หลายบริษัททั่วโลกต่างทยอยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าประยุกต์ใช้ในการทำงาน แต่นาทีนี้จะมีใครมาแรงไปกว่า Duolingo แพลตฟอร์มฝึกภาษาที่หลายคนคุ้นเคย กับมาสคอตนกฮูกสีเขียวที่สร้างไวรัลบนโลกออนไลน์มาหลายต่อหลายครั้ง ด้วยพฤติกรรมการตามจิกผู้ใช้งานไปทบทวนบทเรียน ซึ่งทางแพลตฟอร์มก็ได้มีการนำ AI มาช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาต่างๆ มาสักระยะแล้ว
ล่าสุด Duolingo ได้เปิดตัวบทเรียนใหม่ 148 คอร์ส มากกว่าคราวก่อนเป็นเท่าตัว ต้องขอบคุณพลังของ AI และหากใครที่คิดว่า Duolingo จะหยุดอยู่แค่นั้น คุณคิดผิด เพราะทางบริษัทถลำลึกกับ AI ไปอีกขั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Duolingo ได้มีการเผยแพร่อีเมลของซีอีโออย่าง Luis von Ahn บน LinkedIn ถึงการเดินหน้านโยบาย AI-First โดยเตรียมบอกลาพนักงานสัญญาจ้าง และจะนำ AI มาเติมเต็มหน้าที่ในส่วนนั้นแทน
“AI ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องถามว่าเมื่อไหร่ เพราะมันกำลังดำเนินไปในตอนนี้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงเช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งที่แย่ที่สุดที่คุณทำได้คือการรอคอย” von Ahn กล่าวโดยยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีต เมื่อสมาร์ทโฟนก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน Duolingo ไม่รอช้าที่จะพัฒนาแอปพลิเคชั่นของตัวเอง จนได้รับรางวัล App of the Year บน iPhone ในปี 2023 ตามด้วยยอดผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นแบบปากต่อปาก
ในอดีต Duolingo เดิมพันความสำเร็จกับแอปบนมือถือ และตอนนี้บริษัทก็กำลังจะทำแบบเดียวกันกับ AI
ซีอีโอ Duolingo มองว่า AI ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังช่วยตอบโจทย์เป้าหมายของบริษัท นั่นคือการสอนภาษาที่ดีขึ้นซึ่งต้องมีการสร้างสรรค์เนื้อหาขึ้นจำนวนมาก การผลิตเนื้อหาแบบเดิมย่อมไม่ทันกาล จึงต้องนำ AI เข้ามาใช้เพื่อให้สามารถผลิตเนื้อหาได้มากขึ้นในเวลาอันสั้น นอกเหนือจากนี้ AI ยังมีส่วนช่วย Duolingo พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ
แน่นอนว่าเทคโนโลยี AI ในตอนนี้อาจยังไม่ทรงพลังเต็มร้อย แต่ von Ahn ชี้ว่าไม่ควรรั้งรออีกต่อไป ควรจะรีบก้าวไปข้างหน้า แก้ปัญหาเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง ดีกว่าเชื่องช้าและพลาดโอกาส โดยไล่เรียงความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่จะเกิดขึ้นในการขับเคลื่อนนโยบาย AI-First ดังนี้
• บริษัทจะยุติการทำงานกับพนักงานสัญญาจ้างในหมวดหมู่งานที่ AI สามารถทำได้
• การใช้งาน AI คือคุณสมบัติหนึ่งที่บริษัทมองหาในการว่าจ้างพนักงานใหม่
• การใช้งาน AI จะเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินการทำงานของพนักงาน
• การสรรหาบุคลากรเพิ่ม จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทีมใช้ระบบอัตโนมัติช่วยงานจนถึงขีดจำกัดแล้ว
• การทำงานส่วนใหญ่จะมีสิ่งจูงใจเฉพาะตัวเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านวิธีการทำงาน
ทั้งนี้ von Ahn ย้ำว่า “Duolingo จะยังคงเป็นบริษัทที่ใส่ใจพนักงานอย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่การแทนที่คนด้วย AI แต่เป็นการแก้ปัญหาคอขวด ทำให้เราสามารถดึงศักยภาพอันน่าทึ่งของแต่ละคนออกมาได้มากกว่าเดิม” โดยจะมีการฝึกอบรม แนะนำ และสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ ให้พนักงานด้วย
“การเปลี่ยนแปลงอาจน่ากลัว แต่ผมเชื่อว่านี่จะเป็นก้าวที่ยอดเยี่ยมของ Duolingo” von Ahn กล่าวทิ้งท้าย
แน่นอนว่า Duolingo ไม่ใช่บริษัทแรกที่ตัดสินใจเดินหน้านโยบาย AI เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ Tobi Lutke ซีอีโอ Shopify ได้มีการบอกกับทีมงานว่า หากพวกเขาต้องการคนหรือทรัพยากรเพิ่ม ก็ต้องแสดงให้เห็นก่อนว่า ทำไมถึงใช้ AI ทำงานเหล่านี้ให้เสร็จไม่ได้
อย่างไรก็ตาม Brian Merchant นักข่าวด้านเทคโนโลยีได้มีการสอบถามอดีตพนักงานสัญญาจ้างของ Duolingo พบว่า นโยบาย AI-First ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่บริษัทกำลังจะทำ แต่เริ่มดำเนินการไปตั้งนานแล้ว โดยมีการยุติการทำงานกับพนักงานสัญญาจ้างตำแหน่งนักเขียนและนักแปลราว 10% ณ สิ้นปี 2023 อีกทั้งยังมีการปลดคนเพิ่มอีกในเดือนตุลาคม 2024
Merchant ฉายภาพอีกด้านว่ากรณีของ Duolingo คือตัวอย่างของวิกฤตแรงงานที่ได้รับผลกระทบจาก AI ที่หลายคนวิตกกังวล โดยนอกเหนือจากนักเขียนและนักแปลที่เคยทำงานให้ Duolingo แล้ว เขายังพบปะพูดคุยกับศิลปินมืออาชีพหลายคนซึ่งต่างก็สูญเสียลูกค้าไป เพราะหลายบริษัทเลือกจะหันไปใช้ AI มากกว่าเสียเงินจ้างงานมนุษย์ แม้จะเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และสุทรียศาสตร์ก็ตาม
ไม่เพียงเท่านั้น เสียงของผู้คนบนโลกออนไลน์ที่ไม่เห็นด้วยกับการนำ AI มาใช้แทนที่แรงงานคนก็มีไม่น้อยเช่นกัน หลายคนมองว่า Duolingo กำลังละเลยความสมบูรณ์แบบและรายละเอียดโดยมุ่งเน้นแค่ความเร็วและปริมาณงาน หลายคนก็แสดงความคิดเห็นว่าต้องการสนับสนุนบริษัทที่ให้ความสำคัญกับแรงงานคนเหนือหุ่นยนต์และ AI
“บางที Duolingo น่าจะลองพิจารณาการแทนที่ซีอีโอด้วย AI ดูบ้างนะ อาจช่วยให้ตัดสินใจดีขึ้นก็ได้” ผู้ใช้งาน LinkedIn รายหนึ่งกล่าว
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ Duolingo เลือกจะเป็นหนทางที่ถูกต้องหรือไม่ บริษัทจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เหมือนกรณีการสร้างแอปบนมือถือหรือเปล่า คงต้องรอติดตามต่อไป
แหล่งที่มา:
Duolingo will replace contract workers with AI
Is Duolingo the face of an AI jobs crisis?
ภาพ: appshunter.io on Unsplash
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เงินเดือนขึ้นแน่ แต่ทักษะต้องพร้อม! นายจ้างไทย 97% ไฟเขียวเพิ่มเงินเดือนผู้สมัครที่มี micro-credentials
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine