เส้นทางของ ‘วิรันพัชร’ แห่ง “Aura Blue” เรียนรู้ศึกษาจากความผิดพลาด ต่อยอดสู่ความสำเร็จ
แม้จะตัดสินใจเลิกเรียนและหันมาเป็นแม่ค้าเต็มตัวตั้งแต่วัยรุ่น แต่นั่นไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการทำธุรกิจของ ‘ฝน’ วิรันพัชร ชินภัคธนัชศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮงปังดังรวย จำกัด สินค้า ออร่าบลู กลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้เธอได้เรียนรู้ศึกษาและต่อยอดธุรกิจจากประสบการณ์จริง จนทำให้ “Aura Blue” ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
“ฝนเริ่มต้นจากการเป็นแม่ค้าตลาดนัดเลียบด่วน กลางคืนขายหน้าร้าน กลางวันแพ็กของส่งร้านขายส่ง วัยเด็กเราอยู่ในครอบครัวที่ค้าขายมาตลอด คุณแม่ คุณยาย เราถูกปลูกฝังมาแบบนี้ก็ค้าขายมาเรื่อยๆ จนเราโตขึ้น ก็หาสินค้ามาขายเอง เมื่อ 15 ปีก่อนสกินแคร์จากเกาหลีเพิ่งเข้ามาในไทย เราก็นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวทดลองมาจำหน่ายก่อน ได้ผลตอบรับดี มีลูกค้ามากขึ้น ก็หาผลิตภัณฑ์ชิ้นใหญ่มาขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
จนวันหนึ่งจากการไม่ได้ศึกษาการทำธุรกิจนำเข้าอย่างถ่องแท้ทำให้สินค้าที่ส่งมาจากต่างประเทศถูกยึดล็อตใหญ่ บทเรียนครั้งนั้นทำให้วิรันพัชรมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะต้องทำธุรกิจอย่างถูกต้อง ศึกษาแนวทางและกลยุทธ์การทำธุรกิจต่างๆ ที่สำคัญต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ไม่อาจควบคุมได้ โดยสิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ คุณภาพของสินค้า
“ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเราค่อยๆ พัฒนาสินค้าของตัวเองปีละ 1–2 ตัว สินค้าบางตัวเราใช้เวลาพัฒนาถึง 3 ปี เพราะในธุรกิจนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือตัวผลิตภัณฑ์ที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ใช้แล้วได้ผลดีจริง จึงทำให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำ สินค้าแต่ละตัวจึงอยู่นาน เราก็พัฒนาสินค้าใหม่ให้สามารถใช้ควบคู่ตัวผลิตภัณฑ์เดิมได้ ทำให้ฐานของสินค้าแข็งแกร่งและต่อยอดได้”
วิรันพัชรกล่าวว่า ผลจากแนวทางการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสินค้าเป็นหลัก ปัจจุบันสินค้าของบริษัทซึ่งมีประมาณ 6–7 รายการยังขายดีทุกตัว การพัฒนาสินค้าใหม่จะมุ่งเพิ่มนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์สภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เช่น ครีมกันแดดที่มีนวัตกรรมในการป้องกันมลพิษ PM 2.5 ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ใหม่ยังสามารถใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์เดิมได้ ทำให้ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20–30% ต่อปี และมีฐานลูกค้ามากกว่า 100,000 ราย
จากความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทำให้ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ รางวัลสุดสัปดาห์ Beauty Awards 2020 รางวัล Iconic Beauty by Praew Magazine และล่าสุดได้รับรางวัลจากอายุน้อยร้อยล้านในงานประกาศรางวัล “Thailand Health and Beauty Awards 2022” รางวัล “The Masterpiece of Influential CEO” สะท้อนถึงการยอมรับของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ “Aura Blue”
ที่ผ่านมาด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ด้วยการเรียนรู้ที่ไม่จบสิ้นในเส้นทางธุรกิจของ วิรันพัชร จึงเกิดธุรกิจใหม่ “Aura Blue” ที่นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวที่มีนวัตกรรมขั้นสูงสุดของบริษัทแล้ว ยังสร้างเป็นโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์ตัวแทนจำหน่ายที่เกิดจากการเรียนรู้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
โมเดลธุรกิจของ “Aura Blue” จะเน้นขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3,000 ราย ด้วยโมเดลนี้ วิรันพัชรเชื่อว่าจะทำให้การขยายธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะตัวแทน 1 คน เท่ากับการเปิดช็อป 1 ร้าน โดยที่ตัวแทนไม่ต้องลงทุนค่าเช่าร้าน เปิดสาขา แต่มาใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง เรียนรู้การขายสินค้า การทำตลาดผ่านออนไลน์ ซึ่งความรู้ที่บริษัทมอบให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ด้วย
“โมเดลนี้เราเชื่อว่าจะสร้างการเติบโตเร็วกว่าเดิม และจากฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของเรา ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ทำธุรกิจมาได้นำเอาข้อดี ข้อเสีย ข้อผิดพลาด และความล้มเหลวต่างๆ มาอุดรูรั่ว เพื่อให้เป็นโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์ตัวแทนจำหน่ายของเราให้มากที่สุด” วิรันพัชรกล่าว
สำหรับปัญหา หรือ pain point ที่เธอพบเจอจากการทำธุรกิจออนไลน์คือ พ่อค้า แม่ค้าส่วนใหญ่อยากทำเป็นอาชีพเสริม ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีเวลา จึงมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จ บริษัทจึงสนับสนุนเรื่องเวลา โดยการพัฒนาระบบไอทีขึ้นมาสร้างเครื่องมือสำหรับขายของออนไลน์อย่างครบวงจร เช่น มีเว็บไซต์สำหรับขายสินค้า สั่งสินค้า มีคลังสินค้าและระบบแพ็กสินค้า จัดส่งอย่างครบวงจร ที่สำคัญจะทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ผลิตออกจากโรงงานโดยตรง และเป็นสินค้าที่ผลิตใหม่ล่าสุด ไม่ใช่สินค้าค้างสต็อก
วิรันพัชรกล่าวว่า หลังจากเปิดตัว “Aura Blue” เมื่อเดือน ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา มียอดขายแล้วกว่า 1.7 ล้านขวด หรือมียอดขายรวม 490 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายว่าภายใน 1 ปี ผลิตภัณฑ์ “Aura Blue” จะมียอดขายถึง 10 ล้านชิ้น
“เราวางเป้าหมายไว้สูง เพราะต้องการให้คนไทยทุกคนได้ใช้สินค้า “Aura Blue” ให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อในสินค้าของเราว่าดีจริง ในธุรกิจนี้คู่แข่งเยอะ หากสินค้าไม่ดีจริงจะไม่เกิดการซื้อซ้ำ แต่สำหรับ “Aura Blue” เรามั่นใจ หากผู้บริโภคได้ทดลองใช้จะกลับมาซื้อซ้ำอีกอย่างแน่นอน เราอยากให้ผู้ใช้สบายใจ และสามารถซื้อได้ ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยราคาที่เข้าถึงได้”
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารเสริมสำหรับใช้ควบคู่กับ “Aura Blue” เซรั่ม เพื่อการบำรุงผิวจากภายใน และมีแผนจะขยายตลาดไปประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เมียนมา กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซียอีกด้วย โดยมีเป้าหมายจะนำพาธุรกิจ “Aura Blue” ไปให้ถึงเป้าหมาย 2 พันล้านบาท ในอีก 2 ปีข้างหน้า และที่สำคัญคนไทยทุกคนต้องรู้จัก “Aura Blue”
สำหรับวิรันพัชร ผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์มากว่า 15 ปี รู้จักฝากร้านตั้งแต่สมัยเว็บบอร์ดในชุมชนออนไลน์ มองเห็นว่าทุกวันนี้ช่องทางได้เปิดกว้างมากขึ้น มีแพลตฟอร์มหลากหลายให้ผู้คนได้มาเรียนรู้และขยายโอกาสทางธุรกิจให้กว้างมากขึ้น และเชื่อว่าทุกคนมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ หากมีการศึกษา เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และ “Aura Blue” ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้ทุกคนไปถึงเป้าหมายและเติบโตไปด้วยกัน