<h2 class="p1">ร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ Negroni Week เทศกาลแห่งความสุข 1 สัปดาห์ที่ทาง Campari อยากให้สายดื่มได้ดื่มเพื่อการกุศลอย่างเต็มที่ในวันที่ ​12-18 กันยายนนี้</h2>
ในปีนี้ <a href="https://www.campari.com/">Campari</a> แบรนด์เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย หรือ aperitivo อันโด่งดังจากอิตาลีจับมือกับ <a href="https://imbibemagazine.com/">Imbibe Magazine</a> นิตยสารเพื่อเหล่านักดื่มจัด Negroni Week ครั้งที่ 10 ในประเทศไทย โดยในช่วงเวลา 1 ทศวรรษที่ผ่านมา อีเวนต์เพื่อการกุศลนี้ทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า บาร์ ร้านอาหาร และรีเทลเลอร์ทั้งหลายมีความสามารถในการระดมทุนกว่าล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ไม่แพ้ใคร
<img class="alignnone size-full wp-image-68137" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/negroni-week-2022-logo-horiz-white.jpg" alt="" width="640" height="480" />
ในปีที่ 10 สุดพิเศษนี้ ทาง Campari ก็ได้ร่วมมือกับองค์กรการกุศลใหม่อย่าง <a href="https://www.slowfood.com/">Slow Food</a> ซึ่งเป็นองค์กรคอมมูนิตี้และนักกิจกรรมท้องถิ่น มุ่งอนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมและขนบในการทานอาหาร รวมถึงส่งมอบอาหารที่ถูกคุณลักษณะให้กับประชากรใน 160 ประเทศทั่วโลก เพื่อสรรค์สร้างโลกที่ทุกคนสามารถทาน และดื่มได้อย่างเปรมปรี ไม่ทำร้ายโลกใบนี้ 
และเช่นเดียวกันกับ Negroni และ Campari องค์กร Slow Food ก็มีรากฐานอยู่ในอิตาลี ทำให้การร่วมมือครั้งนี้ประดุจการผสมค็อกเทลที่ลงตัวนั่นเอง
นอกจากปี 2022 จะเป็นปีที่ Negroni Week ครบรอบ 10 ปีในไทยแล้ว ปีนี้ยังเป็นปีที่ Negroni สามารถคว้าตำแหน่งเ<a href="https://m.drinksint.com/news/fullstory.php/aid/9865/The_World_s_Best-Selling_Classic_Cocktails_2022.html?current_page=7">ครื่องดื่มค็อกเทลขายดีอันดับ 1</a> มาครองอีกด้วย แล้วจะมีอะไรเหมาะสมที่จะเป็นเครื่องดื่มสำหรับเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษในครั้งนี้เท่ากับเครื่องดื่มที่ปลุกไฟในการเปลี่ยนแปลงในตัวคุณอย่าง Negroni อีกล่ะ

<h3 class="p1">ความพิเศษของ Negroni Week 2022</h3>
Campari ยังคงยึดมั่นใน ‘Red Passion’ ไฟแห่งความสร้างสรรค์ภายในตัวทุกคนที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อไฟนั้นได้ ดังนั้น Campari จึงเชื่อว่าเหล่าบาร์เทนเดอร์ทั้งหลายคือผู้ชำนาญศาสตร์แห่งความคิดสร้างสรรค์และศิลปะผู้ผสาน Red Passion เข้าไปในทุกเมนูที่เสิร์ฟ
ดังนั้น การเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ครั้งนี้ จึงมาในคอนเซ็ปต์ ‘Bartender’s Handshake’ ซึ่งเป็นการเสิร์ฟเครื่องดื่มแก้วเล็กเพื่อเป็นการต้อนรับเพื่อนพ้องชาวบาร์เทนเดอร์ เป็นธรรมเนียมของชาวบาร์เทนเดอร์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานและเป็นหัวใจของธุรกิจบริการ


<figure><img class="wp-image-68135 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/strange-weaver-cocktail-negroni-week-crdt-beretta.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Photo courtesy of Beretta</figcaption></figure>
ในปีนี้ Campari นำความแปลกใหม่ใส่ลงไปในประเพณีดังกล่าวผ่านการเชิญชวนให้บาร์เทนเดอร์ทั่วโลกรังสรรค์เครื่องดื่ม “Bartender Handshake” ในแบบฉบับของพวกเขาเองโดยมี Negroni เป็นส่วนผสมดาวเด่น พร้อมส่งมอบประเพณีลับของบาร์เทนเดอร์ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส ก่อนที่จะดื่มเพื่อการกุศลกันอย่างเต็มที่
นักดื่มค็อกเทล และแฟนๆ Negroni ในไทยสามารถดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ “Bartender Handshake” นี้ในอีเวนต์ครบรอบ 10 ปี Negroni Week บาร์และร้านอาหารที่เข้าร่วมทั่วประเทศ โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอีเวนต์นี้ได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Negroni Week
แต่หากคุณต้องการสังสรรค์แบบพิเศษล่ะก็ ทาง ​Campari ก็เตรียมอีเวนต์ที่จะตราตรึงใจคุณไว้ทั้งสัปดาห์แล้ว

<h3>เฉลิมฉลองกันทั้งสัปดาห์</h3>
ในค่ำคืนแรกแห่งสัปดาห์สุดสนุก ไปยกแก้วฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งความไอคอนนิคกันได้ตั้งแต่เวลา 19.00-22.00 ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok ในวันจันทร์ที่ 12 กันยายน ก่อนที่จะไปพบกับแขกรับเชิญสุดพิเศษอีกมากมาย
โดยในวันอังคารที่ 13 กันยายน ทาง ​Campari ได้นำตัว เจน แก้วยอด ผู้ร่วมก่อตั้งสุวรรณบาร์ที่เกาะสมุย และเจ้าของตำแหน่งสุดยอดบาร์เทนเดอร์ไทยประจำปี 2020 จะมาร่วมเฉลิมฉลองที่ The St. Regis Bar ณ ชั้น 12 ของโรงแรม St. Regis

ในวันพุธที่ 14 กันยายน ผู้เข้าร่วมงานสามารถดื่มด่ำไปกับค่ำคืนแห่ง Negroni ด้วยฝีมือการชงจาก Symphony Loo Campari Group Brand Ambassador (SEA) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ที่ The Bamboo Bar ณ Mandarin Oriental, Bangkok

ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายนนั้น สามารถอิ่มเอมไปกับ Negroni ได้เป็นสองเท่า โดยหากตบเท้าไปยัง Stella Bar ที่ Capella Bangkok Hotel ก็มี สุวิญชา สิงห์สุวรรณ บาร์เทนเดอร์มือรางวัล และบาร์เทนเดอร์ไทยประจำการ ณ Villa Frantzen Cocktail Bar พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มสดชื่นให้คุณอยู่ แต่หากสะดวกที่ Penthouse Bar + Grill ที่ Park Hyatt Bangkok ก็สามารถลิ้มรสเครื่องดื่มฝีมือ Sabine Delettre Nakamura ผู้จัดการแผนกเครื่องดื่มของ Park Hyatt Bangkok และ Symphony Loo ได้

<figure><img class="wp-image-68139 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/292431273_137269552274197_7931593022344934294_n.jpg" alt="" width="719" height="480" /><figcaption> ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ และ Symphony Loo</figcaption></figure>

ให้คืนวันศุกร์ที่ 16 กันยายนสนุกไม่รู้จบด้วยอีเวนต์จาก Campari และ ​Negroni ทั่วกรุงเทพฯ ถึง 3 อีเวนต์ด้วยกัน โดยที่ Ms. Jigger บริเวณชั้นล็อบบี้ของ Kimpton Maa-Lai Bangkok แขกผู้ร่วมงานสามารถพบกับบาร์เทนเดอร์รับเชิญ 2 ท่าน อย่าง ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ บาร์ไดเรคเตอร์ของ Watermelon Group และผู้ชนะ ​Campari Bartender 2019 ของเอเชีย และ Symphony Loo ได้

ส่วนที่ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ใกล้ๆ กัน ที่ Firefly Bar หัวหน้าบาร์เทนเดอร์แห่ง Asia Today และผู้ชนะ Campari Bartender ประเทศไทย ปี 2020 Tamaryn Cooper ก็พร้อมเสิร์ฟ Negroni แสนสดชื่นให้ได้ดื่มกัน

แต่หากเครียดมาทั้งสัปดาห์ ก็ต้องโยกย้ายไปกับเพลงดิสโก้สไตล์อิตาลี และเพลินเพลินไปกับเครื่องดื่มสุดพิเศษจาก Federico Balzarini ผู้จัดการบาร์ Vesper ที่ Lennon’s ณ Rosewood Bangkok

คืนวันเสาร์ทั้งที ก็ต้องไม่ธรรมดา โดยไปเพลิดเพลินกับ “Anything but standard Negroni” ได้ที่ The Parlor ที่ The Standard Bangkok Mahanakhon Hotel โรงแรมเปิดใหม่คอนเซ็ปต์แหวกแนวใจกลางกรุงเทพได้ในวันเสาร์ที่ 18 กันยายน ตั้งแต่ 17.00-20.00

<figure><img class="wp-image-68142 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/easy-bistro-bar-negroni.jpg" alt="" width="640" height="480" /><figcaption> Photo courtesy Easy Bistro &amp; Bar</figcaption></figure>
ปิดท้ายสัปดาห์แห่งการเฉลิมฉลองเพื่อการกุศลในวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายนด้วย Negroni Week Brunch ณ The Okura Prestige Bangkok Hotel ด้วยมื้อสุดพิเศษที่ผสานกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น วัตถุดิบคุณภาพเลิศ ขั้นตอนการปรุงที่ใส่ใจ และเทคนิคขั้นสูงด้วยกัน พร้อมกับเครื่องดื่มเมนูพิเศษรังสรรค์โดย Fabio Brugnolaro เจ้าของ Copper Bar ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00
อย่างไรก็ตาม Negroni Week ไม่ได้ส่งมอบความสุขให้แค่กับเหล่านักดื่มในกรุงเทพฯ เท่านั้น โดยที่เชียงใหม่ ผู้สนใจสามารถลิ้มลองเครื่องดื่มฝีมือบาร์เทนเดอร์รับเชิญได้ในวันจันทร์ที่ 12 กันยายน ณ The Continental Bar โดย ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ จะทำหน้าที่เสิร์ฟความสนุกให้กับผู้เข้าร่วม ส่วนวันพุธที่ 14 กันยายน เจน แก้วยอด จะเดินทางไปส่งมอบเมนูพิเศษถึง Component Lab เลยทีเดียว

นอกจากเชียงใหม่แล้ว Negroni Week ยังส่งคลื่นความสนุกนี้ไปยังเกาะสมุย ให้วันเสาร์ที่ 17 กันยายน ณ Centara Reserve Samui เต็มไปด้วยความพิเศษ พร้อมฝีมือการชงจากเจน แก้วยอด

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/topgolf-megacity-%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%8c%e0%b8%9f%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%a3-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1.html">Topgolf Megacity สนามกอล์ฟครบวงจร ความสนุกไม่รู้จบ</a>

<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Negroni Week กลับมาแล้ว! ฉลองครบรอบ 10 ปีด้วยการดื่มเพื่อการกุศล

<h2 class="p1">Campari จับมือโรงแรม The Okura Prestige Bangkok จัดงาน “The Red Passion Project” กิจกรรมการกุศลสนับสนุนสังคม พร้อมเปิดตัวบาร์คอนเซ็ปต์ใหม่ </h2>
เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 ณ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ใจกลางกรุงเทพมหานคร Campari แบรนด์เครื่องดื่มสัญชาติอิตาเลียนได้จัดงาน “The Red Passion Project” เป็นครั้งแรก ภายในงานอบอวลไปด้วยบรรยากาศอันหรูหราเสมือนยกบาร์ Camparino in Gallaeria แห่ง Milan มาวางไว้ที่ห้องอาหาร Up &amp; Above บนชั้น 24 ของโรงแรม
<img class="alignnone size-full wp-image-65570" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/290208770_3524631407836503_1866812252304919429_n.jpg" alt="" width="720" height="480" />

นอกจากเสียงเพลงที่มีจังหวะเพลิดเพลิน เสียงบทสนทนาจากผู้ตบเท้าเข้าร่วมงาน และผู้คนที่สวมใส่เสื้อผ้าสีแดงสดใสอลังการ เสมือนเดินอยู่ในงานพรมแดง งานการกุศลครั้งนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างคือ การรังสรรค์เครื่องดื่มสุดพิเศษภายในงาน

เครื่องดื่มที่เหล่าบาร์เทนเดอร์รับเชิญรังสรรค์ขึ้นมาได้แรงบันดาลใจจาก “Negroni” เมนูชูโรงของทางแบรนด์ Campari ผสานกับกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของทางโรงแรม

บาร์เทนเดอร์รับเชิญชั้นนำของไทย อาทิ Symphony Loo ผู้เป็น Campari Group Brand Ambassador (SEA) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รังสรรค์ขึ้นเมนูชื่อ Sake-Ume-Negroni โดยนำเหล้าสาเกของญี่ปุ่น และบ๊วย Ume มาผสานกับเบส Negroni ให้ความเปรี้ยว สดชื่นที่ลงตัว

<img class="alignnone size-full wp-image-65572" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/290596638_3524633644502946_5666539962837380590_n.jpg" alt="" width="720" height="480" />

สำหรับ ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ หรือ "ปาล์ม" Group Bar Director จากร้าน Rabbit Hole และตัวแทนบาร์เทนเดอร์ของประเทศไทย คว้ารางวัลชนะเลิศระดับโลกจากเวที Campari Bartender Competition Asia 2018 ณ​ Milan ประเทศอิตาลี โดยเมนูที่นำมาเสนอในงานครั้งนี้มีชื่อว่า Tri-Colour อันได้แรงบันดาลใจมาจากสี 3 สีบนธงชาติอิตาลี

ส่วนประกอบสีแดงที่นำมาใส่ลงไปในแก้วคือ สตรอว์เบอร์รีสีแดงสดใส ส่วนสีขาวในเมนูนี้ คือ ไวท์ช็อกโกแลต ช่วยให้เมนูค็อกเทลนี้มีรสชาติหวานปนเปรี้ยวกำลังดี ตบท้ายด้วยใบสตรอว์เบอร์รีสีเขียว

ด้าน วัชรพงษ์ สุริยะพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มประจำโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ได้รังสรรค์เมนู Ju Shunen ขึ้นมา โดยเมนูนี้นับว่าเป็นค็อกเทลที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยการนำวิสกี้สาหร่ายวากาเมะมาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลัก ทำให้เมื่อคุณดื่มค็อกเทลของวัชรพงษ์ก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองได้ไปยืนอยู่ริมชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นอันสวยงามทันที

<figure><img class="wp-image-65571 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/07/290517172_3525093567790287_4640984393961046161_n.jpg" alt="" width="719" height="480" /><figcaption> Symphony Loo (ซ้าย) และ ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ (ขวา)</figcaption></figure>
 ในงานได้รับเกียรติจาก Arno Schonfelde ผู้นั่งตำแหน่ง General Manager ประจำ Alchemy Thailand และ Niek Hammer ผู้นั่งเก้าอี้ General Manager แห่ง โรงแรม The Okura Prestige Bangkok เข้าร่วม อีกทั้งยังมีศศิวิมล ดารารัตนโรจน์, นุชนารถ รวีแสงสูรย์, ณัชชา โอภากุล และวสวัตติ์ วัฒนาศิริสมบัติ ตบเท้าเข้าร่วมงานด้วย
เงินรายได้จากการจัดงานทั้งหมดจำนวน 66,674.99 บาท ถูกส่งมอบให้กับ มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกในพระบรมราชินูปถัมภ์
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/camparino-masterclass-%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%ad.html">Camparino Masterclass คลาสจากบาร์หรูแห่งอิตาลีครั้งแรกในไทย</a>


<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

“The Red Passion Project” สังสรรค์เพื่อการกุศลสไตล์ Campari

<h2 class="p1">“Camparino Masterclass” ครั้งแรกในไทยที่พาคุณไปเปิดโลกแห่ง Campari และท่องประวัติศาสตร์แบรนด์ ตั้งแต่ Caffe Campari แหล่งกำเนิดของ Aperitivo จนถึง Camparino ณ Galleria บาร์ผู้ครองรางวัล World’s 50 Best Bars</h2>
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Tommaso Cecca บาร์เทนเดอร์มากประสบการณ์จากอิตาลี และผู้จัดการ Camparino บาร์ระดับตำนานอายุ 107 ปีใน Galleria ห้างใจกลางเมือง Milan ประเทศอิตาลี เมืองแห่งวัฒนธรรม Aperitivo (การดื่มสังสรรค์ยามเย็นหลังเลิกงาน) ได้มอบประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟให้แก่เหล่าบาร์เทนเดอร์ และผู้อยู่หลังบาร์ทั้งหลายได้สัมผัสกับประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟ ณ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok 


<figure><img class="wp-image-62509 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/IMG_3415.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Saverio Casella บาร์เทนเดอร์ประจำ Camparino ณ Galleria (ซ้าย) และ Tommaso Cecca</figcaption></figure>
Tommaso วัย 38 จากเมือง Bari เริ่มทำงานบริเวณแคว้น Puglia ตั้งแต่อายุยังไม่มากนัก และหลังจากได้ฝึกฝีมือที่กรุง London จนเก่งกาจ เขาก็ได้เดินทางกลับมายังประเทศอิตาลีและเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการบาร์ที่ Cafe Trussardi ในเมือง Milan เป็นเวลามากกว่า 13 ปี และในวันนี้ที่เขาได้ร่วมงานกับแบรนด์มามากกว่า 3 ปี เขานับเป็นจิตวิญญาณแห่ง Camparino ณ Galleria 
โดยบาร์แห่งนี้ที่รองรับลูกค้ามากถึง 1,500 รายต่อวัน และมีลูกค้าในโลกออนไลน์ที่มีส่วนร่วมในทุกช่องทางออนไลน์ของทางบาร์มากถึง 90 ล้านคนเฉพาะแค่ภายในปีที่แล้วปีเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จอันยาวนาน, ชื่อเสียงระดับโลกด้านการบริการที่เป็นมิตร, คุณภาพที่ไม่มีวันลดลง และทีมงานมากความรู้ที่พร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่
<img class="alignnone size-full wp-image-62510" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/IMG_3357.jpg" alt="" width="720" height="480" />
“ผู้คนไม่ได้ไปยังบาร์และภัตตาคารเพียงเพื่อทานอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น” Tommaso กล่าว “ลูกค้าทั้งหลายต้องการมากกว่านั้น ตอนนี้พวกเขาก็มีความรู้มาก สิ่งที่เรามุ่งนำเสนอคือ แน่นอน เครื่องดื่มที่ดี และประสบการณ์ที่เราหยิบยื่นให้ ทีมงานของเราถูกฝึกให้มีไหวพริบในการให้บริการลูกค้าอย่างถูกต้อง และสามารถอ่านใจลูกค้า รวมไปถึงตัดสินใจแทนลูกค้าด้วยในบางครั้ง การทำงานเป็นทีมและความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญมากในการรังสรรค์เครื่องดื่มใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าคือหัวใจสำคัญของการทำงานของเรา ไม่ว่าเราจะละทิ้งสิ่งเก่าหรือนำสิ่งใหม่เข้ามา ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับลูกค้าของเรา”
สำหรับ Tommaso แล้ว Camparino คล้ายกับ Campari อย่างมาก ทั้งในแง่ความโด่งดังระดับโลก และความเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลา ในขณะที่ฟีเจอร์บาร์อันตำนานยังคงถูกรักษาไว้อย่างทรงเกียรติ ทั้งสองก็ได้พร้อมอ้าแขนรับกลิ่นอายความร่วมสมัยเพื่อดึงดูดลูกค้ารุ่นหนุ่มสาวทั้งจากอิตาลี, ยุโรป และทั่วทุกมุมโลก
<img class="alignnone size-full wp-image-62513" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/PHOTO-CAPTION.jpg" alt="" width="697" height="480" />
“เดิมที ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะอายุราวๆ 60 ปี แต่ตอนนี้มีกลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยลงมากขึ้น แน่นอนว่าเราเลือกไม่ได้หรอกว่าจะให้บาร์อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่าง Camparino ดึงดูดใครบ้าง แต่เราก็สามารถลองสิ่งต่างๆ ได้” หัวหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่มอิตาเลียนกล่าว 
“เราเปลี่ยนเพลงที่เปิดคลอในร้าน และเปิดตัวค็อกเทลที่มีความสะดุดตามากขึ้น โดยใช้สีแดง และสีสันสดใสแทนที่จะใช้แต่สีน้ำตาลเหมือนก่อน และมันก็ได้ผล เราสามารถคงความสมดุลในขณะที่ก้าวไปข้างหน้าได้ ลองนึกถึง Negroni ดูสิ มันเป็นเครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่ไม่มีวันตกยุค แต่มันก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่ตอนนี้เป็นที่นิยมมากกว่าเคยเสียอีก”
<img class="alignnone size-full wp-image-62528" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/0_Main.jpg" alt="" width="720" height="480" />
Tommaso ผู้มองการณ์ไกลยังเผยด้วยว่าทางแบรนด์กำลังเสาะหาช่องทางขยายความยิ่งใหญ่ของพวกเขาไปในมุมโลกอื่นๆ โดยจุดหมายต่อไปอาจจะเป็นเอเชียนี้นี่เอง
“คงจะเหมือนฝันหากเราได้ส่งมอบบางอย่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความเป็นอิตาเลียนไปยังเมืองใหม่ๆ ความเป็นอิตาเลียนอยู่ในจิตวิญญาณของเราก็จริง แต่เราก็มีความเป็นสากลด้วย ทีมงานของเรามีผู้มีความสามารถจากทั่วยุโรปและจากดินแดนไกลโพ้น นับเป็นสถานที่ทำงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสุดสดชื่น อีกทั้ง การครองอันดับที่ 27 ในการจัดอันดับ World’s 50 Best Bars ปีล่าสุดนี้ยังหมายความว่าเรามีอีกมากที่ยังคงต้องทำ และกลุ่มลูกค้าอีกมากที่ต้องเข้าถึงให้ได้” เขากล่าว
งานดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ ที่แวะทวีปเอเชียแค่ 2 ครั้ง ซึ่งก็คือกรุงเทพกับสิงคโปร์เท่านั้น โดยมาสเตอร์คลาสยามบ่ายนี้มีทั้งเหล่าบาร์เทนเดอร์ และผู้หลงใหลในวัฒนธรรรมค็อกเทลจากทั่วกรุงเทพตบเท้าเข้าร่วม นอกจากนี้ หลังจากจบงานดังกล่าว ยังมีการจัดงานชิมค็อกเทลสุดชิค Aperol Spritz Sunset Lounge อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/forbes-life/travel-forbes-life/forbes-travel-guide-2022-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7-%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%81-%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%ab.html">Forbes Travel Guide 2022: เที่ยว พัก ทาน อย่างเหนือระดับ</a>


<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events