตล์ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เครือสหพัฒน์ x ร้านทำสีผมจากญี่ปุ่น เปิด ‘fufu’ สาขาแรกที่ทองหล่อ ต.ค.นี้ ใช้ ‘ช่างไทย’ ที่ฝึกฝนโดยคนญี่ปุ่น

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine