WAVE ผู้ถือลิขสิทธิ์สถาบันสอนภาษาอังกฤษ Wall Street English ในไทย สปป.ลาว และกัมพูชา คาดปี 68 มีรายได้ 590 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน พร้อมรุกขยายธุรกิจใหม่ ‘Let’s Mandarin’ เจาะกลุ่มลูกค้าภาษาจีน ตั้งเป้าใน 5 ปี ขยาย 3 สาขา สร้างรายได้ 70-80 ล้านบาท/ปี ประเดิมสาขาแรกศูนย์การค้าเมกา บางนา
นายกิจชาญพิชญ์ สุกังวานวิทย์ กรรมการบริหาร Wave Education Group ในเครือ บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล หรือ WAVE เปิดเผยว่า ปี 2568 นี้ทางบริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท เล็ทส์ แมนดาริน จำกัด ผ่านความร่วมทุนกับ International FLS Corp Pte, Ltd. สถาบันการศึกษาในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะดำเนินธุรกิจสถาบันสอนภาษาจีนแมนดารินในไทยภายใต้ชื่อ Let’s Mandarin โดยมีหลักสูตรมาตรฐานระดับนานาชาติ ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยและสิงคโปร์ (แบ่งเป็น 20 ระดับ) ซึ่งมีทั้งหลักสูตรเริ่มต้นระยะเวลาแบบ 6 เดือน 12 เดือน 18 เดือน และ 24 เดือน
ทั้งนี้ ในปี 2568 Let’s Mandarin จะเปิดให้บริการสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเมกา บางนา และภายใน 5 ปี เมื่อเปิดครบทั้ง 3 สาขาคาดว่าจะสร้างรายได้ราว 70-80 ล้านบาท ต่อปี โดยมาจากการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียน นักศึกษาที่อายุ 15 ปีขึ้นไป วัยทำงาน นักธุรกิจ รวมถึงการขยายฐานลูกค้าองค์กร
“Let's Mandarin” เป็นก้าวสำคัญต่อยอดธุรกิจมีภาพลักษณ์เป็นสถาบันสอนภาษาครบวงจร ช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ และโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าองค์กรในรูปแบบการเสนอแพ็กเกจเรียนหลายภาษา” นายกิจชาญพิชญ์ กล่าว
ขณะที่ ส่วนของธุรกิจหลักอย่าง Wall Street English ที่ปัจจุบันมีอยู่ 14 สาขา ในไทย และสปป.ลาว โดยมีแผนที่จะเปิดที่กัมพูชาในเร็วๆ นี้ ในภาพรวมมีฐานผู้เข้าเรียนราว 150,000 ราย คาดว่าปีนี้ธุรกิจยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยทางบริษัทฯ คาดการณ์ว่าปี 2568 นี้จะมีรายได้ราว 590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พบว่า ผลการดำเนินงานของ WAVE งวด 9 เดือนแรกของ ปี 2567 พบว่ามี รายได้รวม 360.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจโรงเรียนสอนภาษา Wall Street English และรายได้ในส่วนของการให้บริการให้คำปรึกษาด้านการจัดการคาร์บอนฟุตปริ้นท์องค์กร รวมถึงวางแผนธุรกิจให้กับองค์กรเพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 8.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิราว 13.23 ล้าบาท
ขณะที่บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 1,620.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 372.58 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 66 มาจากการที่บริษัทออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Rights Offering) ในไตรมาสที่ 2/67 โดยนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และนำเงินไปชำระหนี้สินตามสัญญาซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน
ภาพ: WAVE
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘บริติช เคานซิล’ มองการศึกษาไม่เท่าเทียมกระทบทักษะภาษาอังกฤษคนไทย แนะแก้ทั้งการสอนและการวัดระดับ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine