Masatoshi Ito ประธานกิตติมศักดิ์ธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่ Seven & i Holdings คือ ผู้อยู่เบื้องหลังเชนร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven กว่า 35,000 แห่งในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Masatoshi Ito ได้นำแนวคิดที่จะเปิดร้าน 7-Eleven ซึ่งขณะนั้นเป็นร้านสะดวกซื้อชั้นนำในสหรัฐอเมริกา มาสู่ญี่ปุ่นครั้งแรกในปี 1973 ผ่านทางข้อตกลงกับบริษัท Southland Corporation แล้วต่อมาในปี 1991 จึงนำ Ito-Yokado ห้างสรรพสินค้ากึ่งซุปเปอร์มาร์เก็ตของ Seven & i Holdings เข้าถือหุ้นใหญ่ใน Southland ก่อนที่จะเข้าซื้อกิจการทั้งหมดในปี 2005 จากรายงานงบประมาณสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2022 ระบุว่า บริษัทมีรายรับ 8.75 ล้านล้านเยน (6.89 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 และกำไรสุทธิ 2.11 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อกิจการ Speedway ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อในสหรัฐฯ ที่มูลค่า 2.1 หมื่นล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของ Seven & i เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 25 จากปีก่อน ส่งผลให้ Ito วัย 98 ปี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เป็น 4.35 พันล้านเหรียญ อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน บริษัทกำลังเผชิญแรงกดดันจาก ValueAct Capital ใน San Francisco ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นใน Seven & i ร้อยละ 4.4 ที่ได้มีการเขียนจดหมายถึงฝ่ายบริหารในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้บริษัทพิจารณาเลิกกิจการนอกเหนือจากร้านสะดวกซื้อ เพื่อหันไปให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงแทน โดยหนึ่งในเป้าหมายนั้น คือ ห้างสรรพสินค้า Sogo & Seibu เนื่องจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าทั้งหมดในญี่ปุ่นมีรายรับลดลงประมาณร้อยละ 60 อยู่ที่ราว 3.9 หมื่นล้านเหรียญในปี 2021 ซึ่งล่าสุดทาง Seven & i ก็ได้ตรวจสอบ “ความเป็นไปได้ทั้งหมด” และอยู่ระหว่างการทบทวนกลยุทธ์ของห้างสรรพสินค้า แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Japan’s 7-Eleven Tycoon Bucks The Trend By Doubling Down On Convenience Stores เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีญี่ปุ่น ประจำปี 2022
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine