ตลาดเบียร์ไทยมูลค่า 2.6 แสนล้านบาท ที่มีรายใหญ่เจ้าตลาดเดิมครองมาร์เก็ตแชร์รวมกันอยู่ราว 95% นั้น ดูเหมือนจะไม่ใช่หนทางที่ง่ายนักสำหรับเป้าหมายของ “กลุ่มคาราบาว” เบียร์ไทยน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา และหวังเป้าชิงส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ 10% ในปีนี้
แม้ในเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมาจะเพิ่งเปิดตัวเบียร์ตัวที่ 5 อย่าง “ตะวันแดง IPA” ไป เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ตลาดเบียร์ในประเทศไทย แต่ในภาพรวมนั้นดูเหมือนว่ากลุ่มคาราบาวจะยังมีอุปสรรคสำคัญในเรื่อง “ช่องทางการขาย” ที่ถึงแม้จะมีร้านค้าปลีกในเครืออย่าง CJ More แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ เพราะในช่องทางอื่นๆ กลับโดนสกัด จนถึงขั้นหุ้นส่วนของบริษัทอย่าง “แอ๊ด คาราบาว” ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงการถูกปิดกั้นช่องทางการขาย
แต่คำว่านักสู้ผู้ยิ่งใหญ่น่าจะอยู่ในสายเลือดของกลุ่มคาราบาว หลังล่าสุดได้เพิ่มช่องทางการขายใหม่ให้กับโปรดักต์เบียร์ นั่นก็คือการวางจำหน่ายเบียร์ของกลุ่มทั้งแบรนด์ "คาราบาว" และ “ตะวันแดง” บนเครื่องบิน โดยจะให้บริการในทุกเที่ยวบินระหว่างประเทศของ AirAsiaX
โดยแบรนด์ตะวันแดง ปัจจุบันมี 3 รสชาติด้วยกัน คือ คือ Weizen Beer (เบียร์ไวเซ่น) Rose Beer (เบียร์โรเซ่) และ IPA Beer (เบียร์ไอพีเอ)
ส่วนแบรนด์คาราบาวมี 2 รสชาติ ได้แก่ Lager Beer (เบียร์ลาเกอร์) และ Dunkel Beer (เบียร์ดุงเกล)
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากลุ่มคาราบาวที่มี “เสถียร เสถียรธรรมะ” เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารนั้น ได้ตอกย้ำถึงความพยายามในการเข้าสู่ตลาดเบียร์ไทยอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มลงทุน 4,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเบียร์ที่ จ.ชัยนาท นอกจากนี้ยังทุ่มงบการตลาดมากที่สุดในรอบ 20 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง เพื่อทำกิจกรรมการตลาดอย่างครบเครื่องในทุกช่องทาง ที่สำคัญก็คือการตัดสินใจต่อสัญญาเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันฟุตบอล Carabao Cup ต่อไปอีก 3 ปี กับ English Football League (EFL) รวมถึงการชวนผู้บริโภคร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีบินลัดฟ้าสู่ประเทศอังกฤษ ชมศึก Carabao Cup ฤดูกาล 2023/24 รอบชิงชนะเลิศ
และเชื่อว่าเหล่านี้รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายบนเครื่องบิน น่าจะเป็นเพียงกลยุทธ์ส่วนหนึ่งเท่านั้น ภายในปีนี้น่าจะเห็นกลยุทธ์ใหม่ๆ มางัดสู้เพิ่มเติมอีกแน่นอน ส่วนจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ คงต้องติดตาม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กลุ่มคาราบาวเปิดตัว ‘ตะวันแดง IPA’ เบียร์ตัวที่ 5 เขย่าตลาด 2.6 แสนล้าน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine