<h2>Wang Ning ผู้ก่อตั้งบริษัทของเล่น Pop Mart International Group กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากกว่า Jack Ma ผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba จากกระแสความนิยมถล่มทลายของตุ๊กตา Labubu (ลาบูบู้)</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Wang วัย 38 ปี ประธานและซีอีโอ ซึ่งเป็นคนอายุน้อยที่สุดในบรรดา 10 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของจีน ครองทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการถือหุ้นในบริษัท ตามการประเมินของ Forbes โดยเขารั้งอันดับที่ 8 แซงหน้า Jack Ma (2.67 หมื่นล้านเหรียญ) และ Chen Tianshi ผู้ร่วมก่อตั้ง Cambricon Technologies (2.51 หมื่นล้านเหรียญ) ตามการจัดอันดับมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หุ้น Pop Mart ที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้นมากกว่า 250% ในปีนี้ ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาด 435.7 พันล้านเหรียญฮ่องกง (5.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) สูงกว่าผู้ผลิตตุ๊กตา Barbie อย่าง Mattel และ Hasbro ของสหรัฐฯ รวมกันถึงกว่า 3 เท่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวตุ๊กตา Labubu รุ่นใหม่ในจีน ลักษณะคล้ายกระต่าย หูแหลม ฟันแหลม และยิ้มเจ้าเล่ห์ โดย Labubu รุ่น 4.0 วางขายที่ราคา 79 หยวน (11 เหรียญ) มีทั้งหมด 28 แบบ ขนาด 10.5 เซนติเมตร หลากหลายสีสัน รวมถึงรุ่นลิมิเต็ด 2 แบบที่หาซื้อยากกว่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตุ๊กตา Labubu ขนาดมินิ ขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาที ทั้งบนช่องทางออนไลน์ เช่น ร้าน Pop Mart ใน WeChat และ Tmall ขณะที่ในแพลตฟอร์มซื้อขายของมือสองอย่าง Xianyu มีการนำไปขายต่อในราคาสูงกว่าต้นทุนเดิมกว่าเท่าตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม Wang Ning เคยทำนายว่า Pop Mart อาจสร้างรายได้ “ไม่ต่ำกว่า” 30,000 ล้านหยวนในปีนี้ โดยครึ่งปีแรกบริษัททำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 204.4% เมื่อเทียบปีก่อน อยู่ที่ 13,900 ล้านหยวน กำไรสุทธิพุ่ง 397% อยู่ที่ 4,600 ล้านหยวน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทเปิดเผยว่าตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดคือทวีปอเมริกา โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยอดขายพุ่งทะยานกว่า 1,000% เมื่อเทียบปีก่อน โดยอยู่ที่ 2,300 ล้านหยวนในช่วงครึ่งปีแรก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากคนทั่วไปแล้ว Labubu ยังได้รับความนิยมจากเหล่าคนดังระดับโลกอย่าง Rihanna, Kim Kardashian และลิซ่า วง Blackpink โดยตุ๊กตามินิรุ่นใหม่นี้เริ่มเปิดขายในตลาดต่างประเทศสำคัญๆ อย่างออสเตรเลีย ไทย และสหรัฐฯ ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น แปลและเรียบเรียงจาก&nbsp;<a target="_blank" href="https://www.forbes.com/sites/ywang/2025/08/28/global-labubu-craze-makes-pop-marts-young-founder-richer-than-jack-ma/" alt="Global Labubu Craze Makes Pop Mart’s Young Founder Richer Than Jack Ma">Global Labubu Craze Makes Pop Mart’s Young Founder Richer Than Jack Ma</a> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/global/%E0%B8%B4labubu-trend-pop-mart-first-half-of-2025-profit-surges-350-percent" alt="ด้วยพลังแห่งลาบูบู้! Pop Mart เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกคาดผลกำไรเติบโต 350%">ด้วยพลังแห่งลาบูบู้! Pop Mart เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกคาดผลกำไรเติบโต 350%</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘ลาบูบู้’ ฟีเวอร์ทั่วโลก! ดันเจ้าของ Pop Mart รวยแซง Jack Ma แล้ว

<h2>Wang Ning มหาเศรษฐีพันล้านวัย 33 ปี ผู้ก่อตั้ง Pop Mart International Group บริษัทของเล่นรายใหญ่ในจีน มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มสูงขึ้นกว่า 3 เท่าหลังนำธุรกิจเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง</h2>
<figure><img class="wp-image-38829" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/CEO-in-store-1-1024x683-1024x683.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Wang Ning ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Pop Mart International Group</figcaption></figure>

เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2020 บริษัทสัญชาติจีนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่งแห่งนี้ ระดมทุนได้มากถึง 674 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังปิดราคาซื้อขายหุ้น IPO ที่ 38.5 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้น จากเบื้องต้นที่คาดการณ์ไว้ที่ 31.5 เหรียญฮ่องกง ส่งผลให้มูลค่ากิจการล่าสุดปรับตัวอยู่ที่ 6.9 พันล้านเหรียญ ซึ่งต่อจากนี้ทางบริษัทวางแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการเปิดสาขาและขยายกิจการสู่ต่างประเทศ

ในที่นี้ Forbes ประเมินว่า <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/ywang/2020/07/02/master-of-mystery-the-new-billionaire-whose-cult-favorite-toys-are-sold-at-random/?sh=4fc54b3e42c6">Wang</a> ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 3.2 พันล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่มีมูลค่าอยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญ ขณะที่มูลค่ากิจการ ณ เวลานั้นมีมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญ

นักธุรกิจวัย 33 ปีผู้นี้สร้างชื่อเสียงจากการขายของเล่นที่เป็นฟิกเกอร์ของตัวการ์ตูนต่างๆ ในรูปแบบของกล่องปริศนา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “blind box” ในราคา 8 เหรียญต่อกล่อง ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ลูกค้าจะต้องสุ่มว่าฟิกเกอร์ภายในกล่องที่ซื้อไปเป็นลายอะไร โดยที่ลายแต่ละลายของ Pop Mart ต่างได้รับการออกแบบโดยศิลปินและตัวการ์ตูนที่เป็นลิขสิทธิ์ชื่อดังเพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ขายของเล่นดังกล่าวจะได้รับความนิยมทั้งเด็กและนักสะสมจำนวนมาก

ล่าสุด เอกสารทางการเงินของทางบริษัท ได้ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีผลประกอบการเติบโตขึ้นร้อยละ 51 คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 817.8 ล้านหยวน (125 ล้านเหรียญ) ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 141.3 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้หน้าร้าน Pop Mart ที่ปัจจุบันมีสาขาอยู่ 136 แห่งทั่วโลกต้องปิดทำการ 

โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 นี้ มีสินค้าขายดีที่สุด คือ ตุ๊กตามนุษย์ต่างดาว Dimoo ที่มีทรงผมคล้ายสายไหม ซึ่งได้รับการออกแบบโดย Ayan Tang ศิลปินชาวจีน และครองสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ร้อยละ 14.4 แซงหน้าตุ๊กตายอดนิยมอย่าง Molly ที่ได้ศิลปินชาวฮ่องกงอย่าง Lelly Wong มาร่วมออกแบบ ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ร้อยละ 13.7

<figure><img class="wp-image-38828" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/popmart.jpg" alt="" width="720" height="411" /><figcaption> หน้าร้าน Pop Mart แห่งหนึ่งขณะจัดแสดงตุ๊กตา Molly หนึ่งในสินค้ายอดนิยม</figcaption></figure>

ปัจจุบัน Pop Mart จำหน่ายสินค้าทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ และภายในสิ้นปี 2022 นี้ ทางบริษัทวางแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 183 แห่งในจีน และเพิ่มจำนวนเครื่องจำหน่ายกล่องปริศนาอัตโนมัติอีก 1,800 เครื่อง

ไม่เพียงเท่านั้น Wang ยังวางกลยุทธ์ที่จะขยายการเติบโตไปยังเกาหลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ โดยคาดว่าในระยะเวลาอีก 2 ปี จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 100 แห่งและเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติอีก 1,000 เครื่องในต่างประเทศ

Wang ก่อตั้ง Pop Mart ขึ้นในปี 2009 หลังจบการศึกษาจาก Zhengzhou University โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก LOG-ON ร้านค้าปลีกที่มีสาขามากมายในฮ่องกง ซึ่งจัดจำหน่ายของใช้มากมาย อาทิเช่น ของเล่น เครื่องสำอาง และเครื่องเขียน เป็นต้น ซึ่งในตอนแรก Wang ก็ได้นำแบบจำลองธุรกิจดังกล่าวมาใช้

แต่ด้วยความที่มีสินค้ามากมายจึงทำให้ Wang ต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่ตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการคลังสินค้า พนักงาน ตลอดจนสายพานการผลิต ด้วยเหตุนี้เขาจึง “ค่อยๆ ทยอยตัดสินค้าประเภทอื่นๆ ออกไป จนกระทั่งในปี 2014 จึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญเพียงการขายของเล่นเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด” Wang กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ <a style="color: #333333;" href="https://www.forbes.com/sites/ywang/2020/07/02/master-of-mystery-the-new-billionaire-whose-cult-favorite-toys-are-sold-at-random/?sh=4fc54b3e42c6">Forbes Asia</a> ในเดือนกรกฎาคม 2020

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Hong Kong IPO Makes This 33-Year-Old Chinese Toy Tycoon A Billionaire Several Times Over เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/ของเล่นใหม่ของ-francis-choi-เศรษฐี.html">ของเล่นใหม่ของ Francis Choi เศรษฐีพันล้านชาวฮ่องกง</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events