Seven & i Holdings ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมาว่า บริษัทอยากเห็นร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและขยายสาขาไปทั่วโลก โดยจะเร่งขยายตลาดเข้าสู่ยุโรป ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสาขาร้าน 7-Eleven ในทั่วโลกขึ้นอีก 18% ภายในปี 2030 หรือเพิ่มเป็น 100,000 สาขา กระจายไปใน 30 ประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 20 ประเทศ
แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของ Seven & i Holdings ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขายทรัพย์สินในซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีประสิทธิภาพต่ำด้วย โดยกลยุทธ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทได้รับแรงกดดันจากการเคลื่อนไหวของนักลงทุน
ตั้งแต่ปีที่แล้ว บริษัทได้ประกาศปิดซูเปอร์มาร์เก็ต Ito-Yokado หลายสิบแห่ง, ออกจากธุรกิจเครื่องแต่งกาย และขายแผนกห้างสรรพสินค้า Sogo & Seibu เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังตกลงที่จะใช้จ่ายมากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อขยายร้านสะดวกซื้อในออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา
Michael DePinto หัวหน้า 7-Eleven ในอเมริกาเหนือ กล่าวว่า กลุ่มบริษัทจะ “แสวงหาโอกาสในการควบรวมกิจการในเชิงรุกต่อไป” ในภูมิภาคนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ValueAct Capital ซึ่งเป็นนักลงทุนในสหรัฐฯ ที่ได้แสดงความเห็นถึงการจัดสรรสินทรัพย์ของบริษัทแม่ 7-Eleven และพยายามไล่กรรมการผู้จัดการใหญ่ออก โดยกล่าวชมเชยแผนการปรับโครงสร้างของบริษัท และบอกว่าพวกเขาจะลงคะแนนเสียงเห็นชอบกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการ
แปลและเรียบเรียงจาก Japan's 7-Eleven convenience chain targets aggressive global growth
Photo by Ruby Khoesial on Unsplash
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ค่าโรงแรม ‘ญี่ปุ่น’ แพงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ท่ามกลางเงินเยนอ่อนค่า ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากเป็นประวัติการณ์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine