ค้าชายแดนไทย-ลาว มูลค่า 2.4 หมื่นล้าน! ‘ไปรษณีย์ไทย–ไปรษณีย์ลาว’ ลุย 5 ยุทธศาสตร์ หนุนโครงสร้าง ‘ระบบขนส่ง-การเงิน-คน-ข้อมูล’ ดันโอกาสเศรษฐกิจดิจิทัล ‘ไทย-ลาว-จีน’

ค้าชายแดนไทย-ลาว มูลค่า 2.4 หมื่นล้าน! ‘ไปรษณีย์ไทย–ไปรษณีย์ลาว’ ลุย 5 ยุทธศาสตร์ หนุนโครงสร้าง ‘ระบบขนส่ง-การเงิน-คน-ข้อมูล’ ดันโอกาสเศรษฐกิจดิจิทัล ‘ไทย-ลาว-จีน’

FORBES THAILAND / ADMIN
24 Nov 2025 | 02:11 PM
READ 150

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจอีคอมเมิร์ซและการค้าระหว่างประเทศจากไทยสู่ สปป.ลาว ขยายบทบาทผู้นำโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ลาว จำกัด ประชุมความร่วมมือด้านไปรษณีย์ครั้งที่ 29 เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสองชาติผ่าน 5 โซลูชันยุทธศาสตร์ เน้นการขับเคลื่อน e-Commerce ข้ามพรมแดน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ และนวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทย-ลาว-จีน มุ่งสู่การเป็น “Trusted ASEAN Brand” สู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์


    ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการค้าชายแดนระหว่างไทยและ สปป.ลาว มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เดือนกันยายนปี 2568 พบว่ามูลค่าการค้ารวมระหว่างสองประเทศมีมูลค่ากว่า 23,952 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของตลาด e-Commerce ในลาวที่มีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้โครงสร้างด้านเครือข่ายขนส่งและระบบการชำระเงิน มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสองประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง

    ดังนั้น ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างไปรษณีย์ไทยและไปรษณีย์ลาว จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัลในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะในระเบียงเศรษฐกิจไทย–ลาว–จีน ซึ่งมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องตามแนวเส้นทางรถไฟจีน–ลาว ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวของโลจิสติกส์ทางบกอย่างมีนัยสำคัญ

    ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ “Parcel Defined Logistics” เพื่อรองรับการจัดส่งพัสดุ ทุกรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าขนาดเล็กไปจนถึงสินค้ามูลค่าสูง

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด


    “จากแนวโน้มการเติบโตที่เกิดขึ้นของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค ไปรษณีย์ไทยและไปรษณีย์ลาว จึงเห็นความสำคัญที่จะขยายโอกาสเพื่อภาคธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทย-ลาว และภาคการค้าระหว่างประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์หลักร่วมกัน 5 ด้าน เพื่อสร้างประโยชน์ในระดับประเทศและภูมิภาค ได้แก่

    1. การยกระดับความปลอดภัยและมาตรฐานสากลของการขนส่งไปรษณีย์ ผ่านระบบส่งต่อถุงเมล์แบบปิด–เปิด ทั้งทางอากาศ ภาคพื้น และบริการ EMS ข้ามสะพานมิตรภาพไทย–ลาว เชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านศุลกากรและเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจปล่อยสินค้า

    2. การพัฒนาบริการ e-Commerce ข้ามพรมแดน โดยขยายบริการ ePacket และ COD ไทย–ลาว–จีน เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถส่งสินค้าข้ามพรมแดนได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตอบรับกระแสการเติบโตของตลาดดิจิทัลในภูมิภาค

    3. การเสริมศักยภาพทางการเงินดิจิทัล ด้วยบริการ e-Wallet และช่องทางชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมต่ออายุความร่วมมือแบบ Exclusive กับ Western Union สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ มุ่งเพิ่มทางเลือกที่ปลอดภัย โปร่งใส และทันสมัยแก่ผู้ใช้บริการ

    4. การสร้างภาพลักษณ์ผ่านการตลาดและตราไปรษณียากร เพื่อสะท้อนมิตรภาพและวัฒนธรรมของสองประเทศผ่านการจัดทำแสตมป์เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย–ลาว

    5. การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและการเรียนรู้ร่วมกัน ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และอบรมในรูปแบบ Onsite และ Virtual Learning ระหว่างบุคลากรไปรษณีย์ไทย–ลาว เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการของทั้งสององค์กร”

    ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ไทยและไปรษณีย์ลาว ในการประชุมความร่วมมือด้านไปรษณีย์ ครั้งที่ 29 นี้ ไม่เพียงเป็นการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ระหว่างสองประเทศ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสนับสนุนด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยไปรษณีย์ไทยได้นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบ EDI และระบบติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ มาใช้ควบคู่กับระบบถุงเมล์ปิด–เปิดผ่าน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของพัสดุระหว่างประเทศ


    ขณะเดียวกันยังมีการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งให้ผู้ประกอบการ SME และผู้ค้าออนไลน์ในภูมิภาค นอกจากนี้ ทั้งไทยและลาวจะทำงานร่วมกันในทุกมิติ เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนทั้งสองประเทศ เป็นอีกก้าวสำคัญของไปรษณีย์ไทยในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายในการก้าวสู่ ‘Trusted ASEAN Brand’ ที่เชื่อถือได้และยั่งยืน

    “ไปรษณีย์ไทยตั้งเป้าพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์ให้ครบวงจร โดยเชื่อมระบบการขนส่งภาคพื้น–ทางอากาศ–ทางราง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าระดับภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ

    "อีกทั้งยังเตรียมเข้าร่วมเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศด้านโลจิสติกส์ในปี 2569 เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีกับพันธมิตรอาเซียน พร้อมขยายเครือข่ายบริการครอบคลุมด่านชายแดนสำคัญ อาทิ หนองคาย เชียงของ และสะพานมิตรภาพไทย–ลาวทุกแห่ง เพื่อสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดจีนตอนในและยุโรปตะวันออก

    “โดยเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้เติบโตอย่างสมดุล พร้อมตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาค CLMV อย่างแท้จริง” ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย



ภาพ: ไปรษณีย์ไทย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : LazMall ถูกใจนักช็อป! แคมเปญ 9.9 ยอดขายโต 49 เท่า ส่วน 11.11 นี้ลาซาด้าจัดเต็ม ต้อนรับแบรนด์ดังอีกเพียบ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine