<h2>หลังก่อนหน้านี้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC บริษัทเครือเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ประกาศทุ่มงบรวมกว่า 8,704 ล้านบาท เพื่อใช้เข้าซื้อบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด เจ้าของโรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา ซึ่งในงบดังกล่าวจะใช้พัฒนาโครงการภายใต้ชื่อ Jubilee Prestige Tower ให้เป็นอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ และรีแบรนดิ้งโรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา ให้เป็นโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ JW Marriott</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุดในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา AWC ได้ลงนามข้อตกลงในการพัฒนาและบริหารโรงแรมกับ แมริออท อินเตอร์เนชันแนล (Marriott International) เตรียมเปิดตัว โรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก (JW Marriott Hotel Bangkok Ratchadapisek) ณ Jubilee Prestige Tower จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจและพักผ่อนกลุ่ม Leisure MICE รวมพื้นที่กิจกรรมสันทนาการครบวงจรใหญ่ที่สุดแห่งแรกใจกลางกรุงเทพฯ กับโรงแรมระดับลักชัวรี่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรีสอร์ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยตั้งเป้ามอบประสบการณ์เหนือระดับด้วยสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง เพื่อร่วมสนับสนุนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางระดับโลกด้านการพักผ่อน สุขภาพ และการเดินทางเพื่อธุรกิจ ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอภายใต้แนวคิด AWC’s Lifestyle Destination และสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโต (Growth-Led Strategy) ปี 2568 ของบริษัท เพื่อมอบนิยามใหม่ของการให้บริการแบบผสมผสาน และพลิกโฉมย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ สู่จุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับการจัดประชุมระดับนานาชาติและกลุ่มนักเดินทางคุณภาพ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/05/UGmbEsWuEYXFxFpQ18Ug.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UGmbEsWuEYXFxFpQ18Ug.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,480"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “ความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานของเรากับ แมริออท อินเตอร์เนชันแนล ได้สร้างความสำเร็จผ่านหลากหลายโครงการอันโดดเด่น และในครั้งนี้ AWC รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำหนึ่งในแบรนด์ที่ทรงเกียรติที่สุดของเครือแมริออทมาสู่ย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ กับการพัฒนาโรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก อีกหมุดหมายสำคัญในการสร้างนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโรงแรมของไทย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ฌอน ฮิลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนา ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) แมริออท อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ AWC ในโครงการระดับแลนด์มาร์กแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่น่าตื่นเต้นของแบรนด์ JW Marriott ในย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่มีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ โดยแบรนด์ JW Marriott ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ J. Willard Marriott ผู้ก่อตั้ง แมริออท อินเตอร์เนชันแนล ด้วยปณิธานที่ยึดมั่นในความเป็นเลิศและบริการอันเหนือระดับ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราเชื่อว่าวิสัยทัศน์ของ AWC ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพในทุกรายละเอียดนั้น สอดคล้องกับจุดยืนของแบรนด์ JW Marriott ในการส่งมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันหรูหราเหนือระดับอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เมื่อเปิดให้บริการโรงแรมแห่งนี้ยังจะได้รับประโยชน์จากเครือข่าย Marriott Bonvoy ที่แข็งแกร่งในการเข้าถึงฐานลูกค้าคุณภาพพร้อมมอบสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่สมาชิกทั่วโลก เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมกันพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกแห่งใหม่ ที่สะท้อนความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของย่านรัชดาภิเษกให้กับนักเดินทางทั้งในกลุ่มนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;AWC ได้เข้าซื้อ อาคาร เลอ คองคอร์ด (Le Concorde Tower) ซึ่งเตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น Jubilee Prestige Tower นับเป็นก้าวสำคัญของการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของบริษัทบนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ การพัฒนาโครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่มองหาห้องพักหรู สำนักงานเกรดพรีเมียม ห้องประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกในกลุ่ม MICE โดยจะสามารถสร้างรายได้ในทันทีจากการดำเนินงานโรงแรมแบรนด์ JW Marriott ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระแสเงินสดของบริษัทในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Jubilee Prestige Tower เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับพรีเมียม มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 120,965 ตารางเมตร เตรียมพลิกโฉมประสบการณ์ทำงานด้วยการผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีโรงแรม JW Marriott ที่คาดว่าจะมีขนาด 368 ห้อง และอาคารสำนักงานที่ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นและทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ผู้เช่ารุ่นใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับรีสอร์ตและพื้นที่จัดงานรวมกว่า 10,000 ตารางเมตร สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ผสานการอยู่อาศัยและการทำงานเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เหมาะสำหรับความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และการดูแลสุขภาวะที่สมดุล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในฐานะโรงแรมหรูระดับลักชัวรี่ภายใต้แบรนด์สากลแรกของรัชดาภิเษก โรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก จะสร้างความโดดเด่นให้กับย่านธุรกิจและการลงทุนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยประกอบไปด้วยพื้นที่จัดงานใหญ่ที่สุดในย่าน สามารถรองรับงานประชุมและอีเวนต์ระดับโลก พร้อมพื้นที่ Co-living&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะเดียวกัน โครงการ Jubilee Prestige Tower ยังได้รับการออกแบบให้สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ JW Marriott ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาวะแบบองค์รวม โดยจะประกอบไปด้วยศูนย์ความงาม Beauty Hub สำหรับการเข้าพักเชิงสุขภาพ และศูนย์เวลเนสใจกลางเมือง Urban Wellness Sanctuary ซึ่งพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและจิตใจ รวมถึงประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียม อาทิ ห้องอาหารรูฟท็อป ห้องอาหารแบบ All-Day Dining ห้องอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ ห้องอาหารจีนสุดหรู และบาร์ซิการ์และวิสกี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่เศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของกรุงเทพฯ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ห้วยขวาง เชื่อมต่อการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Airport Rail Link สถานีมักกะสัน รายล้อมรอบไปด้วยสถานทูต สถาบันการเงิน และบริษัทข้ามชาติ ด้วยเสน่ห์อันโดดเด่นและศักยภาพไร้ขีดจำกัดของย่านรัชดาภิเษกนี้ จึงสามารถดึงดูดนักเดินทางเชิงธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการ Jubilee Prestige Tower ตั้งชื่อตามจุดประสงค์ดั้งเดิมของถนนรัชดาภิเษก ที่ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ครบ 25 ปี (Silver Jubilee) ในขณะที่โรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก ถูกพัฒนาขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งนอกจากโครงการ Jubilee Prestige Tower จะช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอของ AWC ให้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว ยังจะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างยั่งยืนพร้อมเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินได้ในระยะยาว หลังจากการพลิกโฉมสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ตัวอาคารยังได้รับการตรวจสอบโครงสร้างตามมาตรฐานสามขั้นตอนโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานอิสระเพื่อยืนยันความมั่นคงและความปลอดภัยของโครงการ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AWC ในการรักษามาตรฐานสูงสุดด้านคุณภาพความปลอดภัยและความเชื่อมั่นสำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/property/awc-swissotel-bangkok-ratchada" alt="AWC ทุ่ม 8,704 ล้าน เข้าซื้อและปรับโฉม ‘สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา’ เตรียมรีแบรนด์เป็น JW Marriott">AWC ทุ่ม 8,704 ล้าน เข้าซื้อและปรับโฉม ‘สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา’ เตรียมรีแบรนด์เป็น JW Marriott</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AWC รีแบรนด์อาคารเลอ คองคอร์ด สู่ Jubilee Prestige Tower พลิกโฉมโรงแรมสวิสโซเทลสู่ ‘เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก’

<h2>บมจ.วีรันดา รีสอร์ท หรือ VRANDA จับมือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ชูแบรนด์โรงแรมระดับพรีเมียม ‘ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น’ ขยายฐานลูกค้ายุโรป อเมริกา และเอเชีย เปิดตัว ‘วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น’ โรงแรมแห่งแรกในภูเก็ต พร้อมเดินหน้าเต็มที่รับปีทองตลาดท่องเที่ยวภูเก็ต</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำข้อตกลงร่วมกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (Marriott International) นำแบรนด์ ‘ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น’ (Autograph Collection) โรงแรมระดับพรีเมียมในเครือแมริออท อินเตอร์ฯ เข้ามาช่วยขยายฐานลูกค้ายุโรป อเมริกา และเอเชีย ให้กับโรงแรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ‘วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต, ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น’ (Veranda Resort Phuket, Autograph Collection) ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับวีรันดา รีสอร์ทฯ ภายใต้แบรนด์ ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น (Autograph Collection) ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับ Luxury ที่ต้องการประสบการณ์ที่แตกต่าง ให้ความสำคัญกับการดีไซน์และศิลปะ หรือ Individual List ซึ่งเหมาะกับโรงแรมภายใต้แบรนด์วีรันดา” ภวัฒก์ กล่าว​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/E9GhKmi2Pa5gFqbyf3cz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="E9GhKmi2Pa5gFqbyf3cz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แบรนด์โรงแรมดังกล่าวมีความโดดเด่นด้าน Loyalty Program มีอัตราการเข้าพักของสมาชิก Marriott Bonvoy ประมาณ 60-70% ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักและเลือกเข้ามาพักที่ Veranda Resort Phuket, Autograph Collection ได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี วีรันดายังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และดีไซน์ที่โดดเด่นซึ่งครองใจตลาดลูกค้าคนไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ การเข้าลงทุนโรงแรมในภูเก็ตดังกล่าว เป็นก้าวสำคัญของวีรันดา รีสอร์ทฯ เพราะมีมูลค่าการลงทุน ที่มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และยังเป็นก้าวแรกที่ ‘วีรันดา’ แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทของคนไทยผนึกกำลังทำงานร่วมกับแบรนด์โรงแรมระดับโลกอย่างแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล คาดว่าโรงแรมแห่งใหม่นี้จะสร้างปรากฏการณ์นิวไฮให้กับวีรันดา รีสอร์ทฯ จากการเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดโลก ซึ่งจะเห็นการรับรู้รายได้ที่ชัดเจนในปีที่ 2 และ 3 และจะเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น แห่งแรกในภูเก็ตอีกด้วย​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/1x51DPDjiNcULHpS2MPs.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="1x51DPDjiNcULHpS2MPs.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภวัฒก์ เผยต่อไปว่า โรงแรมวีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ บริเวณ ‘พันวา-อ่าวยน’ มีจำนวน 159 ห้อง จะทำให้เครือวีรันดา รีสอร์ทฯ มีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นกว่า 20% และคาดการณ์ว่าในปี 2568 ราคาห้องพักเฉลี่ยโรงแรมในเครือวีรันดาฯ (ADR) จะเพิ่มขึ้น 12% สนับสนุนธุรกิจโรงแรมมีรายได้ทั้งปี 1,650 ล้านบาท เติบโตประมาณ 37% จากปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันวีรันดา รีสอร์ทฯ ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ‘วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท’ (Veranda Villas &amp; Suites) ในพื้นที่ติดกัน จำนวน 17 ยูนิต ประกอบด้วยวิลล่า 6 หลัง และสวีท 11 ห้อง มูลค่ารวมโครงการ 870 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างทยอยโอนกรรมสิทธิ์ โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568 ที่ 565 ล้านบาท​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/G2ddmGyAN3cjHiEeaNxS.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="G2ddmGyAN3cjHiEeaNxS.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน แบรด เอดแมน รองประธานตลาด ประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมาร์แมริออทอินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า ‘ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น’ เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งแต่ภาพลักษณ์จนถึงการให้บริการ ตลอดจนเอกลักษณ์ด้านการออกแบบ ซึ่งจะมอบประสบการณ์เข้าพักที่ไม่เหมือนใคร และเป็นจุดหมายในลิสต์ห้องพักของนักเดินทางทั่วโลกที่ต้องการเดินทางมาพัก ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของวีรันดา รีสอร์ทฯ ที่มุ่งมั่นมุ่งสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างประทับใจในธุรกิจผ่านการออกแบบและการบริการที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเป็นที่นิยมของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การจับมือกับวีรันดา รีสอร์ทฯ ในครั้งนี้ เครือแมริออทจะนำแบรนด์ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น เข้ามาสู่ภูเก็ตเป็นครั้งแรก เชื่อมั่นว่าด้วยฐานลูกค้าสมาชิก Marriott Bonvoy จะทำให้แบรนด์วีรันดาเป็นที่รู้จักในตลาดลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย” แบรด กล่าวทิ้งท้าย ภาพ:&nbsp;บมจ.วีรันดา รีสอร์ท เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/central-pattana-pop-mart-hello-central-pattaya" alt="POP MART รุกตีตลาดนอกกรุง! เปิดป๊อปอัพ สโตร์ ธีมทะเลและสวนน้ำ พิกัด ‘เซ็นทรัล พัทยา’ ถึง 6 พ.ค.นี้">POP MART รุกตีตลาดนอกกรุง! เปิดป๊อปอัพ สโตร์ ธีมทะเลและสวนน้ำ พิกัด ‘เซ็นทรัล พัทยา’ ถึง 6 พ.ค.นี้</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ผนึกกำลังครั้งใหญ่! ‘วีรันดา’ จับมือ ‘แมริออท’ ดึงแบรนด์ ‘ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น’ เปิดตัวโรงแรมแห่งแรกในภูเก็ต

<h2>เทคโนโลยียิ่งล้ำหน้าคนยิ่งเดินทาง เพราะไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็เชื่อมต่อการทำงานได้ จึงเกิดนิยามการท่องเที่ยวที่เรียกว่า “Bleisure” การเดินทางเพื่อทำงานและท่องเที่ยวแบบไร้ข้อจำกัด</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความจริง Bleisure ไม่ใช่สิ่งใหม่ในธุรกิจโรงแรม มันคือการรวมกันของ business และ leisure ซึ่งดีมานด์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนมีอิสระที่จะเดินทางเพื่อไปทำงานและพักผ่อนในเวลาเดียวกัน เป็นเทรนด์น่าสนใจของธุรกิจท่องเที่ยว และยังมีอีกหลายเทรนด์ที่ทั้งสนุกและตื่นตาตื่นใจที่มาจากพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“Bleisure เป็นสิ่งที่ผมพูดถึงก่อนหน้านี้ คนจะใช้เวลา 1 เดือนพักโรงแรมในเมือง โดยทำงานในระหว่างวัน เที่ยวชมเมืองในช่วงค่ำ และออกไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในสุดสัปดาห์” Rajeev Menon ประธาน แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน) เล่าถึงเทรนด์ที่กำลังมาแรงในธุรกิจโรงแรมให้ทีมงาน Forbes Thailand ได้อัปเดตความเคลื่อนไหวแมริออทในฐานะเชนโรงแรมอันดับ 1 ของโลก บริหารโรงแรมกว่า 30 แบรนด์ใน 138 ประเทศ ครอบคลุมตลาดทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงลักชัวรี่ เอเชียแปซิฟิกมาแรง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม่ทัพแมริออท เอเชียแปซิฟิก ผู้นี้เป็นชาวอินเดียโดยกำเนิด คร่ำหวอดในธุรกิจโรงแรมที่พัก (hospitality) มานานกว่า 30 ปี (ร่วมงานกับแมริออทกว่า 20 ปี) Rajeev มีความหลงใหลในธุรกิจโรงแรม เขาไต่เต้าจากผู้บริหารระดับกลางก้าวสู่ผู้บริหารสูงสุด แมริออท ดูแลภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน) APEC ครอบคลุมธุรกิจ 21 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โรงแรมและรีสอร์ตมากกว่า 460 แห่งอยู่ภายใต้การดูแลของเขา ซึ่งครอบคลุม 23 แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/amxAfe6nJYb93AZJaqYx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="amxAfe6nJYb93AZJaqYx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="720,480" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption><div style="text-align: center;">Moxy</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงมุมมองแน่นอนข้อมูลเหล่านั้นมาจากโรงแรม-รีสอร์ตที่เขาดูแลทั้งหมดในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยวโลก Rajeev ย้ำว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวในเอเชียแข็งแกร่งมาก เขามักพูดเสมอว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้เห็นพลังของการเดินทาง เมื่อทุกคนถูกกักตัวอยู่กับบ้านในช่วงโควิดทำให้ตระหนักว่าไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าเสรีภาพและการเดินทาง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ปี 2562 มาถึง 2567 เราพบว่า RevPAR รายได้ต่อห้องเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยกว่า 30%” ตัวเลขนี้สะท้อนความแข็งแกร่งของแมริออทว่ามีการเติบโตค่อนข้างสูง และสิ่งที่พบอีกอย่างคือ มีการลงทุนใหม่จำนวนมากกำลังเข้ามาในธุรกิจโรงแรม มีข้อตกลงใหม่ๆ และมีโอกาสในการเติบโตมากมายมองย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน ตอนนั้นแมริออทได้เข้าร่วมกิจการกับสตาร์วูดในเดือนกันยายน ปี 2559 ทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกรวมถึงจีน แมริออทมีโรงแรมในเครือประมาณ 550 แห่ง แต่ภายในสิ้นปีนี้ (ปี 2567) แมริออทจะมีโรงแรมในเครือมากกว่า 1,200 แห่ง เดินทางท่องเที่ยวคึกคัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rajeev บอกว่า ในแง่ของการเดินทางและการท่องเที่ยวทุกประเทศกำลังเติบโต ประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียแปซิฟิกไม่รวมจีนตอนนี้คืออินเดีย แต่ก็เห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งมากในเกาหลีเช่นกัน นอกจากนี้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยก็กำลังฟื้นตัว ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวขาเข้าญี่ปุ่นแข็งแกร่งมาก ญี่ปุ่นขับเคลื่อนโดยผู้คนที่เดินทางเข้าไป เพราะทุกคนชอบญี่ปุ่น คนไทยก็ชอบญี่ปุ่น พวกเขาอยากไปสัมผัสประสบการณ์ ทำให้ญี่ปุ่นมีนักเดินทางขาเข้าเติบโตอย่างมากในทุกด้าน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“Loyalty Program ของเรา Marriott Bonvoy เปิดตัวทั่วโลกเมื่อราว 5 ปีที่แล้วในปี 2562 ตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 203 ล้านคน เป็นโปรแกรมด้านบริการที่ใหญ่ที่สุดในโลก” เขาเผยด้วยว่า ในเอเชียแปซิฟิกสมาชิกเติบโตขึ้นกว่า 50% ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด โดยปัจจุบันเฉพาะในเอเชียมีสมาชิก Marriott Bonvoy กว่า 65 ล้านคน และกำลังเติบโตในอัตราที่รวดเร็วมาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นักเดินทางไม่ว่าจากอินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม จีน หรืออินเดียต่างมองหาโรงแรมในเครือ Marriott เพื่อเข้าพัก ทำให้สิ้นไตรมาสแรกปีนี้กว่า 64% ของการเข้าพักของเราขับเคลื่อนมาจากสมาชิก” นับเป็นความแข็งแกร่งของ Loyalty Program Marriott Bonvoy <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/r9JR4WRAUfDueaqoUSAF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="r9JR4WRAUfDueaqoUSAF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="1"><figcaption><div>Moxy</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกสิ่งที่เห็นชัดเจนคือ พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (wellness) กลายเป็นความหรูหราแบบใหม่ ผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้นเมื่อเดินทาง พวกเขาพยายามกินดี นอนดี อยู่ดี และมีส่วนร่วมกับโรงแรมในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เช่น การเพิ่มขึ้นอย่างมากของคำขออาหารวีแกนหรือมังสวิรัติ ความต้องการที่มากขึ้นในส่วนของกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่ไกลกว่าประสบการณ์สปา ดังนั้น โรงแรมต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าเหล่านี้​เอาใจ “นักล่าความสนุก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rajeev บอกว่า แมริออทมีโครงการริเริ่มหลายอย่างเพราะลูกค้ามักมองหาพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้น พวกเขาต้องการการเชื่อมต่อที่ดี อยากจะเน้นเรื่องสุขภาพและสุขภาวะที่ดี นั่นคือสิ่งที่แมริออทต้องให้บริการที่ครอบคลุม ในแต่ละแบรนด์มีตัวเลือกมากมายเมื่อคิดถึงรีสอร์ตใหม่ๆ ที่แมริออทกำลังพัฒนาอยู่ตอนนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เรากำลังสร้างวิลล่าจำนวนมากเป็นวิลล่า 2-3-4 ห้องนอน ในอดีตเราจะมุ่งเน้นไปที่โรงแรม รีสอร์ต มีวิลล่าเพียง 2-3 หลัง ตอนนี้เปลี่ยนไป เพราะคนกำลังมาและใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นในฐานะครอบครัว” Rajeev ย้ำและว่า ในบางกรณีพบว่าปู่ย่าตายายเป็นผู้สนับสนุนการเดินทางทั้งหมดเพื่อให้ทุกคนได้มาอยู่ด้วยกัน ซึ่งหมายความว่า ถ้าทำแบบนี้ในเมืองทุกคนจะแยกย้ายกันไป แต่เมื่ออยู่ในรีสอร์ตด้วยกันพวกเขาต้องอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 7-8-10 วัน ได้ใช้เวลาครอบครัวที่ดีที่สุดด้วยกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Rajeev ย้ำว่า แมริออทมีทั้งหมด 31 แบรนด์ทั่วโลก มีทั้งแบรนด์หรูอย่าง Ritz-Carlton, St Regis, Ritz-Carlton Reserve และพาร์ตเนอร์กับ Bulgari มีแบรนด์หรูที่แข็งแกร่งมากในระดับ premium, upper, upscale แต่แบรนด์ที่เห็นโอกาสจริงๆ คือ Moxy ซึ่งทำมา 10 ปีแล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แบรนด์นี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับ “นักล่าความสนุก” (fun hunters) คนที่อยากออกไปสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นและสนุกสนาน ดังนั้น เมื่อพวกเขาเดินไปรอบๆ จะเห็นว่าโรงแรมนี้ถูกออกแบบมาแตกต่างมาก เป็นการออกแบบร่วมกับบริษัทเฟอร์นิเจอร์ดัง IKEA ซึ่งทำให้โรงแรมใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/people/cover-story/woraphanit-ruayrungruang-reignwood-global-challenge" alt="‘วรพนิต รวยรุ่งเรือง’ ความท้าทายระดับโกลบอล The Reignwood Legacy">‘วรพนิต รวยรุ่งเรือง’ ความท้าทายระดับโกลบอล The Reignwood Legacy</a>​ <a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/aacc4ad9-cf41-40ba-9525-a190c83c31c1/september-2024" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure><a href="https://www.mebmarket.com/ebook-318681-Forbes-Thailand-September-2024" alt="https://www.mebmarket.com/ebook-318681-Forbes-Thailand-September-2024" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/09/8ZTkpQHrjidzpk2zyeAe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="8ZTkpQHrjidzpk2zyeAe.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" origin-size="320,420" data-image-link="https://www.mebmarket.com/ebook-318681-Forbes-Thailand-September-2024" style="width: 300px; height: auto;" data-index="2"></a></figure></div>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events