ใครกันที่บอกว่าอาชญากรรมไม่ส่งผลดี คงไม่ใช่กับ Karen Kilgariff และ Georgia Hardstark ซึ่งสามารถเปลี่ยน พอดแคสต์ เกี่ยวกับฆาตกรที่เป็นเรื่องตลกร้ายให้กลายเป็นอาณาจักรสื่อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วได้เป็นแน่
My Favorite Murder พอดแคสต์ ถือกำเนิดขึ้นอย่างเหมาะเจาะในงานเลี้ยงฉลองวันฮาโลวีนในย่าน Los Feliz รัฐ Los Angeles เมื่อปี 2015 งานเลี้ยงครั้งนั้นจัดขึ้นโดยเพื่อนของสองว่าที่ผู้ผลิตพอดแคสต์อย่าง Karen Kilgariff ซึ่งเป็นนักแสดงตลกแบบสแตนด์อัพ คอเมดี้ และนักเขียนเรื่องขำขัน และ Georgia Hardstark ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการของช่อง Cooking Channel ทั้งคู่เคยพบหน้ากันมาก่อน แต่ “นับตั้งแต่งานปาร์ตี้ครั้งนั้นที่เราได้รับรู้ว่าเราทั้งคู่ต่างก็หลงใหลในเรื่องจริงแนวอาชญากรรม และไม่มีใครอื่นอีกเลยที่เราจะพูดคุยเรื่องพวกนี้ด้วยได้” Hardstark วัย 39 ปีกล่าว ทั้งคู่ปักหลักอยู่ในห้องครัว ไม่สนใจแขกคนอื่นๆ และผลัดกันเล่าเรื่องนองเลือด “นี่คือสิ่งที่ฉันชอบทำที่งานปาร์ตี้” “มันเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ ฉันได้เจอกับคนที่...ไม่ต้องการให้ฉันหยุดพูดถึงการฆาตกรรม” Hardstark กล่าวเพิ่มเติม กลายเป็นว่ามีอีกหลายล้านคนที่ไม่ต้องการให้ทั้งคู่หยุดเล่าเรื่องราวเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ผู้ฟังชอบฟังทั้งคู่เล่าเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เป็นตลกร้าย อย่างเรื่องราวของ Scott Scurlock เจ้าของฉายา Hollywood Bandit และ Robert Hansen เจ้าของฉายา Butcher Baker of Anchorage, Alaska อย่างไม่รู้จักคำว่าพอ ปัจจุบัน My Favorite Murder มียอดดาวน์โหลด 35 ล้านครั้งต่อเดือน และในปีที่ผ่านมากลายเป็นพอดแคสต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 7 บน Apple Podcasts แซงหน้ารายการที่ทำขึ้นใหม่อย่าง Fresh Air ของ NPR และ This American Life อาณาจักรเรื่องจริงแนวอาชญากรรมของทั้งคู่กำลังขยายตัว ในปีที่ผ่านมาทั้งคู่จัดรายการสด 40 ครั้ง ตีพิมพ์หนังสือขายดีจากการจัดอันดับของ New York Times (Stay Sexy & Don’t Get Murdered ซึ่งเป็นวลีเด็ดประจำรายการของทั้งคู่) ทำข้อตกลงการพัฒนาเนื้อหากับผู้เผยแพร่พอดแคสต์อย่าง Stitcher ซึ่งมีมูลค่าอย่างน้อย 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสร้างฐานแฟนคลับจำนวน 55,000 คน โดยผู้เป็นสมาชิกต้องจ่ายค่าสมาชิก 40 เหรียญต่อปี เพื่อเข้าถึงรายการตอนพิเศษ รวมถึงสิทธิพิเศษในการซื้อบัตรชมการแสดงสดก่อนวันจำหน่ายบัตรจริง พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือทั้งคู่ทำได้ยอดเยี่ยมมากและรายได้ของทั้งคู่ก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีทั้งสองทำเงินได้ราว 15 ล้านเหรียญในปี 2019 โดยขึ้นแท่นอันดับ 2 ในทำเนียบผู้ผลิตพอดแคสต์ที่ทำเงินได้มากที่สุด ซึ่งเราจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก ถือได้ว่านี่เป็นยุครุ่งเรือง ตามประมาณการของ PWC และ Interactive Advertising Bureau ผู้ซื้อโฆษณาน่าจะได้ทุ่มงบประมาณเกือบ 700 ล้านเหรียญ ไปกับพอดแคสต์ในปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าภายในระยะเวลา 4 ปี
คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine
