Josephine Gotianun-Yap ซีอีโอแห่ง Filinvest Development กำลังนำพาธุรกิจหลากหลายของครอบครัวบุกตะลุยไปข้างหน้า แม้มีแรงฉุดรั้งจากวิกฤตโรคระบาด
เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Josephine Gotianun-Yap กรรมการผู้จัดการใหญ่และซีอีโอของ Filinvest Development ตัดสินใจอย่างอาจหาญที่จะเดินหน้าต่อกับแผนการนำกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยนำอาคาร 17 แห่งภายใต้การบริหารของ Filinvest Land ที่เป็นบริษัทลูกเข้าในกองทรัสต์ ด้วยราคาเสนอขายต่อสาธารณชนครั้งแรกหรือ IPO ของกอง Filinvest REIT Corp. ที่ 236 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในการเสนอขายหุ้น IPO ที่มีมูลค่าสูงสุดที่เคยมีมาในตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษของตระกูล Gotianun นับตั้งแต่ธนาคาร EastWest Bank ของพวกเขาเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทมหาชนเมื่อปี 2012 แต่แล้วสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา เพียง 8 วันก่อนที่ Filinvest REIT Corp. จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Del Monte Philippines อีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของฟิลิปปินส์ได้เลื่อนกำหนดการขายหุ้น IPO ออกไป เนื่องจากความผันผวนของตลาดฯ อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด
“ในใจฉันไม่เคยมีความคิดที่จะล้มเลิก” Gotianun-Yap กล่าวในการแถลงข่าวผ่านออนไลน์ในช่วงใกล้กำหนดเข้าตลาดฯ “ฉันมั่นใจมากในพอร์ตของเรา และมันพิสูจน์แล้วว่ามีความสามารถในการฟื้นตัวหลังวิกฤตได้ดีที่สุด รวมทั้งสามารถผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดมาได้” จนในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาเธอก็ดำเนินการในข้อตกลงจนเสร็จสิ้น และนำกอง REIT ของเธอเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย
Gotianun-Yap เคลื่อนไหวโดยผ่านการไตร่ตรองอย่างดีขณะที่โรคระบาดยังสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดโลกและธุรกิจของ Filinvest Development อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการย้ำเน้นถึงความสำคัญในความตั้งใจของเธอที่จะกระจายความเสี่ยงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธนาคารที่มีมูลค่าทางตลาด 1.3 พันล้านเหรียญของครอบครัว ซึ่งมีรากฐานความเป็นมาย้อนไปถึง 6 ทศวรรษก่อน
ครอบครัวนักธุรกิจ
ครอบครัวของ Gotianun-Yap เดินทางมายาวไกลนับตั้งแต่ธุรกิจสินเชื่อรถมือสองที่พ่อแม่ของเธอเริ่มต้นเมื่อปี 1955 ซึ่งเป็นปีเกิดของ Gotianun-Yap ผู้ที่อยู่ในวัย 66 ปี เธอเป็นลูกคนที่ 3 จากทั้งหมด 4 คน และเป็นลูกสาวคนเดียว
ในช่วงทศวรรษที่ 1960 พ่อแม่ของเธอเริ่มหันไปชิมลางโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกบนเกาะ Cebu ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์และได้สร้าง Filinvest Development ขึ้นจากโครงการนั้น จนปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทโฮลดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่บริการทางการเงิน การบริการ สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ และน้ำตาล ทุกวันนี้ Mercedes แม่วัย 93 ปีของเธอมีทรัพย์สินส่วนตัว 1.25 พันล้านเหรียญ ทำให้เธอรั้งอันดับที่ 20 บุคคลร่ำรวยที่สุด 50 อันดับของฟิลิปปินส์ (Andrew พ่อของเธอเสียชีวิตในปี 2016)
ขณะที่แม่ของเธอมีตำแหน่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของบริษัทในนาม แต่ Jonathan พี่ชายของ Gotianun-Yap เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ประธานกรรมการ ทั้งเธอและพี่ชายช่วยกันดูแลงานประจำวันของธุรกิจหลายแห่งของครอบครัว โดยมีสมาชิกในตระกูลรุ่นถัดไปอีก 6 คนช่วยเหลืองาน Michael น้องชายของเธอก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทเช่นกัน (น้องชายของพวกเขาคือ Andrew Jr. ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการของ Filinvest Land จนกระทั่งปี 2020 ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา)
Jonathan ระบุในอีเมลเกี่ยวกับน้องสาวของเขาว่า “เธอเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และมีความสร้างสรรค์ในสิ่งใหม่ๆ และมักจะคิดหาทางแก้ไขปัญหา รวมทั้งมีคำแนะนำและข้อคิดเห็นที่ค่อนข้างเป็นการคิดนอกกรอบและสำคัญต่อการนำพา Filinvest ก้าวไปข้างหน้าในทศวรรษที่ผ่านมา”
พี่น้องตระกูล Gotianun บริหาร Filinvest Development ด้วยกลยุทธ์ระยะยาว และในการทำตามเป้าหมายนั้น Gotianun-Yap ได้สร้างทุนตุนไว้ในมือเกือบ 700 ล้านเหรียญ นอกเหนือจากเงินสดที่ได้จากการนำกองทรัสต์ REIT เข้าตลาด Gotianun-Yap ยังมีเงินตุนไว้อีก 433 ล้านเหรียญที่ได้จากความพยายามในการระดมทุนที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2020 ผ่านการเสนอขายหุ้นกู้ทั้งในและต่างประเทศ
แล้วเงินจะถูกนำไปใช้ทำอะไร? Gotianun-Yap เผยว่า เธอวางแผนที่จะลงทุน 3.7 หมื่นล้านเปโซ (740 ล้านเหรียญ) ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งจะใช้สำหรับโครงการสาธารณูปโภคด้านพลังงานและน้ำ ขณะที่อีก 1.6 หมื่นล้านเปโซจะนำไปใช้ในโครงการพัฒนาพื้นที่สำนักงาน อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัยในปี 2021 ซึ่งรวมถึงอาคาร 11 แห่งในย่าน Metro Manila, Clark ใน Central Luzon และ Cebu
“เรากำลังทุ่มเทกับงานในส่วนพื้นที่สำนักงาน” Gotianun-Yap กล่าวในการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมก่อนหน้าการเปิดเสนอขายหุ้น IPO ของกอง REIT “นั่นเป็นกลยุทธ์ที่เราตั้งใจดำเนินการเพื่อสร้างความสามารถในการทนทานและยืดหยุ่นต่อวิกฤตได้มากขึ้น”
ต้องเจอวิกฤตกันบ้าง
แน่นอนว่าเธอต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กลับมาอีกครั้ง เนื่องจากธุรกิจบริการ ค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยของกลุ่มต้องโดนลูกหลงจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในวงกว้างของฟิลิปปินส์อันสืบเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 ผลกำไรของ Filinvest Development ลดลงฮวบฮาบโดยที่กำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ลดลงร้อยละ 42 จากปี 2020 เหลือเพียง 4.2 พันล้านเปโซ ขณะที่กำไรตลอดทั้งปีของปี 2020 ลดลงร้อยละ 29 ราคาหุ้นของ Filinvest Development ตกลงเกือบร้อยละ 40 ตั้งแต่ต้นปี 2020 ในช่วงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มระบาดเป็นครั้งแรก
แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่กองทรัสต์น้องใหม่ล่าสุดของตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ก็ได้สูญเสียความน่าดึงดูดไปบ้างแล้ว รายได้จากค่าเช่าของ REIT ของ Filinvest ลดลงร้อยละ 7 ในครึ่งปีแรกของปี 2021 เมื่อเทียบกับปี 2020 ไปอยู่ที่ 1.4 พันล้านเปโซ ขณะที่รายได้หดตัวลงร้อยละ 13 เหลือ 2 พันล้านเปโซ แม้ว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากการลดหย่อนภาษี ราคาหุ้นของกอง REIT แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาเสนอขายที่ 7 เปโซ
การที่บริษัทหันเหจากอสังหาริมทรัพย์ไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิ บริการทางการเงิน พลังงาน และน้ำตาล ไม่ได้ช่วยปกป้องธุรกิจจากผลกระทบในวงกว้างของสถานการณ์โรคระบาดได้อย่างเต็มที่ เห็นได้จากผลประกอบการปี 2020 ของ 5 ธุรกิจหลักของบริษัทมีรายได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ยกเว้นธุรกิจธนาคารและน้ำตาลซึ่งสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการมีรายได้ลดลงหนักที่สุด แต่กระนั้น Gotianun-Yap ก็อ้างคุณงามความดีของกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่เมื่อราวสิบปีก่อน “ผลการดำเนินงานปี 2020 ของเราแสดงให้เห็นว่าเรายังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ระหว่างเศรษฐกิจขาลง และขณะเดียวกันก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะสร้างความเติบโตพลันเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว” Gotianun-Yap และ Jonathan ระบุในแถลงการณ์ร่วมในรายงานประจำปี 2020 ของ Filinvest
แม้ว่าหลายธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันอยู่ในภาวะลดลง แต่เธอยังเชื่อมั่นว่าโครงการต่างๆ ของกลุ่มจะยังได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อ “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราไม่มีประวัติด่างพร้อยในด้านเครดิต” เธอกล่าว “เราปฏิบัติตามภาระผูกพันด้านการเงินเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นต่อผู้ถือหุ้นกู้ของเรา หรือลูกค้าของเรา หรือธนาคารของเรา ดังนั้น คุณจะเห็นว่าพวกเขายินดีให้การสนับสนุนเราอย่างสม่ำเสมอ”
Gotianun-Yap ทำหน้าที่ซีอีโอของ Filinvest Development ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาก่อนจะเข้ารับตำแหน่งเดียวกันที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเรือธงของกลุ่ม บทเรียนที่เธอได้รับจากพ่อของเธอทำให้เธอเชื่อในการเตรียมตัวให้พร้อม
พ่อของเธอนำพาบริษัทฝ่าฟันผ่านมรสุมทางการเมืองที่กินเวลาหลายทศวรรษ สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและทำให้ค่าเงินเปโซทรุดตัวอย่างหนักในช่วงทศวรรษ 1980 รวมถึงวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียช่วงปลายทศวรรษ 1990 “ครอบครัวเราสร้างความแน่นอนให้กับธุรกิจด้วยการเก็บเงินสดสำรองไว้ในยามที่เกิดวิกฤต” Gotianun-Yap กล่าว “อย่าได้คิดว่าอะไรๆ จะราบรื่นชื่นมื่นอยู่ตลอดเวลา เราคำนึงถึงเรื่องนี้กันตลอดเวลา” ก่อนหน้าที่โรคโควิดจะระบาดกำไรของ Filinvest Development ไต่ขึ้นอย่างคงเส้นคงวา โดยบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2019 ที่ 1.2 หมื่นล้านเปโซ
ด้วยความที่เธอเกิดมาในช่วงเดียวกับที่ครอบครัวเริ่มต้นธุรกิจ จึงเรียกได้ว่า Gotianun-Yap เติบโตมาพร้อมๆ กับบริษัท “บทสนทนาในระหว่างอาหารค่ำมีแต่เรื่องธุรกิจ” เธอย้อนความหลัง “เช้าวันเสาร์คือการไปที่สำนักงาน และถึงจะเป็นเด็กเราก็ต้องไปตรวจพื้นที่ต่างๆ กับพ่อแม่ตลอด” หลังเรียนจบจาก Ateneo de Manila University สาขาบริหารธุรกิจในปี 1975 เธอเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก Chicago University หลังจากนั้นไม่นานเธอได้เข้าช่วยธุรกิจครอบครัว ก่อนที่จะค่อยๆ เติบโตจนถึงตำแหน่งปัจจุบันที่ Filinvest Development ในปี 2000
เธอเข้ากุมบังเหียนที่ Filinvest Land หลังจากที่สามีของเธอ Joseph Yap ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศสิงคโปร์ เกษียณจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และซีอีโอในปี 2012 ก่อนหน้านี้เธอทำหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ Filinvest Alabang ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ โดยเธอดูแลโครงการ Filinvest City ซึ่งเป็นโครงการที่โดดเด่นของบริษัทในพื้นที่ฝั่งใต้ของย่าน Metro Manila
ก้าวต่อไปของ Filinvest
แม้ว่าปัจจุบันฟิลิปปินส์ยังดำเนินมาตรการควบคุมเพื่อสกัดกั้นการระบาดของโควิด แต่ Gotianun-Yap เชื่อมั่นว่าความต้องการพื้นที่สำนักงานจะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การที่ Filinvest ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นอกเขตใจกลางเมืองมานานหลายสิบปี น่าจะเป็นประโยชน์กับบริษัทอยู่บ้าง
รายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ JLL เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2021 ระบุว่า บริษัทต่างๆ พยายามลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ของพนักงานของตนด้วยการย้ายสำนักงานออกจากเมืองหลวงที่แออัด
เพื่อให้บรรลุตามแผน Filinvest ได้สร้างนิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศพื้นที่ 280 เฮกตาร์ ที่ New Clark City ใน Pampanga ซึ่งอยู่ห่างจาก Manila ไปทางตอนเหนือ 90 กิโลเมตร นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะมีพื้นที่ที่จัดสรรสำหรับความต้องการด้านอี-คอมเมิร์ซที่กำลังบูม นอกจากนี้ บริษัทก็กำลังพัฒนาอาคารสำนักงานและอาคารพาณิชย์บนพื้นที่ 51 เฮกตาร์บนพื้นที่เสื่อมโทรมใน Cebu City เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์
เธอมีความหวังว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการระบาดของโควิดจะฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนหน้าเกิดโรคระบาดได้ภายในปี 2022 รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 5 เป็น 5.3 พันล้านเปโซ สะท้อนให้เห็นความต้องการที่ฟื้นตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ และการส่งเงินกลับบ้านจากชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในต่างประเทศ “ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยกำลังเริ่มกระเตื้องขึ้น โดยที่ผู้ซื้อเริ่มทำความคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมทางออนไลน์ และผู้ขายก็เรียนรู้ที่จะทำการตลาดแบบดิจิทัล” เธอบอก
แต่ Julian Tarrobago หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนของธนาคาร Union Bank of the Philippines แสดงความกังวลว่า “เห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น แต่เรายังไม่หลุดจากปัญหาที่มีอยู่อีกมากมาย” เขากล่าว “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเปิดเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง ความต้องการที่อยู่อาศัยบางทีจะกลับไปสู่ระดับที่เป็นก่อนโรคระบาดในปลายปี 2022 หรือต้นปี 2023 ด้วยแรงขับจากกลุ่มประชากรหนุ่มสาวไฟแรงที่มีศักยภาพ”
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับกระแสดังกล่าว Filinvest ต้องการพัฒนาที่ดินขนาดมหึมา 2,500 เฮกตาร์ในระยะ 3 ปีข้างหน้า และกำลังเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านเปโซในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งในหลายจังหวัดที่กล่าวมา สำหรับการพัฒนาพื้นที่สำนักงานนั้น Lexter Azurin รองหัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์ AB Capital Securities ใน Manila กล่าวว่า “Filinvest เดินถูกทางแล้วที่เลือกจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยนอกเมืองหลวง เพราะโควิด-19 ได้ทำให้คนจำนวนมากขึ้นต้องการย้ายไปอยู่อาศัยนอก Metro Manila ความต้องการบ้านทั่วประเทศจึงค่อนข้างแข็งแกร่ง”
การเร่งตัวของธุรกิจในภาคสำนักงานและความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มมากขึ้นน่าจะช่วยดึงให้กำไรเพิ่มขึ้น จากการประมาณการโดยเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ 9 ราย ซึ่งรวบรวมโดย Bloomberg คาดว่า ปี 2021 กำไรสุทธิของ Filinvest Land จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ไปอยู่ที่ 3.8 พันล้านเปโซ และทะยานขึ้นเป็น 4.8 พันล้านเปโซในปี 2022
แต่กลยุทธ์ของบริษัทที่จะไปจับธุรกิจอื่นนอกเหนือธุรกิจที่ทำอยู่ถือเป็นการเดิมพันของ Gotianun-Yap ที่จะสร้างการเติบโตสำหรับอนาคต โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เช่น สาธารณูปโภคและพลังงานหมุนเวียน “เราไม่ได้พยายามทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนแค่เพราะอยากจะรักษ์โลก” Gotianun-Yap กล่าว “ธุรกิจเหล่านั้นต้องตอบโจทย์ในเชิงเศรษฐกิจด้วย”
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสายงานธุรกิจสาธารณูปโภคของ Filinvest Development และ Hitachi พันธมิตรสัญชาติญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงในสัญญาอายุ 25 ปี จากหน่วยงานจัดการน้ำของเมือง Cebu คือ Metro Cebu Water District ในการเป็นผู้จ่ายน้ำภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 6.6 พันล้านเปโซนี้ทั้งสองบริษัทจะสร้างโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล 3 แห่ง เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะจ่ายน้ำได้วันละ 80 ล้านลิตรทั่ว Cebu เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำที่กำลังจะกลายเป็นวิกฤตที่นั่น
ขณะเดียวกันบริษัทกำลังลงทุนอีก 1.39 หมื่นล้านเปโซสำหรับการวางแผนงานในโครงการพลังงานหมุนเวียนที่จะรวมถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำกำลังการผลิต 33 เมกะวัตต์ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ โรงพลังไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ที่โรงกลั่นน้ำตาลของบริษัทใน Mindanao และฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์หลายแห่งที่จะมีกำลังการผลิตรวมกัน 95 เมกะวัตต์
“เป็นเรื่องดีที่ Filinvest ได้กระจายการลงทุนออกจากธุรกิจดั้งเดิมของบริษัท” Azurin จาก AB Capital กล่าว “โครงการเหล่านี้จะทำให้รายได้ประจำเพิ่มมากขึ้น”
นอกเหนือจากการลงทุนในธุรกิจด้านความยั่งยืนในระยะยาวแล้ว Gotinaun-Yap ยังตั้งใจที่จะหว่านเพาะความยั่งยืนของครอบครัวด้วยการเตรียมตัวสมาชิกรุ่นต่อไปให้พร้อมกับบทบาทที่ใหญ่มากขึ้น
Isabelle ลูกคนโตและลูกสาวคนเดียวของเธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่โครงการพิเศษที่ EastWest Bank ขณะที่ Joseph Patrick ลูกชายดูแลงานในตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของหน่วยธุรกิจด้านไอทีของบริษัท Francis ลูกชายของ Jonathan มีตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสของ Filinvest Hospitality “สมาชิกรุ่นที่ 3 ของตระกูลกำลังได้รับการบ่มเพาะให้เป็นผู้ถือหุ้นที่มีความรับผิดชอบและมีประสบการณ์ตรงในธุรกิจ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีความหมาย” Gotianun-Yap กล่าว
เรื่อง: JONATHAN BURGOS เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม ภาพ: COURTESY OF FILINVEST DEVELOPMENT CORP. อ่านเพิ่มเติม:- จากผู้เพาะพันธุ์เป็ด สู่ ผู้พิชิตวิกฤติโอไมครอน
- Olympus กับการเปลี่ยนโฟกัสเพื่ออนาคต
- Veritas Capital สร้างความมั่งคั่งจากกิจการของรัฐ
คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2565 ในรูปแบบ e-magazine