โลกใบนี้กำลังลุกเป็นไฟ แต่เหล่า นักบินอวกาศ ที่ประจำการอยู่ ณ สถานีอวกาศนานาชาติในช่วงที่เกิดวิกฤตเช่นนี้กล่าวว่าสิ่งที่พวกเขาเจอมีเพียงแค่มิตรภาพเท่านั้น
ภาพยนตร์จากเมื่อปี 1984 เรื่อง 2010 เกี่ยวกับ นักบินอวกาศ ทั้งชาวอเมริกันและรัสเซียร่วมมือกันในภารกิจในอวกาศ แต่เมื่อความขัดแย้งระหว่างสองประเทศบนพื้นโลกถึงจุดเดือด ทั้งสองรัฐบาลก็ออกคำสั่งให้ลูกเรือแยกย้าย
Gregory Chamitoff อดีตนักบินอวกาศชาวอเมริกันนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาดูภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกับ Sergei Volkov และ Oleg Konoenko นักบินอวกาศชาวรัสเซียระหว่างที่ทั้ง 3 ประจำการอยู่ที่สถานีอวกาศนานาชาติด้วยกันเมื่อปี 2008 “ตอนที่ฉากนั้นมา ผมก็พูดว่า ‘พวกนายกลับไปฝั่งของตัวเองเลย!’” เขาเล่าความหลังที่เล่นสนุกให้ฟัง
ช่วงเวลาอันน่าขำขันนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่ตรงประเด็นกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอย่างน่าตกใจ ในขณะที่ทั้งโลกนั่งไม่ติดคอยเฝ้ามองสถานการณ์รัสเซียบุกยูเครน นักบินอวกาศชาวสหรัฐฯ 4 คน และนักบินอวกาศจากยุโรปอีกคนก็กำลังร่วมงานับนักบินอวกาศชาวรัสเซีย 2 คนในห้องทำงานที่ห่างจากพื้นดินบริเวณเขตความขัดแย้งไป 250 ไมล์
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักบินอวกาศสัญชาติอื่นและสัญชาติรัสเซียต้องประจำอยู่ในสถานีอวกาศเดียวกันท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์บนพื้นโลกที่ตึงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การเดินทางออกนอกโลกในเดือนตุลาคม ปี 2000 ลูกเรือในอวกาศได้เห็นวิกฤตการณ์มากมายเกิดขึ้นในโลกใบนี้ และนักบินอวกาศทั้งหลายที่ให้สัมภาษณ์กับ Forbes ก็กล่าวว่าพวกเขาร่วมมือกันมาอย่างต่อเนี่อง
อย่างเช่น Chamitoff ที่ประจำการอยู่กับ Volkov และ Konoenko ตอนที่รัสเซียมีปัญหากับระเทศเพื่อนบ้านอย่างจอร์เจียเรื่องพื้นที่บริเวณเซาท์ออสซีเชีย “เราคุยเรื่องนั้นกัน” เขากล่าว “และพวกเขาก็อธิบายให้ผมฟังว่าพวกเขามองเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรจากความเข้าใจของพวกเขาเรื่องควาสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย”
เขากล่าวว่า เท่าที่เขารู้นั้น ไม่มีใครจากภาคพื้นบอกคนบนอวกาศว่าให้ปฏิบัติตัวอีกแบบเมื่อสถานการณ์ข้างล่างเลวร้ายลง “ทุกอย่างมุ่งเป้าไปที่ภารกิจ” เขากล่าว “แล้วก็เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ”
Richard Mastracchio ผู้ทำงานให้กับหน่วยการบินอวกาศรัสเซียในสถานีอวกาศในช่วงที่ประเทศรัสเซียผนวกไครเมียจากยูเครนเมื่อปี 2014 ก็เล่าประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน “เราก็ยังไปด้วยกันได้ดี” เขาเล่า “ไม่มีความมาคุใดๆ ระหว่างลูกเรือเลย”
สิ่งที่เขาจำได้แม่นที่สุดจากเหตุการณ์ดังกล่าวคือหนึ่งในนักบินอวกาศรัสเซียที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขาใช้เวลาติดต่อกลับโลกเยอะมาก เนื่องจากเขามีสมาชิกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในยูเครนและกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของพวกเขา นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกเรือกังวลใจมากที่สุด เขาเล่าถึงอดีต
นักบินอวกาศ ตัวแทนของประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่ใช้อาวุธโดยตรงไม่เคยเข้ามาทำงานในสถานี โดย ณ ตอนนี้ สถานีอวกาศนานาชาติมี Raja Chari, Mark Vande Hei, Thomas Marshburn และ Kayla Barron นักบินอวกาศจากสหรัฐฯ, Matthias Maurer นักบินอวกาศชาวเยอรมันจากองค์การอวกาศยุโรป และ Anton Shkaplerov กับ Pyotr Dubrov นักบินอวกาศจากรัสเซียประจำการอยู่
นักบินอวกาศที่เดินทางไปรอบโลกและรู้สึกได้ว่าดาวเคราะห์ดวงนี้คือ “ลูกโบว์ลิ่งที่มีลาย” ดังที่นักประพันธ์เพลง Joni Mitchell บรรยาย และมักจะพูดถึง “Overview Effect” ที่นักบินอวกาศยาน Apollo อย่าง Edgar Mitchell ได้อธิบายไว้อย่างสวยงามว่า “คุณจะเริ่มมีความตระหนักกรู้ถึงโลกใบนี้ความขุ่นเคืองต่อสถานการณ์ปัจจุบันบนโลกอย่างรุนแรง และแรงผลักดันที่ทำให้คุณอยากจะทำอะไรสักอย่าง” และเคยเผยกับนิตยสาร People ใจความด้วยสรุปที่ว่าจากตรงนั้นบนดวงจันทร์ การเมืองระหว่างประเทศมันแลดูน่าสมเพช คุณอยากจะกระชากคอเสื้อนักการเมือง ลากเขาไปเกือบล้านไมล์ เพื่อสบถกับนักการเมืองคนนั้น
ทั้ง Mastracchio และ Chamitoff กล่าวว่าความรู้สึกดังกล่าวมันจริงมากๆ “คุณได้เห็นโลกทั้งใบด้วยตาคุณเอง และเมื่อคุณมองไปทางอื่น มันก็ว่างเปล่า เหมือนกับความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด” Chamitoff กล่าว “คุณจะสัมผัสได้ว่ามันเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ลองลอยอยู่ในความว่างเปล่าอันน่าเหลือเชื่อ คุณจะสัมผัสได้ว่านั่นมันมีค่าแค่ไหน สัมผัสได้ว่าที่แห่งนั้นคือบ้านของเรา มันเป็นความรู้สึกที่เอ่อล้นมาก นั่นคือสิ่งที่ทุกคนพยายามจะถ่ายทอดออกมา และมันก็ยากที่จะหาคำสวยงามมาอธิบาย”
Mastracchio กล่าวว่าการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอาจะส่งผลกับโปรแกรมทางอวกาศต่างๆ บนพื้นโลก แต่ลูกเรือที่ประจำการอยู่ ณ สถานีอวกาศแห่งนี้ไม่เคยได้รับผลกระทบของอะไรทั้งนั้น “โปรแกรมทั้งหลายก็ยังคงมีอยู่” เขากล่าว “จริงๆ แล้วมันก็แค่ เราเป็นเพื่อนกันมาก่อนที่เราจะมาอยู่ในอวกาศ และคุณทำงานอยู่บนนั้นซึ่งต้องพึ่งพากันและกัน และคุณก็ต้องทำเช่นนั้นต่อไป”
Chamitoff กล่าวว่าเขาอยากให้โลกใบนี้หันมามองความร่วมไม้ร่วมมือที่เกิดขึ้นบนอวกาศมากกว่านี้ ซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีว่าควรดำเนินการด้านภูมิรัฐศาสตร์อย่างไรกว่ามาก
“สถานีอวกาศนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่น่าสุดวิเศษเชื่อมโยง 15 ประเทศเข้าด้วยกันมากว่า 30 ปีแล้ว” เขากล่าว “เมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น และมีความตึงเครียดแบบนี้ คุณก็ได้แต่สงสัยว่า ‘มีใครสังเกตเห็นไหมนะว่าพวกเรากำลังทำงานด้วยกันและก็ไปได้สวยซะด้วย?’”
แปลและเรียบเรียงจากบทความ While War In Ukraine Rages Below, Astronauts Cooperate Above เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: “Megatrend Retirement Planning” รับอายุยืน 100 ปี
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine