ชาญอิสสระ ปี’62 ห่วงนักท่องเที่ยวจีนหด-ดึงตะวันตกทดแทน ขึ้นโรงแรมใหม่หัวหิน ขายแพ็กเกจเข้าพักยาว 20 ปีหมุนเงินทุน

<h2 class="p2">อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เล็งเห็นศักยภาพทำเลย่านเจริญกรุง-สาทร เปิดโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร มูลค่าโครงการกว่า 980 ล้านบาท เป็นโครงการ Luxury riverside condominium ใน CBD โครงการเดียวที่เปิดตัวในรอบ 2 ปี </h2>
ชยพล หรรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ‘ALTITUDE’ เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นความท้าทายสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แม้อัตราการขยายตัวปีที่ผ่านมายังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมต้องยอมรับว่าจำนวนยูนิตใหม่มากกว่าความต้องการซื้อ
โดยปัจจุบันมีจำนวนยูนิตใหม่เข้ามาประมาณ 170,000 ยูนิต และมีอัตราการขายได้ 75% ต่อจำนวนยูนิตใหม่ทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นโจทย์สำคัญให้ อัลติจูด ต้องพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ทั้งการเลือกทำเล การออกแบบ และพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ได้ศึกษามาแล้วในแต่ละโครงการ
เช่นเดียวกันกับโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร ที่เปิดตัวเป็นโครงการ Luxury riverside condominiumในเขตศูนย์กลางธุรกิจโครงการเดียวที่เปิดตัวในรอบ 2 ปี ด้วยมูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท
“ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เจริญกรุง-สาทร มีพัฒนาการการเติบโตของพื้นที่ที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นระดับ 5 ดาว โครงการคอนโดมิเนียมมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงกว่า 200,000 บาท"
"การคัดสรรทำเลและตัวโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี จึงตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ใกล้โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอร์รี่เพียง 400 เมตร โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 3.69 ไร่ เดินทางสะดวกทั้งทางถนนเจริญกรุงและถนนจันทน์ และไม่ไกลกันมากกับห้างไอคอนสยาม แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองไทย”


<figure><img class="wp-image-2423 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/-เจริญกรุง-สาทร-e1544096354354.jpg" alt="โครงการอัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร" width="540" height="800" /><figcaption> โครงการอัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร</figcaption></figure>
ขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการบริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครยังขยายตัวได้อีกตามการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้า ซึ่งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียมแต่ละ segment ทำเลที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของผู้ซื้อ
ในส่วนของคอนโดมิเนียมกลางใจเมือง โครงการที่ใกล้รถไฟฟ้าจะเป็นอีกแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้ซื้อ รวมถึงโครงการที่ใกล้แหล่งการศึกษาหรือสาธารณูปโภคอื่นๆ โดยย่านเจริญกรุง-สาทรถือเป็นทำเลที่มีการขยายตัวสูงมาก ระยะหลายปีที่ผ่านมาราคาที่ดินปรับสูงขึ้นเฉลี่ย 8% เนื่องจากที่ดินบริเวณนี้หาไม่ได้ง่าย การเติบโตของชุมชนสูง และเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ดังนั้นอุปทานยังมีไม่มากในขณะที่อุปสงค์ยังมีล้น


<figure><img class="size-full wp-image-2424" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ชยพล-หรรรุ่งโรจน์-ขวัญชัย-ยิ่งเจริญถาวรชัย-อัลติจูด.jpg" alt="(ซ้าย) ชยพล หรรรุ่งโรจน์ และ (ขวา) ขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย สองผู้บริหารบริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด" width="800" height="529" /><figcaption> (ซ้าย) ชยพล หรรรุ่งโรจน์ และ (ขวา) ขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย สองผู้บริหารบริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด</figcaption></figure>
อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร จึงเป็นที่สุดแห่งทำเลใจกลางย่านเจริญกรุง-สาทร โดยมีการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ลักชัวรี่สะท้อนรสนิยมและความภาคภูมิใจผ่านการเลือกสรรที่บ่งบอกถึงตัวตน สุนทรียะแห่งการอยู่อาศัย มีพื้นที่เพื่อการใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับครอบครัวและเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของชีวิตในเมือง ราคาห้อง เริ่มต้น 4.9 – 29 ล้านบาท โครงการเริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 1 ปี 2562 และคาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการในไตรมาส 4 ปี 2563
สำหรับโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร ตั้งอยู่บนถนนจันทน์ 44 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และ BTS สะพานตากสิน เนื้อที่ 3.69 ไร่ ก่อสร้างโครงการ 1 อาคาร สูง 21 ชั้น และชั้นใต้ดิน 4 ชั้น จำนวน 99 ยูนิต 


<figure><img class="wp-image-2425 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/09-Loft2-e1544096460519.jpg" alt="ตัวอย่างห้องแบบ Loft ของโครงการอัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร" width="595" height="800" /><figcaption> ตัวอย่างห้องแบบ Loft ของโครงการอัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร</figcaption></figure>
ออกแบบฟังก์ชันห้อง 6 รูปแบบ โดยห้องขนาด 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่  30.01-39.35 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน เริ่มต้นที่  61.90-73.66 ตารางเมตร รูปแบบ Loft 42.17-125.56 ตารางเมตร รูปแบบDuplex  ขนาด 98.62 ตารางเมตร  และห้อง Penthouse   ขนาด 116.55-147.95 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.9-29 ล้านบาท เฉลี่ยราคาต่อตารางเมตร 200,000 บาท
โครงการออกแบบในสไตล์โคโลเนล คอนเทมโพรารี่ (Colonial Contemporary Design) มีสิ่งอำนวยความสะดวกล็อบบี้ที่โอ่โถง ห้องเด็ก สระว่ายน้ำแบบชมวิว 360 องศา ที่ชั้น 18 และ ห้องฟิตเนสบนชั้น 21 ห้องสกายเล้าจน์ บนชั้นดาดฟ้าซึ่งสามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม และโครงการจัดให้มีพื้นที่จอดรถสูงถึง 83% พร้อมบริการ Door Man และ Valet service

เปิดตัว อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร  มูลค่า 980 ล้านบาท รับศักยภาพทำเลเติบโต

<h2>เพราะโจทย์ใหญ่ในการเลือก “ที่อยู่อาศัย” ซึ่งเปรียบเสมือนรางวัลชีวิตสำหรับคนเมืองยุคนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความสวยงามในการออกแบบ ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต หรือ โลเคชั่นที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพเท่านั้น แต่คนเมืองยุคดิจิตทัลยังปรารถนาจะได้ครอบครองประสบการณ์อันล้ำค่าในการอยู่อาศัยที่หาไม่ได้จากที่ไหน แต่รังสรรค์มาเพื่อคนพิเศษที่พิถีพิถันในการใช้ชีวิตเท่านั้น</h2>
<img style="width: 680px; height: 422px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/365383e212e7dcd6447f4d3307f35013.png" alt="" />

“บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ” The Ultimate Luxury คอนโดใจกลางเมืองคือ หนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพที่มาพร้อมคุณสมบัติครบถ้วนควรค่าแก่การมอบเป็นรางวัลชีวิต เพราะไม่เพียงตอบโจทย์ผู้ที่มองหาการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ด้วยการบรรจงสรรสร้างทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน แต่ยังออกแบบอย่างเข้าใจคนเมืองที่ถวิลหาเสน่ห์ของจังหวะชีวิตที่เนิบช้าในเมืองใหญ่ ด้วยการผสานเสน่ห์ของวิวโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร สายน้ำที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดของประเทศ เข้ากับการตกแต่งที่โดดเด่นในทุกมุมมอง เพื่อให้ทุกวันของคุณคือวันพิเศษ

<img style="width: 680px; height: 449px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/f6f1a9d99406ab12994889bca51fbf5e.png" alt="" />

ณ ที่ดินผืนสุดท้ายเพียงแห่งเดียวในเมืองหลวงที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด และใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด เป็นที่ตั้งของบันยันทรี เรสซิเดนซ์  ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด The Sanctuary for your Soul เพื่อให้ผู้พักอาศัยเข้าถึงบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริง ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา กับ 3 จุดเด่นของโครงการที่ยากจะปฏิเสธและห้ามใจไม่ให้อยากเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะผู้ที่หลงใหลในการใช้ชีวิตท่ามกลางความสงบแต่ยังเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต

<img style="width: 680px; height: 327px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/dcf3ea0d5aea2a4c336880a61c432dde.png" alt="" />

เริ่มทำเลที่ตั้งของโครงการ ได้หลอมรวมความเงียบสงบของชุมชนเก่าแก่โบราณ เข้าไว้กับย่านศูนย์กลางการค้าและธุรกิจ อย่างสาทรได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตไม่ถูกตัดทอน แต่ยังง่ายต่อการหลีกหนีจากความวุ่นวายเพื่อค้นพบความสงบที่แท้จริง ด้วยการมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยจำนวนห้องชุดเพียง 133 ยูนิตเท่านั้น แต่ละชั้นออกแบบให้มีจำนวนห้องพักสูงสุดเพียง 4 ยูนิต พร้อมล็อบบี้ลิฟท์ส่วนตัว ช่วยพาคุณถึงห้องพักแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

<img style="width: 680px; height: 327px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/5a9bae64d32c3f98d2519794e4b33fba.png" alt="" />

ถัดมาคือ ความพิเศษที่จินตนาการตามไม่ยาก แต่ถ้าจะให้ฟินต้องมาสัมผัสเอง นั่นคือ ความรู้สึกเมื่อเข้ามาในห้องพักแล้วรู้สึกราวกับได้ค้นพบกับโลกใบใหม่  เต็มอิ่มไปกับทัศนียภาพอันงดงามของสายน้ำหลักของประเทศราวกับต้องมนต์ ด้วยการออกแบบให้ทุกห้องเป็น Single Loaded Corridor จึงสามารถเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามิค ขณะที่พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดก็เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมอยู่ที่ส่วนไหนก็ยังได้ชมวิวแม่น้ำแบบพาโนรามิคแบบไม่สะดุด ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับซุปเปอร์พรีเมียม บริการระดับโรงแรม 5 ดาว อาทิ Residence Lobby ถึง 3 จุด, Panoramic View Swimming Pool ถึง 2 สระ, Riverfront Jacuzzi Pool ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชื่นฉ่ำกับสายน้ำ โดยมีวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาเป็นเพื่อน อีกทั้งยังมี River Front Private Dining Room ที่พร้อมให้บริการ แบบ Private Chef Table จากโรงแรม 5 ดาว และ Sanctuary Spa ที่สามารถเรียกเทอราปิสจากบันยันทรี มาให้บริการถึงโครงการ

<img style="width: 680px; height: 322px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/2b4125c0f6785cec40e60d29c357be09.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 538px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/259ab17f40f32b6394e8f9a8644c21fb.png" alt="" />

อีกหนึ่งเสน่ห์ของการใช้ชีวิตเหนือระดับที่การันตีว่าบันยันทรี เรสซิเดนซ์  ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ทุ่มเทเพื่อคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดและคุณภาพอันไร้ที่ติมารวมไว้ในที่เดียว คือ การผนึกกำลังกับทีมงานระดับแนวหน้าของไทย และบริษัทระดับชั้นนำของโลก นำทีมโดย บันยันทรี กรุ๊ป เครือโรงแรมหรูระดับโลก, ที่ปรึกษาการออกแบบอย่าง SCDA, ผู้รับเหมาก่อสร้างระดับ Top Tier อย่าง บวิค-ไทย หรือแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำอย่าง Poliform เพื่อสะท้อนความเรียบหรูเต็มไปด้วยรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านทุกรายละเอียดของโครงการ

พร้อมกันนี้ยังมอบสิทธิพิเศษให้ผู้ซื้อโครงการกับบริการสุดพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบันยันทรี นั่นคือ การร่วมเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากแบรนด์ในเครือทั่วโลกได้รับส่วนลดสูงสุด 30% ไม่ว่าจะเป็น บันยันทรี อังสนา แคสเซีย ดาหวา หรือลากูน่า รวมถึงการเป็นสมาชิกแบบ Banyan tree private collection เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการเข้าพักในเครือ ไม่ว่าจะเป็นประเทศ ญี่ปุ่น, โมร็อคโค, สก็อตแลนด์, ลอนดอน, บาหลี และคอสตาริก้า  ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างลงตัว

<img style="width: 680px; height: 454px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/cb30bd2f668443fe59716d7d16f25057.png" alt="" />

สำหรับแบบห้องพักอาศัยที่ทางโครงการออกแบบไว้ให้ลูกค้าเลือกตามไลฟ์สไตล์ในแบบที่ใช่ ถึง 5 แบบ  ตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 69.40-85.45 ตร.ม.ไปจนถึงเพ้นท์เฮ้าส์ ขนาด 836.70 ตร.ม. มีเพียง 1 ยูนิต แต่ภายในโครงการจัดสรรพื้นที่สำหรับจอดรถมากกว่า 260 คัน หรือ คิดเป็น 200% ของยูนิตทั้งหมด พร้อมรองรับการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย ในวันที่ไม่อยากขับรถแต่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ทางโครงการได้จัดเตรียมท่าเทียบเรือส่วนตัว พร้อม Shuttle Boat Service ไว้พร้อมให้บริการเช่นกัน

<img style="width: 680px; height: 382px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/55b511c2b9d41af1b265a2588abd7fb2.png" alt="" />

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าโอกาสมีอยู่รอบตัว อยู่ที่ใครจะคว้ามาเป็นเจ้าของ อย่าปล่อยให้โอกาสที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใช้ชีวิตที่คุณอาจไม่เคยจินตนาการมาก่อน แต่เป็นจริงได้ ณ  “บันยันทรี เรสซิเดนซ์  ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ” หลุดลอยไป ในงาน Grand Opening งานเดียวที่มาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ เฉพาะวันที่ 24-25 ก.พ.นี้เท่านั้น  เปิดให้ชมห้องตัวอย่าง บนอาคารจริงได้เห็นวิวของจริง อย่างเป็นทางการ สนนราคาเริ่มต้น 27.9 ล้านบาท 

<img style="width: 680px; height: 392px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/1069ff6a539ffeb16d430c090b8b4e84.png" alt="" />

งานนี้ พิเศษสุด สำหรับลูกค้าคนพิเศษที่สละเวลามาร่วมเปิดสัมผัสประสบการณ์ รับไปเลยส่วนลดมูลค่าสูงสุดถึง 2 ล้านบาท พร้อมรับเฟอร์นิเจอร์แพ็คเกจจากแบรนด์โพลิฟอร์ม (Poliform) ซึ่งเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์นำเข้าระดับพรีเมียมจากอิตาลี มูลค่าสูงสุดถึง 3.5 ล้านบาท เท่านั้นยังไม่พอ ยัง On top ด้วยข้อเสนอสุดพรีเมียม Banyan Tree Private Collection Member มูลค่ากว่า 3 แสนบาท

โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ แต่มอบให้เพียง 2 วันเท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม <a href="http://www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com">www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com</a> หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1787

เป็นเจ้าของชีวิตสงบใจกลางเมือง @บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ

<h2>ศุภาลัยคว้าชัยชนะประมูล ที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย เนื้อที่ 7 ไร่บนถนนสาทร มูลค่าที่ดินกว่า 4.6 พันล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.45 ล้านบาทต่อตร.ว. ตั้งใจปั้นแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงมูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท เป็นอาคารมิกซ์ยูสสำนักงานให้เช่า-คอนโดฯ</h2>
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ชนะการประมูลซื้อ ที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา มูลค่าที่ดินกว่า 4.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็นตารางวาละ 1.45 ล้านบาท โดยที่ดินตั้งอยู่ในเขตศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) บนถนนสาทรและสามารถเข้าออกฝั่งถนนสวนพลูได้ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี 900 เมตร

ที่ดินดังกล่าวจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยสำนักงานให้เช่าและคอนโดมิเนียม มีความตั้งใจที่จะออกแบบสถาปัตยกรรมให้โดดเด่นเพื่อเป็นแลนด์มาร์กใหม่ย่านถนนสาทร สีลม คาดว่าโครงการจะมีมูลค่ารวมประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/2300426abc399ed4decba04c7fa862a8.png" alt="" width="340" height="439" /><figcaption> ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)</figcaption></figure>

ประทีปกล่าวว่า ถนนสาทรใต้ถือเป็นถนนสายสำคัญที่เป็นทำเลทองในย่านธุรกิจที่มีศักยภาพการพัฒนาสูง ทำเลสาทรเป็นพื้นที่พาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น แวดล้อมด้วยแหล่งงานจำนวนมากและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อีกทั้งเป็นทำเลที่คุ้นเคยและนิยมของชาวต่างชาติอีกด้วย จึงเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนพัฒนาเป็นอาคารชุดพักอาศัยและอาคารสำนักงานเกรดเอ

โครงการนี้ได้เริ่มการออกแบบโครงการแล้ว โดยจะวางผังออกแบบอาคารในแนวทางอนุรักษ์พลังงาน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (Green Design) มีสวนขนาดใหญ่อยู่ในโครงการและเก็บรักษาต้นไม้ใหญ่ของเดิมส่วนหนึ่งไว้ นอกจากนี้พร้อมจะนำนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบที่ไม่มีในโครงการอื่นๆ มาก่อน

ทั้งนี้ ประทีป ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าการประกาศผลการประมูลว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวถือเป็นความท้าทายในการออกแบบ เนื่องจากมีหน้าที่ดินค่อนข้างแคบ 70 เมตร ลึก 160 เมตร เมื่อคำนวณระยะถอยร่นตามกฎหมายแล้วจะทำให้สร้างอาคารสูงได้เพียง 40-50 ชั้น แต่เชื่อว่าศุภาลัยจะสามารถออกแบบให้สวยงามได้จึงเข้าร่วมการยื่นซองประมูลโดยเสนอราคาที่เหมาะสม

สำหรับปี 2561 ศุภาลัยมีที่ดินที่จะเตรียมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัยแล้วรวมทั้งสิ้น 6 แปลง และยังมีโครงการที่พักอาศัยแนวราบอีกหลายสิบแปลงทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าการชนะประมูลที่ดินในครั้งนี้จะทำให้ศุภาลัยมีอัตราการเติบโตด้านยอดขายและรายได้อย่างยั่งยืน 15 - 20 % ต่อปี อีกทั้งทำให้ศุภาลัยมีสินค้าระดับไฮเอนด์บนทำเลใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลมเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและมีรายได้จากการเช่าอีกทางหนึ่ง บริษัทคาดว่าจะเปิดให้ลูกค้าจองโครงการได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561

ด้านการแข่งขันการประมูลราคาที่ดินสถานทูตออสเตรเลียแปลงนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ซึ่ง หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ที่ดินแปลงนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลนับ 10 ราย ทั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทย-เทศ รวมถึงสถาบันการเงิน มีบริษัทอสังหาฯ สำคัญที่สนใจยื่นซอง เช่น ศุภาลัย แสนสิริ เครือทีซีซี เป็นต้น

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events