เปิดแล้ว Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok หมุดหมายใหม่การพักผ่อนคู่สุขภาพ - Forbes Thailand

เปิดแล้ว Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok หมุดหมายใหม่การพักผ่อนคู่สุขภาพ

หลังจากบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ทำสัญญาซื้อที่ดินผืนงามจากตระกูลโพธิรัตนังกูรในปลายปี 2559 เพื่อพัฒนา BDMS Wellness Clinic หรือ “ศูนย์ความเป็นเลิศของการมีสุขภาพดี

ก่อนที่เมื่อสิงหาคมปีก่อน จะจับมือกับเชนโรงแรมดังจากสวิสอย่าง Mövenpick Hotel & Resort ซึ่งปัจจุบันบริหารโดยกลุ่มแอคคอร์ โฮเทล พัฒนารีสอร์ทเวลเนสระดับสากลในชื่อ Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok ที่ล่าสุดพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว

Raymond Chong ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BDMS Wellness Clinic เปิดเผยว่า จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากรโลก และเทรนด์สังคมสูงวัยที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้คนมีอายุยืนยาวได้อย่างสบาย มีชีวิตดี ไม่ใช่สูงวัยแบบเจ็บป่วย ประกอบวิสัยทัศน์ของเราที่อยากเน้นไปที่การป้องกันก่อนป่วย จึงร่วมมือกับ Mövenpick Hotel & Resort ในการให้บริการเชิงสุขภาพแนวใหม่ที่เป็นการผสานระหว่างการพักผ่อนและและการฟื้นฟูสุขภาพขึ้น

ที่ผ่านมา BDMS Wellness Clinic มองหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นเชนโรงแรมที่มีมาตรฐานระดับโลก มีความรู้ความสามารถในการจัดการบริการเพื่อสุขภาพ รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในด้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่ง Mövenpick ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนั้นตอบโจทย์ตรงนี้ทุกอย่าง

ทั้งนี้ Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ที่เดิมเคยเป็นโรงแรมปาร์คนายเลิศ ให้บริการห้องพักและห้องสวีทจำนวน 293 ห้อง โดยทุกห้องมีระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวสวนอันร่มรื่น ภายในโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา เป็นต้น

Chong กล่าวอีกว่า จุดเด่นของโครงการนี้คือการเชื่อมต่อโดยตรงกับ BDMS Wellness Clinic คลินิกสุขภาพด้านดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพระดับเอเชียที่มีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก โดยมีโปรแกรมดูแลสุขภาพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเวชศาสตร์การชะลอวัย, การฟื้นฟูฮอร์โมน, พันธุกรรม, สุขภาพทางเดินอาหาร, ทันตกรรม และคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก โดยเรามีห้องปฏิบัติการพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สามารถประเมินผู้ป่วยเฉพาะบุคคลได้

โดยการเข้าใช้บริการคลินิกในรูปแบบแพ็คเกจการรักษา จะรวมค่าที่ห้องพักของโรงแรม และอาหารเฉพาะของลูกค้าแต่ละคนด้วย

สิ่งที่เรานำเสนอ คือ การได้อยู่ใกล้ชิดกับคลินิก ซึ่งสร้างความสะดวกสบายได้มากกว่า อย่างเช่น บางโปรแกรมคุณสามารถมาเจาะเลือดตรวจกับแพทย์ได้ในตอนเช้า จากนั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำ ออกไปท่องเที่ยว แล้วกลับเข้ามารับผลเลือดจากแพทย์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง หรือนั่งรอพบแพทย์หลายชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ตั้งเป้าเป็นคู่แข่งกับโรงพยาบาล เพราะเป้าหมายของเราคือทำให้คนมีสุขภาพดีขึ้น พร้อมกับขับเคลื่อนและพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย

20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นเดสทิเนชั่นด้านการท่องเที่ยว แต่ 2 ปีที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา เมียนมา เข้ามาเป็นคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด เราจึงเห็นภาคธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวไปสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco Tourism) และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) มากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นบริการนวด สปา และบิวตี้ ซึ่งต่อไปต้องไม่ใช่เรื่องนี้เท่านั้น แต่ต้องเป็นการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ที่รวมถึงการวิเคราะห์ยีน การปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งจะเป็นหนทางใหม่เพื่อการแข่งขันของไทย และหากเราทำสำเร็จ เราจะเป็นผู้นำในอาเซียน

 

ทุ่ม 2 พันล้านรีโนเวตห้องพัก-คลินิก

Bruno Huber ผู้จัดการทั่วไป Mövenpick Hotel & Resort Bangkok กล่าวว่า จากมูลค่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วโลกที่อยู่ที่ 5.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนในไทยอยู่ที่ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีอัตราเติบโต 7% ต่อปี ที่น่าสนใจคือกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุราว 35 ปี แทนที่จะเป็นคนสูงวัย จึงมองว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตได้

สำหรับการร่วมมือกันของ Mövenpick Hotel & Resort และ BDMS Wellness Clinic ใช้งบประมาณในการปรับปรุงอาคารสถานที่ทั้งฝั่งโรงแรมและฝั่งคลินิกราว 2 พันล้านบาท โดยการปรับปรุงส่วนใหญ่เน้นไปที่ห้องพัก ที่มีการนำเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่น ที่นอน ที่สามารถปรับความนุ่มและความแข็งของที่นอนได้ทั้ง 2 ด้านในเตียงเดียวกัน หรือระบบ iHome ที่สามารถปรับไฟ เสียง ให้เกิดการผ่อนคลาย ภายในห้องทุกห้องยังมีเสื่อโยคะ ช่องรายการโทรทัศน์เพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย เป็นต้น

เรายังมีการอบรมพนักงานให้ไม่เพียงแต่บริการดี แต่ยังมีความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพ และประโยชน์ของอาหารหรือวัตถุดิบบางอย่าง นอกจากนี้ เรายังปรับปรุงห้องอาหารใหม่ มีเชฟที่เชี่ยวชาญด้านอาหารสุขภาพมาประจำที่โรงแรม พร้อมมีบริการจัดอาหารเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับการพักเบรกในการประชุมสัมมนาด้วย

Huber ระบุว่า นอกเหนือจากการเป็นเดสทิเนชั่นในด้านการฟื้นฟูสุขภาพตนเองท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น Mövenpick BDMS ยังโดดเด่นในด้านการจัดประชุมสัมมนา งานแต่งงาน กิจกรรมองค์กร โดยมีพื้นที่จัดงานถึง 2,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ และห้องประชุมอเนกประสงค์อีก 6 ห้อง

 

Mövenpick BDMS - Medical Tourism ที่แรกในเอเชีย

Chong กล่าวว่า สำหรับ BDMS Wellness Clinic เปิดให้บริการมาราว 1 ปีแล้ว โดยมีบริการครบวงจรตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากในต่างประเทศมีการรับรู้เรื่องบริการเพื่อสุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย ทำให้ปัจจุบันเรามีสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 50% และชาวต่างชาติ 50% ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา เวียดนาม จีน ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าหลังจากเปิดโรงแรมด้วยจะส่งผลให้จำนวนลูกค้าของบริษัทเติบโตขึ้น double digit ได้

คอนเซปท์โรงแรมและศูนย์บริการเพื่อสุขภาพแบบนี้ ยังไม่มีทั้งในไทยและในเอเชีย เพราะบริการเพื่อสุขภาพของโรงแรมอื่นยังไม่มีแพทย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการรักษา แต่ของเรามีแพทย์และพยาบาลประจำอยู่ที่คลินิก ทำให้เราเป็นโรงแรมที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวทั่วไป และนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ต้องการใช้บริการคลินิก ซึ่งกลุ่มนี้จะอยู่นาน อย่างเช่น บริการทันตกรรมบางอย่างที่ต้องใช้เวลาในการรักษา 2-3 สัปดาห์ หรือแพ็กเกจลดน้ำหนัก ก็ต้องใช้เวลา 5-6 วัน

Raymond Chong (ที่ 3 จากซ้าย). Bruno Huber (ที่ 1 จากซ้าย)

ทั้งนี้ ในช่วงการให้บริการ 6 เดือนแรก สัดส่วนผู้เข้าใช้บริการเป็นนักท่องเที่ยวและกลุ่ม Mice 70% อีก 30% คือผู้ใช้บริการเชิงสุขภาพ โดยในอนาคตอย่างน้อย 2 ปี คาดว่าลูกค้าทั้งหมด 100% จะเป็นผู้ใช้บริการเชิงสุขภาพ โดยมีการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การออกโรดโชว์ การจัดงานสัมมนา ซึ่งโฟกัสไปที่ลูกค้าเอเชีย ออสเตรเลีย และอาเซียน ในกลุ่ม upper middle ขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของเราคือการทำอย่างไรให้คนที่มีสุขภาพดีอยู่ตอนนี้ เข้าใจว่าการมีอายุยืนแบบมีชีวิตดีนั้นต้องทำอย่างไร

Forbes Thailand รายงานว่า สำหรับการเปิดตัว Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok นับเป็นการเพิ่มจำนวนโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ “Mövenpick” ให้เป็น 87 แห่งใน 25 ประเทศทั่วโลก โดยในประเทศไทย Mövenpick ให้บริการแล้ว 10 แห่ง คือ ภูเก็ต 3 แห่ง, หัวหิน 2 แห่ง, เขาใหญ่ 1 แห่ง, เชียงใหม่ 1 แห่ง และกรุงเทพฯ 3 แห่ง

  อ่านเพิ่มเติม     รายงานโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator