แม้สิงคโปร์จะยังคงดึงดูดใจเศรษฐีต่างชาติได้ แต่กระแสลมต้านในระดับโลกก็ยังส่งผลกระทบอย่างมากกับทรัพย์สินรวมของคนรวยที่สุดในปีนี้
ความมีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่หลบภัยของสิงคโปร์ได้ปรากฏเด่นชัดยิ่งขึ้นในช่วงที่โควิดระบาดทั่วโลก ประเทศนี้จึงกลายเป็นแม่เหล็กดึงคนรวย และการมีคนต่างชาติผู้ร่ำรวยหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของนครรัฐแห่งนี้ จนราคาและค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นอีกทั้งการผ่อนปรนมาตรการจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราค่าที่พักของโรงแรมพุ่งตามไปด้วย
แม้จะมีแนวโน้มเชิงบวกดังกล่าวแต่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและธุรกิจเทคทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงได้ส่งผลกระทบกับความมั่งคั่งรวมของเศรษฐีสิงคโปร์ 50 อันดับแรก โดยมีจำนวนมูลค่าสินทรัพย์ลดลงไปจากปีก่อนไปกว่า 1 ใน 5 ไปอยู่ที่ 1.64 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บริษัทเกม Sea ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ New York และเป็นหุ้นร้อนแรงในปีที่แล้วราคาดิ่งเพราะสายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซขาดทุนหนักขึ้น จนทำให้ความมั่งคั่งของ 3 ผู้ร่วมก่อตั้ง Forrest Li, Gang Ye และ David Chen ถูกกร่อนลงไปกว่าคนละ 70% ซึ่งถือว่าทรัพย์สินลดลงมากที่สุดในทำเนียบ พบกับไฮไลท์ของมหาเศรษฐีสิงคโปร์ที่น่าจับตาดังต่อไปนี้
- ทะเลปั่นป่วนของบริษัทเกมและอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ -
FORREST LI (อันดับ 11)
อายุ: 44 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 4.2 พันล้านเหรียญ (ลดลง)
ธุรกิจ: SEA
3 ผู้ก่อตั้งบริษัทเกมและอี-คอมเมิร์ซ Sea คือ Forrest Li (อันดับ 11), Gang Ye (อันดับ 13) และ David Chen (หลุดทำเนียบ) ต้องเห็นความมั่งคั่งรวมของพวกเขาตกฮวบลงไปถึง 2.16 หมื่นล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทนี้ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ราคาร่วงไป 77% ท่ามกลางการแห่ขายหุ้นไฮเทคและกระแสลมต้านในระดับโลกที่กัดเซาะวงการค้าปลีกออนไลน์ Li ประธานกรรมการและซีอีโอกับ Ye ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการต้องเห็นทรัพย์สินของตัวเองตกรูดลงไปเหลือ 4.2 พันล้านเหรียญ และ 2.8 พันล้านเหรียญตามลำดับ ส่วน Chen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Shopee ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มช็อปปิ้งของ Sea หลุดจากสถานะเศรษฐีพันล้านไปแล้ว โดยปัจจุบันเขามีทรัพย์สินสุทธิ 745 ล้านเหรียญ
หลังจากพ้นช่วงที่ธุรกิจโตมากเพราะโรคระบาดช่วยส่ง การที่ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติบวกกับข้อจำกัดด้านซัพพลายเชนและแรงกดดันจากเงินเฟ้อกลายเป็นตัวถ่วงรายได้ของ Sea บริษัทนี้ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์รายงานตัวเลขขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2 สูงกว่าที่คาด มากกว่าปีก่อนเท่าตัวไปเป็น 931 ล้านเหรียญ แม้รายได้เพิ่มขึ้น 29% เป็น 2.9 พันล้านเหรียญก็ตามที แต่ก็ต่ำกว่าที่คาด และบริษัทกล่าวว่า จะยังไม่เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ปี 2022
สำหรับสายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของบริษัท Li กล่าวในการแถลงสรุปเรื่องรายได้ของ Sea เมื่อไม่นานนี้ว่า “เราอยู่ในสภาวะที่มีความไม่แน่นอนในระดับมหภาคมากขึ้น ทั้งเงินเฟ้อสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น สกุลเงินท้องถิ่นอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐฯ และธุรกิจต่างๆ ก็กำลังมีแนวโน้มกลับมาเปิดอีกครั้ง” และบริษัทอายุ 13 ปีแห่งนี้ยังไม่เริ่มทำกำไร
Sea ควบคุมต้นทุนด้วยการปรับลดขนาดของแผนงานต่างๆ ทั่วโลกสำหรับ Shopee ซึ่งต้องแข่งขันในระดับภูมิภาคกับ Lazada ของ Alibaba และซูเปอร์แอป Grab นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา Shopee ถอนตัวออกจากฝรั่งเศส สเปน และอินเดียแล้ว ซึ่งเป็นช่วงไม่กี่เดือนหลังจากทดลองเปิดตัวในตลาดเหล่านี้ และ Shopee ก็ลดจำนวนพนักงานในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเม็กซิโก อาร์เจนตินา ชิลี และบางส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
สำหรับด้านเทคโนโลยีการเงินนั้น Sea เริ่มรุกเข้าไปบ้างแล้วผ่านหน่วยธุรกิจชำระเงินและให้บริการผ่านระบบดิจิทัล โดย SeaMoney เปิดตัวธนาคารดิจิทัลในอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 และคว้าใบอนุญาตเปิดธนาคารดิจิทัลในมาเลเซียและสิงคโปร์มาได้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 --Jessica Tan
- วิสัยทัศน์มองไกลเร่งขยายธุรกิจ -
ONG BENG SENG (อันดับ 24)
อายุ: 77 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.75 พันล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้น)
ธุรกิจ: HOTEL PROPERTIES
การขาดทุนซึ่งเป็นผลกระทบจากโรคระบาดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ Ong Beng Seng กรรมการผู้จัดการของ Hotel Properties กังวลเพราะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แห่งนี้ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมดังอย่าง Four Seasons ในสิงคโปร์กำลังยุ่งกับการเร่งขยายธุรกิจ
ในเดือนพฤษภาคม Hotel Properties และ Temasek บริษัทของรัฐชนะ Keppel ในการประมูลแข่งนาน 7 เดือนเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์หลายรายการ (ซึ่งรวมถึงห้างสรรพสินค้าในสิงคโปร์และออสเตรเลีย) จากยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อ Singapore Press Holdings ด้วยราคาประมาณ 3.9 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ (2.8 พันล้านเหรียญ)
ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมกราคมบริษัทเปิด voco Orchard Singapore โรงแรมที่ปรับปรุงใหม่และรีแบรนด์มาจาก Hilton Singapore เดิม ซึ่งการผ่อนปรนมาตรการด้านการเดินทางก็ทำให้ยอดการจองห้องพักและค่าที่พักในนครรัฐแห่งนี้พุ่งขึ้นเมื่อ นักท่องเที่ยวกลับมา และตอนนี้บริษัทกำลังเร่งเตรียมตัวรับงานแข่งรถฟอร์มูลาวัน Singapore Grand Prix ที่จัดโดย Singapore GP ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของ Ong ที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนหลังจากต้องเว้นไป 2 ปี
Hotel Properties กำลังขยายธุรกิจออกไปจากถิ่นเดิมด้วย เมื่อปีที่แล้วบริษัทซื้อรีสอร์ต Kanuhura Maldives ที่มีวิลล่า 81 หลังบนเกาะ Lhaviyani Atoll ห่างจากกรุง Male เมืองหลวงของมัลดีฟส์ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 150 กม. ด้วยราคาไม่เปิดเผย ซึ่งจะเริ่มเปิดให้เข้าพักได้ในปีหน้า และในปี 2023 บริษัทก็มีแผนจะเปิดโรงแรมขนาด 150 ห้องในเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชียในขณะที่รุกเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยวยุโรปซึ่งกำาลังโตอย่างรวดเร็ว
แผนงานเหล่านี้กำลังตอบแทนให้กับเขา โดยธุรกิจบริษัทกลับมาทำกำไรสุทธิได้ 1.9 ล้านเหรียญสิงคโปร์ในครึ่งแรกของปี 2022 Ong และภรรยา Christina อยู่ในอันดับ 24 ในทำเนียบของเราด้วยทรัพย์สินสุทธิรวม 1.75 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 2% จากปีที่แล้ว Ong ซึ่งร่วมก่อตั้ง Hotel Properties กว่า 4 ทศวรรษมาแล้วดูแลเรื่องการวางแผนกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ ส่วน Christina ดูแล Como Hotels and Resorts เครือโรงแรมหรูซึ่งเธอเป็นผู้ก่อตั้ง --Jonathan Burgos
เรื่อง: NAAZNEEN KARMALI และ JANE HO เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง และ พินน์นรา วงศ์วิริยะ ภาพ: SEAN LEE, LHOCH ZWEI/NEWSCOM
อ่านเพิ่มเติม:
>> กรณ์ ชินสวนานนท์ นำทัพ “Rabbit Life” เข้าถึงง่าย เจาะรายย่อย
>> ร่ำรวยแบบไร้สังกัดอย่าง Bruno Mars