Promise สตาร์ทอัพนักติดตามหนี้ ผู้มีเมตตา - Forbes Thailand

Promise สตาร์ทอัพนักติดตามหนี้ ผู้มีเมตตา

FORBES THAILAND / ADMIN
20 Dec 2024 | 09:00 AM
READ 114

Phaedra Ellis-Lamkins ก่อร่างสร้าง Promise ให้เป็นกิจการทรงพลังมูลค่า 520 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยการช่วยเทศบาลติดตามหนี้ค้างชำระผ่านการส่งข้อความและแผนผ่อนชำระแบบไม่มีดอกเบี้ย


    April Bingham ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณูปโภค ของเมือง Richmond รัฐ Virginia รู้สึกกังวลระหว่างช่วงโควิดระบาดผู้บริโภคประสบปัญหาเรื่องไม่มีเงินจ่ายค่าสาธารณูปโภคทำให้เมืองนี้มีบัญชีค้างชำระพุ่งไปถึง 41 ล้านเหรียญในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 15 ล้านเหรียญในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ยอดหนี้ที่พุ่งพรวดเช่นนี้ทำให้เกิดคำถามว่าเทศบาลจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เก่าลง ซึ่งรวมถึงการดูแลรักษาท่อประปาหลักอายุ 1 ศตวรรษด้วย การติดตามหนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่เพราะบิลค้างชำระเหล่านี้ขยับขึ้นเป็น 13% ของบิลที่ออกโดยผู้ให้บริการสาธารณูปโภคของเทศบาลในแต่ละปี

    ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2023 เมือง Richmond จึงหันไปหา Promise บริษัทสตาร์ทอัพด้านซอฟต์แวร์ในเมือง Fairfield รัฐ California ซึ่งบริหารแผนผ่อนชำระหนี้ให้รัฐ California และรัฐบาลท้องถิ่น รวมทั้งช่วยเทศบาลแจกจ่ายเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางด้วย ผลคือ แม้จำนวนบิลที่ค้างชำระ 90 วันจะยังเพิ่มขึ้น แต่มีประชาชน 11,000 คนมาเข้าแผนผ่อนชำระหนี้ และผู้เข้าร่วม 93% ก็ผ่อนชำระตรงเวลาได้ด้วยแอปของ Promise ที่ใช้งานง่าย แผนผ่อนชำระแบบไม่มีดอกเบี้ย และการเปิดให้ผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิต Venmo หรือวิธีการอื่นๆ ได้แทบทุกรูปแบบ

    “ตอนที่เราใช้แผนผ่อนชำระของเราเอง (ลูกค้า) จะจ่ายเงิน 1 งวด เพื่อให้ไม่ถูกตัดบริการ แต่ก็จะกลับมาค้างชำระอีกเป็นวงจร” Bingham กล่าว “Promise ช่วยคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ประชาชน ให้พวกเขาควบคุมการเงินของตัวเองและสบายใจที่ตัดสินใจเองได้ว่าบิลไหนจ่ายไหวหรือไม่ไหว”

    สำหรับ Phaedra Ellis-Lamkins ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Promise การปฏิบัติต่อคนที่ประสบปัญหาการเงินด้วยความเคารพคือหัวใจสำคัญ สตรีผิวดำวัย 48 ปีผู้นี้โตมาได้ด้วยเงินช่วยเหลือ และเคยทำงานเป็นตัวแทนสหภาพแรงงานในช่วงอายุ 20 กว่าปี และ Ellis-Lamkins ยังเคยเป็นผู้บริหารองค์กรไม่แสวงกำไรและเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้นักร้องเพลงป๊อปชื่อดัง Prince อยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่เธอจะหันมาสนใจช่วยชาวบ้านจ่ายบิล ถึงแม้ Promise จะไม่ใช่องค์กรการกุศลหรือองค์กรไม่แสวงกำไร แต่ Ellis-Lamkins กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทที่โตเร็วและมีนักลงทุนหนุนหลังก็ประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องเอาเปรียบใคร “เราต่างกำลังพยายามใช้ระบอบทุนนิยมทำในสิ่งที่เราเชื่อ” Ellis-Lamkins กล่าว

    Promise เน้นการชำระเงินให้องค์การปกครองระดับรัฐและท้องถิ่นและผู้ให้บริการสาธารณูปโภค โดยใช้แอปที่มีหน้าจออัปเดตแบบเรียลไทม์แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินและโครงการช่วยเหลือต่างๆ บริษัทนี้จึงแตกต่างจากสตาร์ทอัพสายเทคการเงินอีกเป็นโขยงในธุรกิจช่วยลูกค้าจ่ายบิล เพราะบริษัทพวกนั้นส่วนใหญ่แค่เสนอสินเชื่อดอกเบี้ยสูงให้ลูกค้าที่กำลังร้อนเงินซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่คนเหล่านี้ต้องการ ส่วน Promise หาเงินจากอีกฝั่งของสมการ โดยผู้ที่จ่ายคือ รัฐบาลและผู้ให้บริการสาธารณูปโภคไม่ใช่ลูกค้า โดยทั่วไปแล้วเทศบาลเมืองต่างๆ จ่ายเงินให้ Promise อย่างน้อยปีละ 1 ล้านเหรียญ และรัฐอาจจ่ายมากถึง 10 ล้านเหรียญ แต่ก็ถือว่าคุ้มสำหรับองค์กรเหล่านี้ เพราะหลังจากเข้ามาใช้บริการของ Promise ยอดเงินค้างชำระที่ติดตามคืนมาได้อาจพุ่งขึ้นไปถึง 85% หรือมากกว่านั้น “สำหรับเทศบาลเมืองแล้วมันเหมือนเจอเงินที่เคยทำหายซึ่งไม่คิดว่าจะได้คืนมา” นักลงทุน Mitch Kapor กล่าว “เรื่องนี้ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ โดยไม่ได้มีแค่เทศบาลหลายเมืองมาเป็นลูกค้า แต่มากันหลายรัฐเลย”

    “ตอนเราเริ่มทำบริษัททุกคนแนะนำว่าให้เราออกเงินกู้ แต่ความเป็นจริงคือ สภาพเศรษฐกิจมันไม่เหมาะกับเงินกู้ระยะสั้นที่มีความเสี่ยงสูง” Ellis-Lamkins กล่าว “เรายึดมั่นในแนวทางไม่คิดดอกเบี้ย ลูกค้าต้องตัดสินเองว่าการที่ประชาชนไม่จ่ายเงินนั้นเป็นเพราะเขาไม่อยากจ่ายหรือจ่ายไม่ไหว ถ้าคุณเชื่อจากใจว่าเขาจ่ายไม่ไหวจริงๆ จะไปคิดดอกเบี้ยเขาอีก 30% ก็ไม่ได้ ดอกเบี้ย 30% นี่มันลงโทษกันชัดๆ ใครจะอยากรีดดอกเบี้ยจากคนที่เจ็บปวดเดือดร้อน”

    ปีที่แล้ว Promise มีรายได้ประมาณ 20 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเกิน 3 เท่าจากรายได้ปี 2022 บริษัทคาดว่ารายได้จะมากกว่าเท่าตัวในปีนี้และเพิ่มอีกเท่าตัวในปีต่อไปจนถึงราว 100 ล้านเหรียญในปี 2025 และ 300 ล้านเหรียญในปี 2027 ซึ่งเป็นผลจากสัญญาหลายสิบฉบับที่บริษัททำไว้กับผู้ให้บริการสาธารณูปโภคและเทศบาลเมืองในหลายรัฐ เช่น Virginia, Mississippi, Hawaii และ Washington และ Ellis-Lamkins กล่าวว่า ไม่ว่าจะมองมุมไหนบริษัทก็มีกำไร เงิน 51 ล้านเหรียญที่ระดมมาได้จากนักลงทุนซึ่งรวมถึง Kapor Capital, First Round, XYZ Capital และ 8VC ทำให้ Promise มีมูลค่าประเมินแตะ 520 ล้านเหรียญในการขายหุ้นเพื่อระดมทุนครั้งล่าสุดในปี 2021

    ตัวเลขนี้ช่วยให้ Promise ผ่านเกณฑ์เข้ามาในทำเนียบ Next Billion-Dollar Startups ในปีนี้ ซึ่งเป็นทำเนียบประจำปีที่ Forbes รวบรวม 25 บริษัทที่เราคิดว่าน่าจะมีมูลค่าวิ่งไปถึง 1 พันล้านเหรียญ การแก้ปัญหาการเงินให้ภาครัฐไม่ใช่ธุรกิจที่เย้ายวน แต่มันส่งผลต่อคนเกือบทุกคน และยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักลงทุนที่เคยเห็นความสำเร็จมาแล้ว เช่น บริษัทซอฟต์แวร์ งบประมาณและบัญชี OpenGov (มูลค่าประเมินล่าสุดคือ 1.8 พันล้านเหรียญ) และบริษัทระบบชำระเงิน Paymentus ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดคือ 2.4 พันล้านเหรียญ) แต่การสร้างเทคโนโลยีสำหรับรัฐบาลท้องถิ่นที่เชื่องช้าและเช้าชามเย็นชามก็มีความท้าทาย “การออกแบบบริการทำนองนี้ให้ดี เข้าใจง่าย และใช้งานง่ายอาจเป็นเรื่องยาก” Beth Noveck อาจารย์ที่ Northeastern University และผู้อำนวยการของ The Governance Lab กล่าว

    สำหรับ Ellis-Lamkins แล้วนั่นแหละเป็นประเด็นสำคัญ “ฉันอยากให้มันสวยและใช้งานง่าย” เธอกล่าว “ลูกค้าเราชอบเพราะมันมีประสิทธิภาพ...สุดท้ายแล้วสิ่งที่รัฐบาลอยากรู้ก็คือ พวกเขาจะตามเก็บเงินได้จริง”



เรื่อง: AMY FELDMAN, เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง, ภาพ: CODY PICKENS



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Ed Sim นักลงทุนสตาร์ทอัพที่ถึงไม่มีธุรกิจก็ไม่มีปัญหา

อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine