ตลท. เปิดเผยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ใน SET งวด 9 เดือน ปี 2567 แม้จะได้รับแรงสนับสนุนจากธุรกิจท่องเที่ยว แต่กำไรสุทธิลดลง 5.4%YoY ผลจากธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำมันและปิโตรเคมีภัณฑ์จากราคาน้ำมันในด้านกำไรสุทธิที่ลดลง กว่า 32.3%YoY
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวนกว่า 810 บริษัท คิดเป็น 98.8% จากทั้งหมด 820 บริษัท* นำส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 617 บริษัท คิดเป็น 76.2% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
*รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 30 กันยายน 2567 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และงบการเงินไม่ตรงรอบปีปฎิทิน
ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2567 พบว่า บจ. ใน SET มียอดขาย 13,174,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่ต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายการขายเพิ่มขึ้น 8.8%YoY และค่าใช้จ่ายการบริหารเพิ่มขึ้น 10.0%YoY ส่งผลให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 1,206,922 ล้านบาท ลดลง 2.1%YoY และกำไรสุทธิ 686,492 ล้านบาท ลดลง 5.4%YoY สาเหตุหลักเพราะธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำมันและปิโตรเคมีภัณฑ์จากราคาน้ำมันที่กำไรสุทธิลดลง กว่า 32.3%YoY (กำไรจากผลการดำเนินงานลดลง 19.8%)
ทั้งนี้ หากพิจารณาในกลุ่มธุรกิจทั่วไป (ไม่รวมหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์) บจ. จะมียอดขาย กำไรจากการดำเนินงานหลัก และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 11.0% 13.2% และ 8.4% ตามลำดับ สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 กันยายน 2567 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.54 เท่า ลดลงจาก 1.60 เท่า
“การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า ส่งผลบวกให้ บจ. ไทยที่ทำธุรกิจด้านการบริการและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีผลประกอบการดีขึ้น เช่น หมวดอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค โรงแรม การบิน พื้นที่เช่า ค้าปลีก โรงพยาบาล และโทรคมนาคม อีกทั้งธุรกิจการเงิน ยังเติบโตได้ดีจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันและส่วนต่างค่าการกลั่นปรับลดลงในไตรมาส 3 ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและปิโตรเคมีได้รับผลกระทบ และส่งผลให้ผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรก แม้รายได้ยังเติบโต แต่มีกำไรสุทธิลดลง” นายอัสสเดชกล่าว
ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) งวด 9 เดือนแรกปี 2567 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ยังคงเติบโต โดยมียอดขายรวม 155,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9%YoY ขณะที่ บจ. ควบคุมต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 11,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.0%YoY และกำไรสุทธิ 6,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.2%YoY
ภาพ: SET
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อยู่ลำพูนแล้วต้อง “สุขก๋าย สบายใจ๋” ลำพูนจับมือ GSK เปิด ‘สุขศาลา’ ศูนย์สุขภาพชุมชนตรวจปอด รับมือ PM 2.5
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine