Arkady Volozh นักธุรกิจผู้อยู่เบื้องหลังบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย Yandex ซึ่งเทียบเท่ากับเสิร์ชเอ็นจิ้นอย่าง Google และ Yahoo ของรัสเซีย หลุดจากอันดับมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2022 หลังหุ้นของบริษัทปรับตัวลงกว่าร้อยละ 60 ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ที่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน
ณ วันนั้น
Arkady Volozh สูญเสียเงินมากกว่า 400 ล้านเหรียญ เนื่องจากธุรกิจของรัสเซียได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่โลกตะวันตกใช้ เพื่อตอบโต้การบุกยูเครนของรัสเซีย ส่งผลให้มหาเศรษฐีรายนี้ซึ่งเคยมีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 2.6 พันล้านเหรียญ ขณะนี้มีทรัพย์สินเหลือเพียง 580 ล้านเหรียญ
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและ Nasdaq ประกาศระงับการซื้อขายดัชนีหุ้นรัสเซีย อาทิ
Yandex และบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ เช่น ผู้ผลิตวิดีโอเกม
Nexters (ปรับลงกว่าร้อยละ 20 ในเดือนกุมภาพันธ์) บริษัทจัดหางานออนไลน์
HeadHunter Group (ปรับลงกว่าร้อยละ 68 ในเดือนกุมภาพันธ์) แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ
Ozon Holdings (ปรับตัวลงกว่าร้อยละ 46 ในเดือนกุมภาพันธ์) และผู้ให้บริการทางการเงิน
Qiwi (ปรับตัวลงกว่าร้อยละ 25 ในเดือนกุมภาพันธ์)
ด้าน Volozh นักเขียนโค้ดและผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีจาก Silicon Valley ได้ร่วมก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งก่อนที่จะเริ่ม Yandex ในปี 1997 ซึ่งคำว่า Yandex นั้น ย่อมาจาก
Yet Another Indexer เพราะธุรกิจแรกของบริษัท คือ การทำเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล
ต่อมา Yandex ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงมอสโก ได้ก้าวขึ้นเป็น
‘บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย’ ด้วยมูลค่า ณ ราคาตลาด มากกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญ ณ จุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ขณะที่มูลค่า ณ ราคาตลาด ณ วันพุธที่ 2 มีนาคม 2022 ตกลงมาอยู่ที่ 6.7 พันล้านเหรียญ
โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Yandex คือ หนึ่งในบริษัทที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกและผู้ใช้ชาวรัสเซีย ครองส่วนแบ่งตลาดเสิร์ชเอ็นจิ้นในประเทศบ้านเกิดกว่าร้อยละ 60 ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งเทียบเท่าคู่แข่งในตลาดสหรัฐฯ
ทว่าธุรกิจข้างต้นกลับเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอาณาจักร Yandex เท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันบริษัททำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตอีกหลากหลายประเภท อาทิ บริษัทเรียกรถแบบ Uber ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นต้น
ด้าน Sebastian Patulea รองประธานฝ่ายวิจัยตราสารทุนที่ Jefferies ในกรุงลอนดอน ยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลทางการเงินของ Yandex ที่จะรับประกันการเทขายหุ้นทิ้ง และการปรับตัวลงอย่างรวดเร็วของหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมาจาก "ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์" แบบใหม่และที่ใหญ่กว่า คือ “ผลกระทบทางอ้อม” ของการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
“มูลค่าพื้นฐานของบริษัทจะเปลี่ยนไปตามอัตราการเติบโต ต้นทุนของเงินทุน และอัตราการแลกเปลี่ยน แต่การซื้อขายในสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ทั้งหมดจะแย่ลง” เขากล่าวเสริม
“ขณะที่ปัจจัยด้านความเชื่อมั่น “อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านลบได้อีก””
สำหรับ Ildar Davletshin นักวิเคราะห์วิจัยอาวุโสจาก Wood & Co มองปัจจัย 4 ประเด็นสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อ Yandex ดังต่อไปนี้ คือ หนึ่ง ผลกระทบของเศรษฐกิจท้องถิ่นของรัสเซียที่มีต่อธุรกิจโฆษณาดิจิทัลและการเรียกรถ สอง ข้อจำกัดในการจัดหาอุปกรณ์ไฮเทค เช่น ชิป สาม การอ่อนค่าของเงินรูเบิล และสี่ การขาดแคลนเงินทุนสำหรับโครงการในอนาคต เช่น รถยนต์ไร้คนขับและเทคโนโลยีคลาวด์
“บริษัทจะไม่มีเงินทุนเพียงพอสำหรับการจัดหาเงินทุน (การลงทุนเหล่านี้) หากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ไม่เปลี่ยนแปลง” เขากล่าว
นอกจากนี้ ในขณะที่ Yandex อาจปลอดจากการถูกมาตรการคว่ำบาตร แต่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในปัจจุบันยังคงประกอบไปด้วยหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร เช่น VTB ซึ่งเป็นธนาคารรัสเซีย เป็นต้น
อย่างไรก็ดี Volozh ไม่ใช่มหาเศรษฐีเพียงรายเดียวที่หลุดจากทำเนียบมหาเศรษฐีของ Forbes จากเหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครน เพราะล่าสุดมหาเศรษฐีชาวรัสเซียอย่างน้อย 10 ราย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิน้อยกว่าเกณฑ์การจัดอันดับที่ 1 พันล้านเหรียญในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน
โดยผู้ที่สูญเสียมากที่สุด คือ
Oleg Tinkov ที่หุ้นของธนาคารดิจิทัล
Tinkoff (จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน) ปรับตัวลงกว่าร้อยละ 90 นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มการโจมตีในยูเครน ส่งผลให้ทรัพย์สินของ Tinkov ลดลงกว่า 5 พันล้านเหรียญในเวลาเพียงไม่ถึงเดือน
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Putin Has Broken Russia’s Brightest Tech Business–Founder Arkady Volozh Loses $2 Billion In Three Months เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม:
สงครามบนโลก กับสันติ และมิตรภาพของ นักบินอวกาศ