<h2>อธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส เผยทิศทางการเติบโตหลังต่อสัญญากับ Central Group ภายใต้หลักสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในแนวทาง “Building glow to partnership” เชื่อมผลิตภัณฑ์และดาต้าจากกลุ่มเครือกรุงศรีฯ คาด เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส (GCS) สิ้นปีตัวเลขเติบโตในสองหลักทุกมิติ</h2>
อธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า ภายหลังการเข้าพิชชิ่งงานและสามารถต่อสัญญากับกลุ่มเซ็นทรัลได้สำเร็จในการบริหารบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ด้วยการคอนเซ็ปต์ “Partnership next Level” ซึ่งเป็นการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจให้มากขึ้น ประจวบเหมาะกับความพร้อมของ “กรุงศรีฯ คอนซูมเมอร์” และกลุ่มธนาคารกรุงศรีฯ ที่สามารถทำได้เป็นจริง

สำหรับภาพรวมการเติบโตของ เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส ปี 2564 มีผลประกอบการที่ทำลายสถิติตัวเลขสูงสุดสูงเป็นประวัติกาณ์ในการก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2541 สินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้หรือ NEA ทำสถิติ 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรนั้นทำลายสถิติสูงสุดเช่นกัน โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นจำนวน 7.65 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา ด้านฐานบัตรรวมมีจำนวน 952,000 ใบ เติบโตรวม 6 เปอร์เซ็นต์

ปี 2564 นั้นเป็นช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ทำให้การเปิดบัตรเดรดิตใหม่ลดลงติดลบ 32 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 52,000 ใบ เช่นเดียวกับยอดสินเชื่อใหม่อยู่ลดลงติดลบ 4 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท สาเหตุอันเนื่องจากการปิดห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการสมัครบัตรเครดิต

ขณะเดียวกันในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การเติบโตและส่วนแบ่งทางการตลาดของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ปี 2564 มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมร้อยละ 4.6 ของธุรกิจบัตรเครดิตในประเทศ โดยบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ทั้ง 4 ประเภทนั้น เติบโตจากกลุ่มบัตรสีดำทั้ง 2 ประเภทสำหรับลูกค้าที่ฐานเงินเดือนเกินหนึ่งแสนบาทขึ้นไป โดยในกลุ่มของบัตรสีดำนี้สร้างเติบโตของยอดใช้จ่ายรวมของปี 2564 ราว 30-40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่บัตรสีแดงเติบโตเพียงตัวเลขหนึ่งหลักเท่านั้น

<img class="alignnone size-full wp-image-63729" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/Photo-4_ภาพหน้าบัตรเครดิต-เซ็นทรัล-เดอะวัน.jpg" alt="" width="650" height="433" />
<h3>ปัจจัยลบจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ</h3>
อธิศ กล่าวว่าในปี 2565 แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายไปมากแต่เนื่องจากสถานการณ์โลกโดยเฉพาะสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้พลังงานเชื้อเพลิงภายในประเทศสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์มีส่วนสำคัญที่ทำให้ระดับเงินเฟ้อสูงขึ้น 4.5 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ตัวเลข GDP ของประเทศปี 2565 นั้นอาจจะต่ำกว่า 3.2 เปอร์เซ็นต์ จากการประมาณการของธนาคารแห่งประเทศไทยให้ไว้ ขณะที่ในส่วนอัตราการผิดนัดชำระของผู้ถือบัตรเครดิตยังอยูในระดับที่น่าเป็นห่วง สำหรับสถานการณ์บวกอย่างการเปิดประเทศและการจับจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น อธิศ คาดการณ์ว่าจะปิดปี 2565 ด้วยตัวเลขบัตรใหม่ที่เพิ่มขึ้นราว 10-15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเพิ่มขึ้นราว 12-15 เปอร์เซ็นต์

สำหรับตัวเลขผลดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2565 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2564 สินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้ (NEA) อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.4 ขณะที่ยอดบัตรเครดิตใหม่อยู่ที่ 19,500 ใบ ยอดบัตร CFC ใหม่อยูที่ 9,500 ใบ ยอดสินเชื่อบุคคลใหม่อยูที่ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดเมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวันมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยูที่ 4.7 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้อธิศคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2565 เป้าหมายของการเติบโตของบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน จะอยู่ที่ตัวเลขสองหลัก คาดการณ์โดยประมาณตัวเลขบัตรเครดิตใหม่อยู่ 81,200 ใบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ราว 8.82 หมื่นล้านบาท โตราวร้อยละ16 ยอดสินเชื่อบุคคลใหม่ อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท โตราวร้อยละ 13 และ สินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้ (NEA) อยู่ที่ราว 2.5 หมื่นล้านบาท โตราวร้อยละ 10
<h3>แนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืน</h3>
สำหรับแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืน อธิศกล่าวเพิ่มเติมว่าเป็นการเติบโตผ่านการใช้แผนธุรกิจใน 4 เสาหลักซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส เร่งการเติบโตของรายได้ระหว่างกลุ่มธนาคารกรุงศรีฯ และกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ การเดินทางสร้างช่องทางการชำระเงินผ่าน QR-CODE ที่จะช่วยให้ผู้ถือบัตรได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเซ็นทรัลฯ หรือการใช้บัตรผ่านแอปพลิเคชั่น UChoose การปรับปรุงบัตรสีแดงในโดนใจผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ และเตรียมพัฒนาโปรแกรมการใช้จ่ายแบบ Buy Now Pay Later ที่คาดว่าเปิดตัวภายในปีนี้

ส่วนที่สองคือความร่วมมือด้านการพัฒนาข้อมูลจากฐานสมาชิก The 1 จำนวน 18 ล้านราย เพื่อสร้างโปรโมชั่นที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวดเร็ว เนื่องจากข้อมูลจากฐานของสมาชิก The 1 สามารถลงลึกในระดับ SKU

ส่วนที่สามการศึกษาการใช้เหรียญฯ เป็นคะแนนสะสม ผ่านแอปฯ UChoose และส่วนที่สี่คือการร่วมกันระหว่างสององค์กรในการเชื่อมต่อบริการและผลิตภัณฑ์ระหว่างสององค์กร อาทิ ความร่วมมือทางโปรโมชั่น ความร่วมมือในฟังก์ชันใหม่ๆ อย่าง BNPL เพื่อเพิ่มศักยกาภและยอดขาย ความร่วมมือในร่วมพัฒนาโมเดลข้อมูลเพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ ผ่านเครือข่ายภายในกลุ่มเซ็นทรัลอย่าง Central Retail ไทวัสดุ เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/accenture-technology-vision-2022.html">เปิดจักรวาลโลกอนาคตกับ Accenture Technology Vision 2022</a>

<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส เผยทิศทางและกลยุทธ์ปี 2565 บัตรเครดิต co-brand “บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน”

<h2>The One คฤหาสน์ที่เป็นยิ่งกว่าคฤหาสน์หลังนี้ จะขึ้นแท่นบ้านที่แพงที่สุดในสหรัฐอเมริกาหากหนึ่งในเศรษฐีพันล้านจำนวนน้อยนิดบนโลกนี้ตัดสินใจซื้อบ้านสุดโออ่าหลังนี้ภายในเดือนหน้า</h2>
คฤหาสน์ 105,000 ตารางฟุต ณ Bel Air ที่ถูกเรียกขานว่า 'The One' อาจกลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกขายไปในราคาที่แพงที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อบ้านหลังนี้เข้าสู่ตลาดประมูล
อหังสาฯ ณ เนินเขาครอบคลุมพื้นที่ 3.8 เอเคอร์ถูกนำเข้าตลาดวันที่ 7 มกราคมในราคาถึง 295 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะเข้าสู่ตลาดออนไลน์วันที่ 7 กุมภาพันธ์ผ่าน Concierge Auctions ด้วยทำเลทองของบ้านหลังนี้ ผู้ที่ชนะการประมูลไปจะได้บ้านที่สามารถมองเห็นมหาสมุทรได้แบบ 360 องศา, วิวภูเขา และย่านตัวเมืองของ Los Angeles ได้อีกด้วย


<figure><img class="size-full wp-image-57095" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/The-One_Family-Room.jpg" alt="" width="720" height="449" /><figcaption> ห้องครอบครัว</figcaption></figure>
มีอสังหาริมทรัพย์จำนวนน้อยนิดที่มีป้ายราคาสูงกว่าหลังนี้บนโลกใบนี้ โดยทาง <a href="https://luxurydefined.christiesrealestate.com/hundred-million-dollar-sales">Christie's Real Estate</a> กล่าวว่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นประกอบไปด้วย Chateau Louis XIV ในฝรั่งเศส, เพนท์เฮ้าส์ La Belle Epoque ในโมนาโคและบ้านบริเวณ Pollock's Path ในฮ่องกง
ใช้เวลาร่วมศตวรรษกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ The One เป็นบ้านหลังแรกและหลังเดียวที่มีพื้นที่มโหฬารขนาดนี้ในเมือง Los Angeles เนื่องจากระหว่างที่คฤหาสน์หลังนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา กฎเกณฑ์ใหม่ที่จำกัดขนาดของบ้านครอบครัวเดี่ยวก็ผ่านลุย โดยกฎนี้มีไว้เพื่อลดจำนวนมหาคฤหาสน์ทั้งหลายในเมืองแห่งนี้
ป้ายราคาเก้าหลักไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในฝั่ง Westside ของ LA โดยบ้านอีกหลังใน Bel Air <a href="https://www.cnn.com/style/article/most-expensive-home-250-million-usd/index.html">ถูกขาย</a>ไปในราคา 250 ล้านเหรียญเมื่อปี 2017 อีกทั้งยังมี 'Villa Firenze' บ้านขนาดมหึมาใน Beverly Hills ซึ่ง<a href="https://www.cnn.com/style/article/most-expensive-home-auction-intl-hnk/index.html">ถูกนำขึ้นประมูลในราคา</a> 160 ล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว (ราคาขายไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ) 


<figure><img class="size-full wp-image-57096" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/The-One_Cigar-Room.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ห้องซิก้าและยาสูบ</figcaption></figure>
แต่ 'Gigamansion' อย่าง The One นับว่าเป็นหลังที่โออ่าที่สุดในบรรดาบ้านหลักร้อยล้าน โดย Aaron Kirman นายหน้าอสังหาฯ เจ้าของบริษัทนามตัวเองซึ่งจับมือขายอสังหาริมทรัพย์หลังนี้กับ Williams &amp; Williams เรียกคฤหาสน์หลังนี้ว่า "โมนาลิซ่าแห่งโลกที่อยู่อาศัย" ในบทสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
The One ยังไม่เคยลงตลาด แต่หากถูกขายไปล่ะก็ ผู้ซื้อจะได้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไนท์คลับ, ซาลอน, สปา, ดาดฟ้ากว้าง 10,000 ตารางฟุต, ลู่วิ่งส่วนตัว, โรงหนัง, ลานโบว์ลิ่ง จนไปถึงห้องเก็บไวน์ความจุ 10,000 ขวด 
บ้านหลังนี้มีแม้กระทั่งคูน้ำล้อมรอบอีกต่างหาก โดยคูที่ว่านั้นคือสระไร้ขอบที่โอบกอดสามด้านของบ้านหลังนี้เอาไว้ อีกทั้ง ห้องนอนหลักขนาด 5,500 ตารางฟุตของที่แห่งนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าบ้านทั่วๆ ไปของชาวอเมริกันมากกว่าสองเท่าเลยทีเดียว 
บ้านหลังนี้รังสรรค์โดย Paul McClean สถาปนิกผู้ออกแบบบ้านของ Beyoncé และ Jay Z, Avicii จนไปถึง Calvin Klein สุนทรียศาสตร์แบบโมเดิร์นที่นำมาออกแบบทั้งเรียบ ทั้งหรู 


<figure><img class="size-full wp-image-57094" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/The-One_Salon.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ห้องเสริมสวย</figcaption></figure>
สีพื้นและลายเส้นคมเปรียบเสมือนกระดาษเปล่าที่สามารถเติมแต่งรายละเอียดอันสละสลวย เช่น งานศิลปะนับต้นฉบับนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะจัดวางรูปผีเสื้อผลงานของ Stephen Wilson ศิลปินแนว Conceptual และงานปั้นแก้วจากฝีมือช่างกระจกชาวเวนิสอย่าง Simone Cenedese ก็รวมอยู่ในราคาขายนี้ด้วย
Nile Niami นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลังนี้มีเป้าหมายที่จะ "สร้างอสังหาริมทรัพย์ที่วิเศษที่สุดบนโลก" Kirman กล่าว แต่กว่าบ้านหลังนี้จะเข้าสู่ตลาดได้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องให้ปวดหัว เมื่อกันยายนปีที่แล้ว ทาง CNN<a href="https://edition.cnn.com/2021/09/15/homes/bel-air-mansion-the-one/index.html"> รายงานว่า</a>เดิมทีมูลค่าของบ้านหลังนี้อยู่ที่ 500 ล้านเหรียญ และในหมายศาลยังได้เผยอีกว่าเจ้าของบ้านชำระหนี้และหนี้เงินกู้กว่า 100 ล้านเหรียญไม่ตรงเวลา
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา บ้านหลังนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แทนที่จะยึดไปทั้งหลังอันเพื่อใช้แทนการชำระหนี้ โดยมีเหตุผลเนื่องจากข้อตกลงค้าขายที่ซับซ้อน
Rayni Williams แห่ง Williams &amp; Williams กล่าวว่า ราคา 500 ล้านเหรียญเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น และราคาตลาดที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 295 ล้านเหรียญต่างหาก โดยเธอกล่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่านี้เป็นราคาที่ "น่าจะขายได้" และเป็น "ตัวเลขที่จับต้องได้" มากกว่า
ในส่วนของเหตุผลว่าทำไมบ้านหลังนี้ถึงไปอยู่ในตลาดประมูลล่ะก็ Kirman อธิบายว่า "บ้านหลังไหนก็ตามที่ราคาสูงกว่า 100 ล้านเหรียญต้องใช้เวลาระหว่าง 1 ถึง 5 ปีกว่าจะขายได้" เขายังได้เสริมอีกว่าการประมูล "เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะย่นเวลา"
และด้วยจำนวนมหาเศรษฐีพันล้านที่มีน้อยกว่า 2,800 คนบนโลกนี้ เจ้าของบ้านหลังนี้ในอนาคตก็คงมาจากกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มนี้ นอกเสียจากว่ากลุ่มเพื่อนเศรษฐีตัวเล็กๆ จะจับมือกันหารซื้อบ้านหลังนี้
"ผู้ที่จะซื้อได้มาจากตลาดที่ค่อนข้างแคบ" Kirman กล่าว "แต่เรารู้ดีว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของเรา"
แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ A Los Angeles megamansion could sell for $295 million เผยแพร่บน CNN.com
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/balmain-x-barbie-%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%95%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87-nft-%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%9f%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99.html">Balmain X Barbie: อนาคตของ NFT ในโลกแฟชั่นและตุ๊กตา</a>


<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events