Buzzy สตาร์ทอัพผู้สร้างกระจกออกกำลังกายอัจฉริยะ ตกลงขายธุรกิจให้กับ Lululemon แบรนด์เสื้อผ้าโยคะ ด้วยมูลค่า 500 ล้านเหรียญฯ
ballerina Brynn Putnam อดีตผู้ก่อตั้ง Buzzy กระจกอัฉริยะแห่งนิวยอร์ก ที่จัดจำหน่ายในราคา 1,495 เหรียญฯ ต่อบาน เพื่อใช้ในการออกกำลังภายในบ้าน โดยความนิยมของกระจกอัจฉริยะบานนี้มียอดจำหน่ายพุ่งสูงก่อนการมาของโรคระบาดไวรัสโคโรน่าที่ผลักดันให้ผู้คนอยู่แต่บ้านด้วยซ้ำ Buzzy ถือเป็น 1 ใน 25 บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจาก Forbes ติดในรายชื่อ Forbes Next Billion-Dollar Startups ประจำปี 2020 ซึ่ง Forbes ได้ประเมินรายได้เมื่อปีผ่านมาของสตาร์ทอัพแห่งนี้ที่ราว 45 ล้านเหรียญฯ และคาดว่าสำหรับปี 2020 นี้ จะพุ่งสูงถึง 100 ล้านเหรียญฯ “เราได้เห็นเทศกาลการจับจ่ายแบบคริสมาสเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา" Putnam กล่าว สำหรับการขายกิจการครั้งนี้ Putnam ยังคงนั่งตำแหน่งซีอีโอธุรกิจกระจกออกกำลังกายอัจฉริยะแห่งนี้ต่อไป โดยขึ้นตรงกับ Calvin McDonald ซีอีโอ Lululemon ซึ่งรายละเอียดในแถลงการของบริษัทนั้นไม่ได้ลงเหตุผลแต่ระบุว่า “การเป็นส่วนหนึ่งของ Lululemon จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งและช่วยเร่งยอดขายให้เติบโตยิ่งขึ้น” ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจราวกลางปี 2019 ทีผ่านมา โดย McDonald ซีอีโอ ของ Lululemon กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การควบรวมครั้งจะช่วยให้ Lululemon สามารถต่อยอดธุรกิจด้านดิจิทัลและความสามารถระหว่างผลิตภัณฑ์กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี” ซึ่งก่อนแถลงอย่างเป็นทางการ บริษัทผู้สร้างกระจกออกกำลังกายอัจฉริยะแห่งนี้มีมูลค่าธุรกิจที่ราว 300 ล้านเหรียญฯ โดย Forbes ได้คาดการณ์มูลค่าธุรกิจไม่ต่ำกว่า 80 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเมื่อการควบรวมเกิดขึ้นที่ 500 ล้านเหรียญฯ สัดส่วนหุ้นที่ Putnam ถืออยู่น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 130 ล้านเหรียญฯ การจบดีลซื้อขายครั้งนี้เป็นผลงานของ บริษัท Lerer Hippeau, Spark Capital และ Point72 Ventures บริษัทที่เป็นส่วนหนึ่งของ hedge fund ที่บริหารโดยมหาเศรษฐี Steve Cohen “Putnam ถือเป็นเป็นผู้ก่อตั้งที่เป็นดาวเด่นของยุค และเขาได้กลับมาบริหารธุรกิจของเขาอีกครั้ง” Ben Lerer จาก Lerer Hippeau กล่าวกับ Forbes “นี้คือเรื่องราวอันสดใสราวนิยายปรัมปรา” ทั้งนี้ท่ามกลางการแพร่กระจายของไวรัสโควิด 19 ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีต่อบริษัทเทคโนโลยีด้านออกกำลังกายอย่าง Peloton ที่มูลค่าบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ราว 1.6 หมื่นล้านเหรียญฯ และกำลังลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพ Hydrow ที่เพิ่งได้รับการระดมทุน 25 ล้านเหรียญ และมีมูลค่าของบริษัทมากกว่า 100 ล้านเหรียญฯ และถือเป็นคู่แข่งสำคัญของ Lululemon ทั้งนี้รายได้ในไตรมาสของ Lululemon ตกลงราวร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ราว 629 ล้านเหรียญฯ อ่านเพิ่มเติม: ต่างมีผลประโยชน์ตอบแทน (จริงหรือ!)ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine