ในขณะที่ยักษ์ใหญ่ในแวดวงยานยนต์แทบทุกค่ายต่างก็มุ่งพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ (self-driving car) แต่ไม่ใช่ Mazda เพราะ CEO อย่าง Masamichi Kogai เชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายในโลกนี้ที่ชื่นชอบการได้นั่งหลังพวงมาลัยและเพลิดเพลินไปกับการขับรถ
Mercedes-Benz, Cadillac, Volvo รวมถึง Google, Tesla และลือกระทั่งว่า Apple ด้วย ต่างก็แข่งขันกันเพื่อที่จะปลิดความสนุกในการขับรถไปจากบรรดาผู้ใช้รถในปัจจุบัน โดยค่ายรถส่วนใหญ่บอกว่าภายในห้าปีจะผลิตรถที่มีการพัฒนาระบบอัตโนมัติขั้นสูงที่สามารถจะเคลื่อนที่ได้เองทั้งในการจราจรแบบที่ต้องวิ่งๆ หยุดๆ และบนถนนหลวงโดยไม่ต้องอาศัยคนขับ เมื่อไม่นานมานี้ ค่าย Volvo เพิ่งจะเปิดตัว Time Machine ห้องโดยสารแห่งอนาคตซึ่งจะมีจอแบนขนาด 25 นิ้วเคลื่อนออกมาแทนที่พวงมาลัยซึ่งจะหดเข้าไป ในขณะที่เบาะคนขับเอนราบลงไป ส่วน Google ก็กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับที่ไม่มีแม้แต่พวงมาลัยหรือคันเร่ง นี่คืออนาคตที่กำลังจะมาถึง ซึ่ง Elon Musk CEO ของ Tesla ทำนายว่าในอนาคต “รถคันไหนก็ตามที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองจะมีมูลค่าติดลบ” แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีมุมมองเหมือนกับ Musk “มันไม่ใช่แค่การเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B”Masamichi Kogai CEO ของ Mazda บอก เขาอาจจะเป็นผู้นำของค่ายรถแถวหน้าเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้กำลังพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ “พันธกิจของเราคือการสร้างความพึงพอใจในการขับรถ”โดยเขาบอกอีกว่า “สำหรับผมแล้ว การขับรถก็เหมือนกับการอยู่บ้านนั่นแหละ...ทันทีที่ผมเข้ามาอยู่ในรถ ไม่มีใครจากโลกภายนอกจะมารบกวนผมได้ ผมอาจจะขับไปที่ทะเลสาบ หรือขึ้นภูเขา ผมไม่รู้หรอกว่าผมจะไปไหนจนกว่าผมจะไปถึงที่นั่นแล้ว” Kogai มี road map ที่ชัดเจนสำหรับอนาคตของค่าย Mazda ซึ่งในอดีตต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อตามคู่แข่งอย่าง Toyota และ Nissan ให้ทัน จนถึงขั้นเกือบล้มละลาย และต้องประสบภาวะขาดทุนถึงหลายพันล้านเหรียญในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 ต่อจากนั้น Ford Motor ซึ่งถือหุ้น Mazda ในสัดส่วนไม่มากนักมาตั้งแต่ปี 1979 ก็ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดโดยมีหุ้น 33% และกุมอำนาจบริหารกิจการ แต่เมื่อเกิดวิกฤตการเงินโลกขึ้นในปี 2008 Ford ก็ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน Mazda ลงเหลือ 14% และเมื่อถึงปี 2010 ก็ตัดขายส่วนที่เหลือทั้งหมดออกไป เมื่อถูก Ford ขายทิ้งในขณะที่ผลประกอบการยังขาดทุนอย่างหนัก Mazda จึงเคว้งคว้าง และขาดทุนต่อไปอีกเกือบ 3 พันล้านเหรียญในช่วงปี 2009-2012
นอกจากนี้ เมื่อปี 2011 Mazda หยุดผลิตรถรุ่น RX-8 ซึ่งขายไม่ดี ก็มีคนออกมาส่งเสียงคัดค้านกันมาก แต่ Kogai ก็ทำให้สาวกของรถสปอร์ต Mazda เริ่มใจชื้นขึ้นอีกครั้ง โดยในงานมอเตอร์โชว์ที่โตเกียวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาได้เปิดตัว RX-Vision ซึ่งเป็นแนวคิดการผลิตรถสปอร์ตที่ทำให้แฟนๆ รถ Mazda ถึงกับน้ำลายหก ซึ่งเมื่อถูกถามว่า Mazda จะสร้างรถที่ว่านี้ออกมาจริงๆ หรือเปล่า Kogai ก็ยิ้มและตอบแบบเขินๆ ว่า “เครื่องยนต์แบบเดียวที่ผมคิดว่าจะใส่ในรถคันนั้นได้ก็คือเครื่อง rotary เท่านั้น”เชื่อได้เลยว่าถ้า Mazda ผลิตออกมาขายจริงล่ะก็ คงมีแฟนๆ ต่อคิวรอซื้อกันเพียบ
เรื่อง: Joann Muller เรียบเรียง: พิษณุ พรหมจรรยา
คลิ๊กอ่าน "หวนคืนสู่อดีตเพื่ออนาคต" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ MARCH 2016 ได้ในรูปแบบ E-Magazine


