<h2>เมื่อแฟชั่นและความงามเป็นมากกว่าการประทินโฉม แต่ยังช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ ธุรกิจแฟชั่นและความงามจึงก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจ ทั้งยังพาให้บรรดาผู้ประกอบการหลายคนประสบความสำเร็จจนมีความมั่งคั่งหลักพันล้าน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กลายเป็นข่าวใหญ่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา เมื่อบริษัทเครื่องสำอาง e.l.f. Beauty ซึ่งมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเข้าซื้อแบรนด์เครื่องสำอางและสกินแคร์ Rhode ที่ก่อตั้งขึ้นโดยนางแบบสาวคนดัง Hailey Bieber ด้วยมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดีลดังกล่าวอาจไม่ได้ยิ่งใหญ่มากพอจะพา Hailey Bieber วัย 28 ปีขึ้นแท่นมหาเศรษฐีพันล้าน เนื่องด้วยข้อตกลงและการแบ่งผลประโยชน์กับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ แต่ก็นับเป็นการเข้าซื้อกิจการที่ก่อตั้งโดยคนดังครั้งสำคัญในรอบหลายปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถ้าอย่างนั้น มีใครบ้างที่เรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงาม?&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Forbes ได้รวบรวมข้อมูลบรรดาผู้มั่งคั่งจากทั่วสหรัฐฯ และยุโรปที่สร้างความมั่งคั่งจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงาม ไม่ว่าจะสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม ไปจนผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม บางคนยังมีบทบาทในการบริหารจัดการบริษัทอยู่ ในขณะบางคนก็ขายกิจการไปแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เชิญพบกับ 10 มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งแห่งวงการธุรกิจความงามได้ ณ บัดนี้​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/jRBby4V2dxAWMM327Dwn.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="jRBby4V2dxAWMM327Dwn.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="0"></figure></div>อันดับ 1 Bernard Arnaultสัญชาติ: ฝรั่งเศสแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: LVMHมูลค่าทรัพย์สิน: 144,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/k4hHT6w3YAhKcynihUv6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="k4hHT6w3YAhKcynihUv6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="1"></figure></div>อันดับ 2 Francoise Bettencourt Meyers และครอบครัวสัญชาติ: ฝรั่งเศสแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: L’Orealมูลค่าทรัพย์สิน: 86,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/PW4a7S4V2gcLYr4DybSX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="PW4a7S4V2gcLYr4DybSX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="2"></figure></div>อันดับ 3 (ร่วม) Alain Wertheimerสัญชาติ: ฝรั่งเศสแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: Chanelมูลค่าทรัพย์สิน: 37,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/2uGrnwmjr78c6HdQBiRV.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="2uGrnwmjr78c6HdQBiRV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="3"></figure></div>​อันดับ 3 (ร่วม)Gerard Wertheimerสัญชาติ: ฝรั่งเศสแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: Chanelมูลค่าทรัพย์สิน: 37,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float-" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px; width: 300px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/i9bYhVmWZXgXcdVkH5RZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="300px,300px" data-align="" data-file-name="i9bYhVmWZXgXcdVkH5RZ.jpg" data-file-size="0" origin-size="300,300" data-origin="300px,300px" style="width: 300px; height: 300px;" data-index="4"></figure></div>อันดับ 4 Leonard Lauderสัญชาติ: อเมริกันแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: Estee Lauderมูลค่าทรัพย์สิน: 9,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/Z5eVCEJD4nNC4X3i2Cfi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="Z5eVCEJD4nNC4X3i2Cfi.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="5"></figure></div>อันดับ 5 Ronald Lauderสัญชาติ: อเมริกันแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: Estee Lauderมูลค่าทรัพย์สิน: 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/RYMMiA7X3oSNRJLhdeDu.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="RYMMiA7X3oSNRJLhdeDu.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="6"></figure></div>อันดับ 6 Todd Christopherสัญชาติ: อเมริกันแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: Vogue Internationalมูลค่าทรัพย์สิน: 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/3bu36zNF49hoffk5n1YP.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="3bu36zNF49hoffk5n1YP.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="7"></figure></div>อันดับ 7 Reinold Geigerสัญชาติ: ออสเตรียแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: L’Occitaneมูลค่าทรัพย์สิน: 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/cDWcdzFpbhcwtRPLio5C.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="cDWcdzFpbhcwtRPLio5C.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="8"></figure></div>อันดับ 8 John Paul DeJoriaสัญชาติ: อเมริกันแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: John Paul Mitchell Systemsมูลค่าทรัพย์สิน: 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/06/HPi57yvXK2Cz6PyhDdLn.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="HPi57yvXK2Cz6PyhDdLn.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,300" style="" data-index="9"></figure></div>อันดับ 9 Bris Rocherสัญชาติ: ฝรั่งเศสแหล่งที่มาความมั่งคั่ง: Groupe Rocher (บริษัทแม่ของ Yves Rocher)มูลค่าทรัพย์สิน: 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หมายเหตุ&nbsp;- มูลค่าทรัพย์สิน ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2025&nbsp;- Johnson &amp; Johnson เข้าซื้อกิจการ Vogue International ในปี 2016 ที่มา:&nbsp;<a href="https://www.forbes.com/sites/jemimamcevoy/2025/05/30/hailey-biebers-1-billion-rhode-deal-here-are-26-others-who-made-a-fortune-in-beauty/" alt="Hailey Bieber’s $1 Billion Rhode Deal: Here Are 26 Others Who Made A Fortune In Beauty">Hailey Bieber’s $1 Billion Rhode Deal: Here Are 26 Others Who Made A Fortune In Beauty</a>​ ภาพปกโดย ธัญวดี นิรุตติศาสตร์ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/world/global-world/jk-rowling-is-a-billionaire-again-from-the-magic-of-harry-potter" alt="มนตร์ฮอกวอร์ตส์ยังไม่เสื่อม! J.K. Rowling หวนบัลลังก์มหาเศรษฐีพันล้านอีกครั้ง">มนตร์ฮอกวอร์ตส์ยังไม่เสื่อม! J.K. Rowling หวนบัลลังก์มหาเศรษฐีพันล้านอีกครั้ง</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เมื่อความงามมาพร้อมความมั่งคั่ง นี่คือโฉมหน้า 10 มหาเศรษฐีแห่งวงการธุรกิจสายแฟชั่นและบิวตี้

<h2>Yves Rocher (อีฟ โรเช่) เปิดกลยุทธ์แผนธุรกิจปี 65 ตอบรับเทรนด์ตลาด Sustainable Brand ส่งผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อคนใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสานต่อโครงการ “สวยโลกไม่เสีย ซีซั่น 3” ตอกย้ำจุดยืนด้านความยั่งยืน พร้อมดึง ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และ กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมกันครั้งแรก มุ่งเจาะกลุ่ม Green Generation Millennials สร้างกระแสรักษ์โลก ผ่านแคมเปญ ACTs OF LOVE</h2>
วิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อีฟ โรเช่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ภายใต้แบรนด์ “Yves Rocher (อีฟ โรเช่)” กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้โจทย์หลักคือการพัฒนาองค์กรและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกัน ซึ่งบริษัทยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติมายาวนานกว่า 60 ปี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ Yves Rocher ที่ประเทศฝรั่งเศส

เราจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอทางเลือกใหม่ที่ใส่ใจทั้งสุขภาพความงามและสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ที่กำลังมาแรงในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น กลายเป็นทางเลือกใหม่ในใจผู้บริโภค จึงได้สานต่อโครงการ “สวยโลกไม่เสีย ซีซั่น 3” เพื่อแสดงออกและตอกย้ำจุดยืนของบริษัทฯ ในการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่ง อีฟ โรเช่ เป็นแบรนด์แรกในตลาดที่ผลิตภัณฑ์ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลและสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากเป็นการลดใช้พลาสติกแล้ว ยังมีการลดใช้สารเคมีต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

โดยระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมของตลาดธุรกิจความงาม ในปี 2563 มีมูลค่าตลาดลดลงร้อยละ 11 แต่บริษัทสามารถสร้างการเติบโตที่สวนกระแสได้ถึงร้อยละ 6 และในปี 2564 มูลค่าตลาดความงามโดยรวมลดลงร้อยละ 12 แต่บริษัทสามารถเติบโตได้ราวร้อยละ 7 จากการปรับตัวและสร้างภาพลักษณ์ให้ดึงดูดและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัลเอจ เพื่อเข้าสู่ Digital Transformation ทั้งการปรับรูปแบบการสื่อสารและเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ จนสามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 1 บน Social Listening ในกลุ่มสินค้าความงาม และด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมซึ่งซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ทางบริษัทจึงได้เพิ่มและปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาด รวมทั้งช่องทางการจำหน่าย ผนวกกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในโมเดลใหม่ โดยเน้นการใช้กลยุทธ์ Omni-Channel อย่างเต็มที่ เพื่อเชื่อมโยงทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

<img class="alignnone size-full wp-image-57706" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/Central-world.jpg" alt="" width="806" height="404" />

และสำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ อีฟ โรเช่ ได้ตัวแทนคนรุ่นใหม่อย่าง ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และ กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ มานั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเจาะกลุ่ม Green Generation Millennials (คนรุ่นใหม่ที่รักสินค้าธรรมชาติและเริ่มสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม) ตอกย้ำ Brand ID ผ่านแคมเปญ “ACTS OF LOVE” มุ่งสื่อสารถึงจุดยืนของอีฟ โรเช่ ที่มีต่อโลกใบนี้ พร้อมจับมือพันธมิตรที่มีจุดยืนเดียวกัน อาทิ HEARTIST, Wisdomative, Loopers, SOA, Fisher.folk, เพียรหยดตาล, สวนศิลป์หนองมน, Kokomary, 1001 Oven Club, Ira, Chewitjitjai, Very Whale.eco, iLeafGreen, Qualy, Sassion.Studios, ชมรมสิ่งแวดล้อม, KOEN, Environman, ลุงซาเล้งกับขยะที่หายไป, T.Zero, Tase Bud Lab  และ Standard Archieve โดยเตรียมจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้และกระตุ้นจิตสำนึกให้ผู้บริโภคทุกคนได้เข้าถึงและให้ความสำคัญในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้ง Below the Line และ Above the Line

ผลจากความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้รับรางวัลองค์กรดีเด่นแห่งปีสาขาบริหารและพัฒนาธุรกิจ จากโครงการหนึ่งล้านกล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน และรางวัลนักบริหารดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2564 สาขาบริหารและพัฒนาธุรกิจ จากมูลนิธิเพื่อสังคมไทย โดยได้รับเกียรติจากพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรีและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส เป็นประธานและผู้มอบรางวัล

ผลงานความสำเร็จที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับ 2 รางวัลดังกล่าว มาจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน “การได้รับรางวัลดังกล่าวเป็นสิ่งที่การันตีในความสำเร็จจากการดำเนินงานต่าง ๆ และยิ่งตอกย้ำถึงความภาคภูมิใจในการทำงานร่วมกันที่มีเป้าหมายชัดเจน บนพื้นฐานและจุดยืนของแบรนด์เรื่อง ACTs OF LOVE ตลอดจนการแสดงออกถึงศักยภาพของทีมงานที่ร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ” วิลาสินี กล่าว

ส่วนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตที่ 19 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน โดยจะมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเส้นผม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนในการสร้างรายได้กว่าร้อยละ 75 และอีกร้อยละ 25 ของรายได้จะมาผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งบริษัทฯ ยังเตรียมที่จะผลักดันธุรกิจที่เป็นบริการนวด โดยจะมีการเปิดตัวใหม่อีกครั้ง และคาดว่าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับรายได้ในปีนี้

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/paco-%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b9%89.html">PACO มั่นใจรายได้ทะลุพันล้าน ชู OEM ชิ้นส่วนแอร์อนาคตไกล</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events