<h2>กสิกรไทย ร่วมมือ เอ็มทีเอส โกล์ด (แม่ทองสุก) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ออมทองด้วยสกุลเงินบาทผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้เป็นที่แรก ให้ลูกค้าออมง่ายไปได้อีกผ่าน K PLUS </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธนาคารกสิกรไทย ร่วมมือ กลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ (แม่ทองสุก) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ออมทองคำออนไลน์ด้วยสกุลเงินบาทผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้เป็นที่แรก เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงการออมทองคำเพื่อสะสมทรัพย์ได้ง่ายขึ้นผ่าน K PLUS พร้อมมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย โดยเริ่มต้นการออมขั้นต่ำเพียง 500 บาท และไม่มีค่าธรรมเนียม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร. พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ (แม่ทองสุก) ในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาบริการซื้อ-ขายทองคำออนไลน์ผ่าน K PLUS ที่เปิดบริการไปเมื่อปีที่แล้ว ให้สามารถออมทองคำออนไลน์เป็นสกุลเงินบาทได้ด้วย จากเดิมที่มีเพียงบริการซื้อ-ขายทองคำด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย K PLUS เป็นแอปพลิเคชันธนาคารแรกที่มีบริการออมทองคำด้วยสกุลเงินบาท ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีความต้องการออมทองคำเพื่อสะสมทรัพย์ ซึ่งลูกค้าสามารถทยอยออมได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องแลกเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ เริ่มต้นออมขั้นต่ำเพียง 500 บาท สูงสุด 30 ล้านบาท/วัน (รวมการลงทุนทองคำและกองทุนรวม) เลือกออมได้ทั้งทองคำประเภท 99.99% และ 96.5% มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท กลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ (แม่ทองสุก) กล่าวเพิ่มเติมว่า MTS Gold มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมด้านการลงทุนทองคำมาอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ จึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถออมทองคำด้วยสกุลเงินบาทได้ทันทีผ่าน K PLUS โดยอ้างอิงราคาทองคำในตลาดโลกแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการออมทองคำมาตรฐานตามราคาทองไทย ที่สร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนทุกระดับ ทั้งผู้ที่เน้นการออมทองคำเพื่อสะสมทรัพย์ นักลงทุนมือใหม่ จนถึงนักลงทุนรายใหญ่ที่ต้องการความมั่นใจและความคล่องตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังมอบความสะดวกสูงสุดในการรับทองคำจริง โดยลูกค้าสามารถเลือกรับได้ที่ทุกสาขาของร้านทองแม่ทองสุกทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือเลือกใช้บริการจัดส่งทางไปรษณีย์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งมีประกันสูญหายเต็มจำนวน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/ylg-reveals-that-thai-gold-prices-surged-33-percent-from-the-beginning-of-the-year" alt="YLG เผยจากต้นปีทองไทยพุ่ง 33% ทองโลกพุ่ง 43% ให้ผลตอบแทนดีสุดในรอบ 46 ปี ชี้มีโอกาสเห็น 60,000 บาท หากค่าเงินยังอ่อน">YLG เผยจากต้นปีทองไทยพุ่ง 33% ทองโลกพุ่ง 43% ให้ผลตอบแทนดีสุดในรอบ 46 ปี ชี้มีโอกาสเห็น 60,000 บาท หากค่าเงินยังอ่อน</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘กสิกร’ จับมือ ‘MTS Gold’ ให้ออมทองเป็นเงินบาทผ่าน K PLUS เริ่มออมขั้นต่ำ 500 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียม

&nbsp; &nbsp; ผ่านไปแล้วอย่างสวยงาม สำหรับงานเสวนาใหญ่ประจำปีของ Forbes Thailand ในปีนี้ กับเวที The&nbsp;Next Tycoons 2025: Investing Beyond The Downturn ที่จัดขี้นเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ และร่วมประเมินทิศทางการลงทุนแห่งอนาคต ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน ลงทุนอะไรถึงจะเป็นคำตอบที่ใช่ของวันนี้และอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Forbes Thailand The Next Tycoons 2025: Investing Beyond The Downturn ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากร 4 ท่านจาก 4 ธุรกิจ เริ่มด้วยตัวแทนธุรกิจทองคำ กีรดิต หิรัณยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS) ตัวแทนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH ตัวแทนด้าน VC กับเทรนด์ธุรกิจสตาร์ทอัพ เรืองโรจน์ พูนผล&nbsp;ประธาน กสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) และตัวแทนด้านการท่องเที่ยว&nbsp;Edison Chen&nbsp;รองประธาน Trip.com Group <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/AVBUfG2W5EguFcSZFGJH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="AVBUfG2W5EguFcSZFGJH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"><figcaption><div>​กีรดิต หิรัณยศิริ&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)</div></figcaption></figure></div>​ทองคำ-บิตคอยน์มาแรง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิทยากรทั้ง 4 ท่านแลกเปลี่ยนมุมมมองที่น่าสนใจต่ออนาคตของแต่ละธุรกิจ เริ่มจากทองคำ กีรดิต ย้ำว่าชั่วโมงนี้ยังเป็นเวลาที่สามารถลงทุนในทองคำได้ เพราะแนวโน้มราคาเชื่อว่าจะยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นไปได้สูงว่าราคาทองคำจาก 51,000 บาทต่อบาททองคำในปัจจุบัน จะปรับขึ้นไปถึง 58,000 บาทภายในปีนี้ ในขณะที่หลายคนมองว่าอาจจะไปถึง 60,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยลบ ไม่ว่าจะเป็นสงครามในหลายภาคพื้น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทุกครั้งที่มีปัจจัยลบราคาทองคำมักปรับตัวสูงขึ้นเสมอ เพราะถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนอื่นๆ แนะนำให้มีไว้ในพอร์ตราว 10-15% เหตุเพราะไม่หวือหวาร้อนแรงนัก ลงทุนระยะยาวได้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/1d51dUBByZfeaP8YNY55.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="1d51dUBByZfeaP8YNY55.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"><figcaption><div>​นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH</div></figcaption></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ นิรันดร์ บอกว่ามีความคล้ายคลึงกับทองคำ แต่เป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงกว่า ราคาบิตคอยน์ปีนี้ดีดตัวสูงขึ้น และหากอ้างอิงตามนโนบายของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ผ่อนคลายหลายกฎเกณฑ์ มีส่วนผลักดันให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะบิตคอยน์มีโอกาสที่ราคาจะไปถึง 200,000 เหรียญสหรัฐ เขายังบอกด้วยว่า คริปโตไม่ได้เป็นแค่กระแสแล้ว แต่เป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างมีนัยสำคัญ และพบว่าสถาบันต่างๆ เริ่มจับตามองอย่างจริงจัง ทำให้คริปโตมีโอกาสเติบโตสูงใน 2 ปีนี้ แนะนำว่าควรมีไว้ในพอร์ตราว 10-15% เช่นเดียวกัน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/nveXJEYqECdigqYCDpkj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="nveXJEYqECdigqYCDpkj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"><figcaption><div>​เรืองโรจน์ พูนผล&nbsp;ประธาน กสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)</div></figcaption></figure></div>​AI-ท่องเที่ยวทางเลือกสำคัญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับการลงทุนด้านเทคและสตาร์ทอัพ กระทิง เรืองโรจน์ มองว่าโลกกำลังเปลี่ยนและหมุนเร็วมาก สตาร์ทอัพในหลายธุรกิจอาจไปไม่ถึงความฝันสูงสุด แต่ธุรกิจนี้ก็เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์ และสิ่งหนึ่งที่จะมีบทบาทมากสำหรับการลงทุนแห่งอนาคตคือ AI: Artificial Intelligence ซึ่งจะเข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจ และเป็นตัวผลักดันการเปลี่ยนแปลงทุกธุรกิจอย่างรวดเร็ว และจะรวดเร็วยิ่งกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เคยเปลี่ยนโลกมาแล้ว ดังนั้นจึงต้องทำความรู้จัก และเลือกใช้งาน AI ให้เสริมสร้างธุรกิจ ทำให้มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการทำงานและการใช้ชีวิต ดังนั้น AI จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะต้องลงทุน&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/dM12RW1XYCPitzyRZwum.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="dM12RW1XYCPitzyRZwum.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="3"><figcaption><div>​Edison Chen&nbsp;รองประธาน Trip.com Group</div></figcaption></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านการท่องเที่ยว แม้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงทุน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางนั้นเป็นสิ่งจำเป็นและเกี่ยวของกับทุกคน ในการติดต่อสื่อสารทั้งเพื่อสันทนาการ รวมถึงการมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ Edison กล่าวว่าการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่เติบโตมาก และโตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่หลังโควิท การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวคึกคัก พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ซึ่งเข้ามาปรับปรุงให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นเรื่องง่าย เทคโนโลยีทำให้ผู้คนสามารถเลือกและวางแผนการเดินทางด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น ธุรกิจ OTA: Online Travel Agency มีให้บริการมากมาย Trip.Com เป็นหนึ่งในผู้เล่นแถวหน้าของธุรกิจนี้ มีบริการที่ครบวงจร และได้นำ AI มาช่วยให้ธุรกิจก้าวได้เร็วขึ้น อำนวยความสะดวกให้นักเดินทาง ทำให้ผู้คนเดินทางง่ายขึ้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และครบถ้วน ตามความต้องการเฉพาะบุคคล​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/wQSCy5mhtZpVDV5qJH2t.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wQSCy5mhtZpVDV5qJH2t.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="4"></figure></div> ​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;งานเสวนาในปีนี้ตอกย้ำว่า การลงทุนยุคใหม่ไม่ใช่การเลือก “ปลอดภัย” หรือ “ร้อนแรง” เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คือการสร้างสมดุลระหว่าง สินทรัพย์ที่พิสูจน์ตัวเองมายาวนาน อย่างทองคำ และโอกาสใหม่ที่ขับเคลื่อนโลกอนาคต อย่างบิตคอยน์ AI และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นคง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/wHWzoP1pQX1zvKASFvx1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wHWzoP1pQX1zvKASFvx1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="5"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/M5FS8Y9rgk8wbRq8DeH8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="M5FS8Y9rgk8wbRq8DeH8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="6"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/SHWZBTMxnaHj1m8JEDm3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="SHWZBTMxnaHj1m8JEDm3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="7"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/Kw9PRHHSYworJs8HeXmf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="10" data-file-name="Kw9PRHHSYworJs8HeXmf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ ​ ​

Forbes Thailand: The Next Tycoons 2025 เปิดเวทีเสวนา วิเคราะห์เทรนด์การลงทุนสู่อนาคตไปกับ 4 วิทยากร จาก 4 ธุรกิจที่น่าจับตามอง

<div style="text-align: left">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เต็มอิ่มไปกับเสวนาธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี กับ 6 ผู้นำรุ่นใหม่จากหลากหลายอุตสาหกรรมได้มาร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ท่ามกลางความท้าทายของโลกธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง</div><div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จาก 3 เวทีที่รวบรวมประสบการณ์และความรู้ล้ำสมัย ทั้งการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ การสร้างความเชื่อมั่นในองค์กร&nbsp;ไปจนถึงการพลิกโฉมธุรกิจในยุคใหม่ มาพร้อมกับแนวคิดการสร้างความสำเร็จที่ทุกคนต้องไม่พลาด</div><div class="se-component se-video-container __se__float-none" contenteditable="false" style="width: 100%;"><figure style="width: 100%; height: 56.25%; padding-bottom: 56.25%; margin: 0px;"><iframe src="https://www.youtube.com/embed/gYrbTfB7rms" data-proportion="true" data-percentage="100%,56.25%" data-size="100%,56.25%" data-align="none" data-file-name="gYrbTfB7rms" data-file-size="0" data-origin="100%,56.25%" style="width: 100%; height: 100%;" data-index="0"></iframe></figure></div><div>​ </div>

ร่วมชมบรรยากาศงาน Forbes Thailand: The Next Tycoons 2024 ในหัวข้อ The FUTURPRENEUR: Reimagine, Reinvent, Refine

<h2>Forbes Thailand จัดงานสัมมนา The Next Tycoons 2024 ในหัวข้อ The FUTURPRENEUR: Reimagine, Reinvent, Refine เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยในงานเหล่าผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ได้มาแชร์ประสบการณ์พร้อมเผยถึงแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลในปัจจุบัน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในส่วนของการเสวนา&nbsp;Panel Discussion 2. Reinvent: Business with Technology Integration&nbsp;ได้รับเกียรติจาก 2 ผู้บริหารที่จะมาร่วมแบ่งปัน "องค์ความรู้ใหม่" ของการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้ามากกว่าเดิมในยุคปัจจุบัน&nbsp; &nbsp; เริ่มกันที่ ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ&nbsp;ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ MTS Gold แม่ทองสุก กล่าวว่า "จากเดิมที่ในอดีตกว่า 50 ปีก่อน แบรนด์แม่ทองสุกเน้นขายทองคำผ่านร้านทองตู้แดงและตัวแทนยี่ปั๊ว ซาปัํ๊ว แต่ในปัจจุบันทางบริษัทได้มีการใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจในการจำหน่ายทองคำให้แก่ผู้บริโภคผ่านออนไลน์ โดยเราถือเป็นเจ้าแรกที่ขายทองผ่านแอปพลิเคชัน 'เป๋าตัง' ซึ่งมี user หรือผู้ใช้ทั่วประเทศกว่า 44 ล้านราย ถือเป็นการทำงานโปรเจกต์ใหญ่ที่ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติที่เปิดโอกาสให้ประชาชนชาวบ้านทั่วไปที่เก็บออมหรือลงทุนผ่านตลาดหุ้นไม่เป็น แต่สามารถลงทุนซื้อทองเก็บไว้ทั้งระยะสั้นและยาวผ่านแอปฯ ได้โดยง่าย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางแม่ทองสุกยังจับมือกับ KKP Dime ในการเปิดให้บริการซื้อขายทองคำจากร้านทอง MTS Gold แม่ทองสุก ด้วยการลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท ก็สามารถเก็บออมเงินผ่านการซื้อทองจากแอปพลิเคชัน Dime ได้ เป็นต้น&nbsp;&nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม MTS Gold แม่ทองสุก ไม่ได้ให้บริการซื้อขายทองคำแค่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะตลอด 10 ปีผ่านมา ยังมีการขยายธุรกิจออกไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง และตะวันออกกลาง โดยมั่นใจว่าเป็นปัจจุบันถือเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดดังกล่าวจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านทองคำที่มีมานานวกว่า 70 ปี และยังให้บริการซื้อขายทองคำผ่านทางออนไลน์และออฟลน์ได้อย่างครบวงจร​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ MTS Gold แม่ทองสุก ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า "ปัจจุบันคนทำธุรกิจมีโอกาสพร้อมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ทันสมัยดีกว่ายุคก่อนๆ แต่การจะใช้เครื่องมือดังกล่าวเจาะตลาดในประเทศอย่างเดียวคงไม่พอ เราจะต้องหาโอกาสออกไปเจาะตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่าง CLMV ก่อนด้วย" <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/HSzhGdsahkkJCWsK8Cdz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="HSzhGdsahkkJCWsK8Cdz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; ด้าน&nbsp;พรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์&nbsp;ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ที่ได้รับฉายาในวงการ&nbsp;'เจ้าแม่เอเจนซี่ตลาดจีน' กล่าวว่า การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการนำเอาเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ ที่ทันสมัยมาใช้ โดยล่าสุดเองทางบริษัทมีการลงทุนสูงถึง 500 ล้านบาท ผนึกกำลังร่วมกับ&nbsp;WeChat Pay และหน่วยงานภาครัฐของไทย เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. , กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพาณิชย์ ในการเปิดตัว 'เหวย ไท่ กว๋อ' (WeiTaiGuo) แพลตฟอร์มข้อมูลด้านการท่องเที่ยวไทยสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ครอบคลุม 66 โลเคชั่น เมืองใหญ่และเมืองน่าเที่ยว พร้อมบริการ Payment on Ground และ Payment on Service ผ่าน WeChat Pay อย่างไร้รอยต่อ ตั้งเป้าให้เป็นแพลตฟอร์มที่นักท่องเที่ยวจีนทุกคนต้องมีภายใน 1 ปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าว&nbsp;เกิดขึ้นจากการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่ม FIT (Free and Independence Traveler) ที่นิยมเที่ยวและเดินทางด้วยตัวเอง ซึ่งมีสัดส่วนถึง 80.6% ของนักท่องเที่ยวจีนในกลุ่มของผู้ที่มีรายได้สูง คิดเป็นค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวเฉลี่ยตัวหัวอยู่ที่คนละ 100,000 บาทต่อทริป และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยแพลตฟอร์มนี้นอกจากจะช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวไทยได้อย่างสะดวกสบาย สามารถใช้จ่ายผ่าน WeChat Pay ได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานที่เป็นนักท่องเที่ยวจีนจะต้องเสียค่าบริการเพิ่มอีก 3% สำหรับการใช้บริการต่างๆ ในไทย และในส่วนของธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงร้านสตรีทฟู้ดชื่อดัง ต่อเนื่องไปถึงโรงแรมที่พักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยก็จะได้รับประโยชน์จากแอปฯ นี้มากยิ่งขึ้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/8EjvzTngcE1EanHKKWG4.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8EjvzTngcE1EanHKKWG4.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย จำกัด ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "ในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวของไทยจะต้องปรับตัวให้ไว และจะรอแต่กรุ๊ปทัวร์ใหญ่ๆ จากต่างชาติมาลงอย่างเดียวไม่ได้ ธุรกิจหรือสินค้าใดที่เห็นว่าเป็น Rising Star กำลังมาแรงได้รับความนิยมสูงให้รีบผลักดันจนเกิดการซื้อขายเป็นมูลค่ารายได้สูงก็ให้รีบนำสินค้าดังกล่าวนี้บุกตลาดจีนำร่องไปก่อนแล้วทยอยผลักดันสินค้าอื่นตาม ปัจจุบันที่เห็นกระแสข่าวสินค้าจีนราคาถูกจำนวนมากทะลักเข้าไทย เราก็ต้องเร่งสร้างความต่างด้วยคุณภาพ เอกลักษณ์ความโดดเด่นของสินค้า ศิลปะ วัฒนธรรมไทยที่ลอกเลียนแบบได้ยาก ดีกว่าไปแข่งลงทุนขายสินค้าหรือบริการที่มีราคาถูกเพราะเราคงสู้กับตลาดจีนที่มีกำลังการผลิตสูงแต่มีต้นทุนการผลิตในราคาที่ถูกมากๆ ไม่ได้"&nbsp;​ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/08/mkfG7UECacNRte3B43nc.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="mkfG7UECacNRte3B43nc.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/pwc-thailand-view-media-business-aug-2024" alt="ปี 67 กลุ่มธุรกิจความบันเทิง-สื่อไทยรุ่ง PwC คาดปี 67 รายได้รวมแตะ 690,000 ล้านบาท"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/commentaries/economic-outlook/bank-of-thailand-interest-vs-economic-risk" alt="ธนาคารแห่งประเทศไทยไขปมร้อน ดอกเบี้ย VS เศรษฐกิจเสี่ยง"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/events/news/finance-and-investment/the-next-tycoons-2024-panel-1-reimagine-newage-leadership-mindset-aug" alt="The Next Tycoons 2024: อ่านมุมมอง 2 ผู้บริหารไฟแรงจาก ‘Maxbit-ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น’">The Next Tycoons 2024: อ่านมุมมอง 2 ผู้บริหารไฟแรงจาก ‘Maxbit-ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น’</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

The Next Tycoons 2024: 'โลกธุรกิจกับการบูรณาการเทคโนโลยี' กับ 2 ผู้บริหาร MTS Gold แม่ทองสุก -  ดิจิลิ้งก์ 

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เครือสหพัฒน์ โดย “สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง” ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ “เอ็มทีเอส โกลด์” ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนซื้อ-ขาย ทองคำ ในรูปแบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง (Digital Gold Saving) ยกระดับอุตสาหกรรมการลงทุนทองคำสู่ Digital Economy <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/KD5WFhQ9EVHQmKRaeR9L.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="KD5WFhQ9EVHQmKRaeR9L.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พิภพ โชควัฒนา กรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI เปิดเผยว่า เครือสหพัฒน์ โดย บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ กับ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด โดยมีการพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนซื้อ-ขาย ทองคำ ในรูปแบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง (Digital Gold Saving) ซึ่งแพลตฟอร์ม ดังกล่าว จะช่วยให้ลูกค้า คู่ค้า และบริษัทในเครือสหพัฒน์ เข้าถึงการลงทุนในทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนทองคำให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดทองคำมากขึ้น ไม่ว่าจะตลาดในประเทศหรือต่างประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในรายละเอียดการดำเนินการ SPI และ MTS จะร่วมกันพัฒนาระบบ Digital Gold Saving ซึ่งมีบล็อกเชนเป็นโครงสร้างพื้นฐานและมี เอ็มทีเอส โกลด์ เป็นผู้จัดหาทองคำ ในระบบ Digital Gold Saving โดยให้บริการแก่ ลูกค้า คู่ค้า และบริษัทในเครือสหพัฒน์ อาทิ แคมเปญแจกทองคำ เป็นต้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/SDEyP5zCUQoHBuvur3Am.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="SDEyP5zCUQoHBuvur3Am.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นับเป็นโอกาสอันดีที่ทั้ง 2 องค์กร ได้แก่ เครือสหพัฒน์ โดย SPI และ เอ็มทีเอส โกลด์ ได้มีความร่วมมือกันต่อยอดทางธุรกิจภายใต้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของทั้งสององค์กร ซึ่งเป็นการเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทั้งสองฝ่ายได้เติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น” นายพิภพ กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/zxqfSzXc7hVbMR6qXMTr.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="zxqfSzXc7hVbMR6qXMTr.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า “เอ็มทีเอส โกลด์” เป็นผู้นำด้านทองคำครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัท ฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เครือสหพัฒน์ โดยบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI องค์กรชั้นนำในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่อยู่คู่ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งเราร่วมกันพัฒนาช่องทางการลงทุนให้เข้าถึงนักลงทุนทุกระดับ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อขาย และลงทุนทองคำ ที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ทันสมัย และตอบโจทย์การใช้งานของนักลงทุน ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจซึ่งกันและกัน นำมาสู่ความร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายทองคำในครั้งนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก มีช่องทางการลงทุนซื้อขายทองคำ ทั้งการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ แอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์ ครอบคลุมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สำหรับเป้าหมายในการดำเนินโครงการครั้งนี้ ตั้งเป้าการพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อพลิกโฉมการออมทองคำ เพื่อไปสู่ Digital Economy โดยมุ่งเน้นการให้บริการแก่ประชาชนคนไทยให้สามารถเข้าถึงการออม และการลงทุนในทองคำ ได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น และมั่นใจว่าจากความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 องค์กร จะสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายในการต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างแน่นอน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม : <a href="https://forbesthailand.com/preview/70452" alt="&quot;ณัทสุดา พุกกะณะสุต&quot; อดีตนักการเงินโกลด์แมน แซคส์ผู้มีความเชื่อในฟินเทค คือทางเลือกของ SME">"ณัทสุดา พุกกะณะสุต" อดีตนักการเงินโกลด์แมน แซคส์ผู้มีความเชื่อในฟินเทค คือทางเลือกของ SME</a>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events