จากพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ สู่ ‘Phenix’ เปิดแล้วศูนย์อาหารหมื่นล้านของ AWC ในเครือเจ้าสัวเจริญ - Forbes Thailand

จากพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ สู่ ‘Phenix’ เปิดแล้วศูนย์อาหารหมื่นล้านของ AWC ในเครือเจ้าสัวเจริญ

AWC เปิดตัวโครงการ ‘Phenix’ อย่างเป็นทางการ มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท หลังพลิกโฉมจากห้างไอทีในตำนานอย่าง ‘พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ’ แล้วเสร็จ โชว์จุดแข็งผสานออฟไลน์และออนไลน์ของทั้งค้าส่งและค้าปลีกด้านอาหาร ตั้งเป้าสร้างไทยสู่จุดหมายปลายทางด้านอาหารชั้นนำของโลก


    หลังทำการรีโนเวตห้างไอทีในตำนานของไทยอย่าง ‘พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ’ มาตั้งแต่ช่วงโควิด ล่าสุดกลุ่ม AWC ก็ได้เปิดตัว ‘Phenix’ ศูนย์กลางด้านอาหารทั้งค้าส่งและค้าปลีก อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (26 มิ.ย. 2567) โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมสถานทูต ภาครัฐ และภาคเอกชนในวงการอาหาร ร่วมเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่


    วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า “AWC เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแข็งแกร่งด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอาหารของไทยตามนโยบายภาครัฐ ด้วยการสร้างศูนย์กลางด้านอาหารระดับโลกรวมอยู่ที่ประเทศไทยใจกลางเมืองในย่านประตูน้ำ

    “Phenix เป็นโมเดลรูปแบบใหม่ครั้งแรกของโลก ที่จะตอบโจทย์การค้าส่งและค้าปลีก ด้วยการเชื่อมผู้ประกอบการ ผู้ซื้อ และผู้ขายด้านอาหารจากทั่วโลก (B2B & B2C) เข้าด้วยกันผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ (OMNI Channels) ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท ที่ได้พัฒนาจาก ‘พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ’ เดิม สู่โฉมใหม่ในชื่อ ‘Phenix’ บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านประตูน้ำกว่า 69,000 ตารางเมตร เพื่อให้ผู้ผลิต และผู้ประกอบการธุรกิจอาหารทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ได้มาพบกับผู้ขายโดยตรง

    โดยชูจุดแข็ง ‘ครบครัน คุ้มค่า ราคาส่ง’ รวมถึงความร่วมมือกับนานาชาติในการนำ International Pavilions มาร่วมจัดแสดงสินค้าอาหารชั้นนำ รวมถึงกลุ่มธนาคารชั้นนำเพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการ เพิ่มโอกาสพร้อมติดปีกให้กับธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมจัดกิจกรรมที่จะตอบโจทย์ผู้ประกอบการด้านอาหารตลอดปี

    “เดิมเราใช้ชื่อโครงการว่า AEC Food Wholesale แต่เรามีแพลตฟอร์มออมนิแชนแนลอยู่แล้วชื่อ Phenix Box เลยมาคิดว่าถ้ามีหลายชื่อ คนจะงง เลยเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Phenix และไปเล่าให้คุณพ่อ (เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี) ท่านก็ถามถึงความหมาย ซึ่งก็หมายถึงรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน ท่านก็โอเค เลยโทรบอกทีมงานว่าตกลงว่าเราใช้ชื่อ Phenix” วัลลภาเล่าย้อนถึงการตัดสินใจเปลี่ยนชื่อศูนย์ในครั้งนี้

    โดยโครงการ Phenix มีทั้งหมด 6 ชั้น ประกอบไปด้วยจุดเด่น 3 ส่วน คือ Retail, Wholesale และ Ecosystem


    โดยพื้นที่รีเทลนั้นถือว่าเป็นพื้นที่ Co-living มากกว่า 20,000 ตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็น Phenix Grand Ballroom, Phenix Auditorium Hall, พื้นที่ครัวสาธิต Taste Kitchen, ห้องสัมมนา, ห้องประชุม ที่พร้อมรองรับผู้ประกอบการด้านอาหารทุกคนในระบบนิเวศ

    ไฮไลต์ที่น่าสนใจของหมวดค้าปลีกก็คือ Food Lounge แหล่งรวมอาหารและเครื่องดื่มที่รวมร้านสตรีทฟู้ดระดับตำนาน ร้านอาหารระดับมิชลินแนะนำ และร้านดังทั่วไทย กว่า 200 ร้าน อาทิ ร้านผัดไทยไฟทะลุ April's Bakery ฮั่วเซ่งฮง อิ๋วหมี่กระเฉดตลาดพลู อาหลิวราดหน้า และหยกสด เป็นต้น ซึ่ง AWC ตั้งเป้าขยายร้านค้าเป็น 265 ร้านค้า


    นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ Networking Zone มาพร้อมที่นั่งหลากหลายสำหรับนัดประชุมหรือสังสรรค์กับเพื่อนและคู่ค้า, Chill Zone สำหรับนั่งทำงาน พร้อมปลั๊กสำหรับชาร์จไฟที่มีอย่างทั่วถึง, Family Zone โซนครอบครัวที่รังสรรค์พื้นที่สนามเด็กเล่นให้คุณหนูได้เล่นสนุกและอิ่มอร่อยไปกับเมนูอร่อยสำหรับครอบครัว

    Dining & Entertainment Zone พื้นที่รับประทานอาหารและแฮงเอาท์ พร้อมดนตรีสด การแสดงโชว์ และจอถ่ายทอดสดขนาดยักษ์ รวมถึง Grab & Go Zone จุดรับและสั่งอาหารผ่านแอป

    ขณะที่ในส่วนของ Wholesale หรือค้าส่ง ตั้งเป้าเป็นแหล่งรวมศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารและไลฟ์สไตล์ใจกลางเมืองผ่าน Phenix Business เชื่อมต่อผู้ซื้อและผู้ขายตลอด 365 วัน และออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.phenixbox.com ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางด้านอาหารระดับโลก รวบรวมผู้ขายระดับโลกกว่า 2,400 บริษัท

    และในส่วนของ Ecosystem นั้น Phenix ได้มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับผู้ประกอบการด้านอาหาร การเดินทางที่สะดวกสบาย วัตถุดิบและสินค้าที่หลากหลาย ครบครัน คุ้มค่า ราคาค้าส่ง

    โดยจะมีกิจกรรมและอีเวนต์ต่างๆ ตลอดทั้งปี ครอบคลุมทั้งการแข่งขัน World Junior Chef Championship คอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลก อาทิ Lisa Ono, Selena Jones, และ Kenny G พร้อมประสบการณ์ในการรับประทานอาหารแบบ Chef Table จากเชฟชื่อดัง การเปิดตัวสินค้าใหม่ กิจกรรมส่งเสริมทักษะความรู้ในด้านต่างๆ และ Phenix Academy



    นอกจากนี้ยังมีศูนย์ให้คำปรึกษาครบวงจรอย่าง Service Solution Center (SSC) ที่พร้อมให้บริการในทุกมิติของการทำธุรกิจ และมีพื้นที่กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายภายในโครงการด้วยพื้นที่ Livestreaming Studio สำหรับถ่ายภาพสินค้าและขายสินค้าแบบไลฟ์ โดยมีทีมงานที่พร้อมช่วยเหลือด้านการขายและประชาสัมพันธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

    วัลลยา ยังเผยอีกว่า โมเดลรายได้ของ Phenix นั้นจะมาจากค่าเช่าพื้นที่จากกลุ่ม Wholesale ที่มาเช่าพื้นที่ตั้งร้าน ซึ่ง AWC ไม่คิดค่าธรรมเนียมจากยอดขาย หรือ GP จากกลุ่มนี้ จากปกติที่แพลตฟอร์มอื่นๆ อาจเก็บค่า GP ในระดับ 30-50% ทำให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าราคาคุ้มค่าจากผู้ขายได้เลย

    ขณะรายได้อีกส่วนจะมาจากกลุ่ม Retail ซึ่งทำข้อตกลงกันในรูปแบบ Partnership ทำให้นอกจากค่าเช่าแล้ว จะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายของร้านด้วย โดยค่าเช่าของร้านค้าปลีกอยู่ที่ 3,600 บาท/ตารางเมตร

    วัลลภายังระบุถึงจุดแข็งของโครงการ Phenix เพิ่มเติมในแง่ของทำเลที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ใจกลางย่านประตูน้ำ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายทั้งระบบขนส่งมวลชน โดยรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มช่วง “ตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรมฯ” ซึ่งจะมีสถานีราชเทวีอยู่หน้าโครงการ ก็คาดว่าจะพร้อมให้บริการในปีหน้า

    นอกจากนี้ยังมีบริการที่จอดรถกว่า 700 คัน ซึ่งมีทั้งภายในศูนย์ฯ และจุดจอดอื่นๆ เช่น อาคารแอทินี ทาวเวอร์ และตลาดนีออน เป็นต้น และยังมีบริการรถ Shuttle Service กว่า 20 คันรับส่งฟรีตามจุดต่างๆ โดยรอบ โดยเปิดให้บริการทุกวันโซนพื้นที่ค้าส่งตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. และโซนฟูดเลาจน์ตั้งแต่เวลา 10.00-00.00 น.

    ทั้งนี้ AWC ตั้งเป้าทราฟิกผู้ใช้บริการโครงการ Phenix ในระยะแรกอยู่ที่ 10,000 คน/วัน และตั้งเป้า 20,000 คน/วันในอนาคต


เรื่องน่าสนใจ!

    ภายในโครงการ Phenix ยังได้อัญเชิญองค์ “พระพิฆเนศวร” ปางเหรัมภะคณปติ หรือ ปาง 5 เศียร 10 กร ประทับนั่งบนพญาราชสีห์ ซึ่งถือเป็นปางแห่งราชาของปางพระพิฆเนศวรทั้งปวงที่มีบารมีสูงสุด และเป็นมหาเทพแห่งความสำเร็จ ความสมหวัง ความรักและความสุข มาประดิษฐานอยู่ ณ บริเวณดาดฟ้าชั้น 6 ของโครงการฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย





เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ตลาด ‘ลักชัวรีแฟชั่น’ เมืองไทยผงาด เตรียมโค่นแชมป์สิงคโปร์ครั้งแรก แบรนด์หรูแห่เปิดช็อปเพิ่ม ห้างขยายพื้นที่

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine