Clubhouse แอปพลิเคชันสนทนาแลกเปลี่ยน ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปฟังการสนทนาหรือการสัมภาษณ์ในห้องต่างๆ โดยที่แต่ละห้องจะมีประเด็นการพูดคุยที่แตกต่างหลากหลายให้เลือก ตั้งแต่ประเด็นด้านธุรกิจ การลงทุน เทคโนโลยี กีฬา วรรณกรรม ไปจนถึงการสวดภาวนา
แม้จะมีการเปิดตัวให้ผู้ใช้งานบางส่วนได้ทดลองใช้ไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 แต่ในช่วงที่ผ่านมา กระแสความนิยมของแอปพลิเคชันดังกล่าวกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Elon Musk ซีอีโอ Tesla ได้เข้าใช้บริการ โดยการสัมภาษณ์ Vlad Tenev ซีอีโอ Robinhood ด้วยตัวเอง ทำให้ผู้คนทั้งในสายเทคโนโลยี การตลาด รวมถึงแวดวงอื่นๆ หันมาสนใจแอปพลิเคชันนี้กันเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่ง แอปพลิเคชันยอดนิยมตัวนี้กลับเผชิญกับคำถามด้านความปลอดภัยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังต่อไปนี้
โปรไฟล์ของผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนสมัครสมาชิกปัจจุบัน นอกจากแอปพลิเคชันดังกล่าวจะสามารถดาวน์โหลดได้แค่บนระบบปฏิบัติการ iOS เท่านั้น ยังจำกัดสิทธิ์ในการเข้าใช้งาน ด้วยการที่ผู้ใช้งานใหม่ จะต้องได้รับคำเชิญหรือการตอบรับจากผู้ใช้งานที่อยู่บนแพลตฟอร์มก่อนหน้าแล้ว โดยผู้ใช้งานหนึ่งคนจะมีโควต้าคำเชิญคนละ 2 ครั้งในตอนเริ่มต้น
โดยที่ส่วนหนึ่งของขั้นตอนการลงทะเบียนนั้น ผู้สมัครเข้าใช้บริการจะต้องอนุญาตให้ Clubhouse สามารถเข้าถึงบัญชีรายชื่อในโทรศัพท์ เพื่อที่จะสามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ในโซเชียลมีเดียได้
ในที่นี้ จึงดูเหมือนว่า Clubhouse กำลังใช้ข้อมูลเหล่านั้น เพื่อสร้างโปรไฟล์ของคนที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก และดูว่าหมายเลขโทรศัพท์นั้นๆ ปรากฎกี่ครั้งในบัญชีรายชื่อของผู้ใช้งานคนอื่นๆ
Alexander Hanff ผู้ร่วมก่อตั้ง SynData จึงได้ออกมาแสดงความคิดเห็นบน LinkedIn ของ Clubhouse ว่า “บริษัทไม่ควรใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับมาจากบุคคลที่สาม จนกว่าจะได้นับความยินยอมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
การบันทึกเสียงสนทนาสำหรับประเด็นนี้ Clubhouse ให้เหตุผลว่า การบันทึกเสียงสนทนาจะ “เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอบสวนข้อมูลแต่เพียงอย่างเดียว โดยที่ทางบริษัทจะทำการบันทึกเสียงสนทนาแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น”
“หากมีผู้ใช้คนใดคนหนึ่งรายงานว่า มีการละเมิดกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัยขณะที่ห้องสนทนากำลังดำเนินการอยู่ บริษัทจะนำไฟล์บันทึกสนทนานั้นๆ มาใช้เป็นหลักฐานในการพิสูจน์ และจะทำการลบหลังจากที่การสอบสวนเสร็จสิ้น แต่ในกรณีที่ไม่มีการรายงานความผิดปกติใดใด บริษัทจะทำการลบไฟล์คลิปเสียงนั้นๆ ทันทีหลังจากที่ห้องสนทนาปิดลง”
พร้อมเสริมว่า “เสียงของผู้พูดขณะที่ปิดเสียงไว้และเสียงของผู้ฟังจะไม่ถูกบันทึก ขณะที่ไฟล์บันทึกเสียงบทสนาทั้งหมดจะต้องมีการใส่รหัสผ่านในการเข้าถึงทุกครั้ง” โดยกระบวนการสอบสวนว่ามีการละเมิดกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัยจริงหรือไม่ จะถูกพิจารณาโดยหน่วยงานภายในบริษัทแต่เพียงส่วนเดียว
อย่างไรก็ดี ในที่นี้ Hanff ได้ตั้งคำถามว่า “หากพวกเขาบันทึกเสียงสนทนาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอบสวนจริง ก็มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าไฟล์คลิปเสียงไม่ได้เข้าถึงด้วยการใส่รหัสผ่านทั้งหมด”
นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีเพียงภาษาอังกฤษผู้ใช้งาน โดยเฉพาะจากฝั่งยุโรปได้แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชัน Clubhouse ที่มีเพียงภาษาอังกฤษว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำความเข้าใจของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ
ล่าสุด Klaus Muller กรรมการบริหารของสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคแห่งเยอรมนี ได้กล่าวเตือน Clubhouse ผ่านทวิตเตอร์ว่า "บริษัทอาจจะต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรหากไม่รีบแก้ปัญหาเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว"
แม้ Clubhouse จะกำลังอยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างก้างกระโดด แต่หากไม่รีบแก้ไขปัญหาประเด็นด้านความปลอดภัยดังที่กล่าวใปข้างต้นนี้ อาจจะนำมาซึ่งอุปสรรคที่สำคัญในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม
แปลและเรียบเรียง จากบทความ Clubhouse: The Hot New Social Network Has Big Privacy Problems เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Whitney Wolfe Herd ผู้ร่วมก่อตั้ง Bumble ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดแห่งปี 2021