“Cartier Women’s Initiative” ครบรอบ 15 ปี ส่งเสริมผู้หญิงสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับโลก

<h2 class="p1">องค์การสหประชาติเผย  "รายงานความสุขโลก" ประจำปี 2021 เนื่องใน<a style="color: #333333;" href="https://www.un.org/en/observances/happiness-day">วันความสุขสากล</a> ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มีนาคมของทุกปี โดย 20 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก มีรายงานดังต่อไปนี้
</h2>
<img class="alignnone wp-image-43118" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/kid.jpg" alt="ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก" width="715" height="486" />
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 2.6 พันล้านคนทั่วโลก <a href="https://www.forbes.com/sites/laurabegleybloom/2020/03/20/ranked-20-happiest-countries-2020/?sh=72dc4c9a7850">ประเทศฟินแลนด์</a>ยังคงครองอันดับ 1 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ตามมาด้วยไอซ์แลนด์ เดนมาร์ค สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์
ด้านสหรัฐอเมริกาแซงหน้าแคนาดาขึ้นเป็นอันดับที่ 14 จากเดิมที่อยู่ในอันดับที่ 18 และ 19 ในปี<a style="color: #333333;" href="https://www.forbes.com/sites/laurabegleybloom/2019/03/25/ranked-10-happiest-and-10-saddest-countries-in-the-world/?sh=28ed10cf6374"> 2020 </a>และ 2021 ตามลำดับ
ทั้งนี้ รายงานความสุขโลกมีขึ้นครั้งแรกในปี 2012 โดยได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายระดับโลกที่ทำงานใกล้ชิดกับองค์การสหประชาชาติ (U.N.’s Sustainable Development Solutions Network) แต่สำหรับการจัดอันดับในปีนี้มีความแตกต่างจากช่วงก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักวิจัยไม่สามารถลงพื้นที่เพื่อทำการสัมภาษณ์ต่อหน้าในบางประเทศได้  พวกเขาจึงให้ความสำคัญกับการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตความเป็นอยู่กับโควิด-19 ควบคู่กับแหล่งข้อมูลที่สำคัญอย่าง Gallup World Poll 
โดยปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาดัชนีชี้วัดความสุข ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อหัว สวัสดิการสังคม สุขภาพและอายุคาดเฉลี่ยของประเทศ ระดับความมีเสรีภาพ ความอดทนอดกลั้น และปัญหาการทุจริต
“ที่น่าสนใจคือ ค่าเฉลี่ยของชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนไม่ได้ลดลงเลย เมื่อให้พวกเขาประเมินคุณภาพชีวิตของตนเองในช่วงที่ผ่านมา” John Helliwell ศาตราจารย์ประจำ University of British Columbia หนึ่งในคณะผู้จัดทำรายงานกล่าว พร้อมเสริมว่า “หนึ่งในคำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ คือ ผู้คนมองโควิด-19 เป็นเรื่องทั่วไป เป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกคน ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวและเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน”
สำหรับในปีนี้ นอร์เวย์ได้ตกลงไปอยู่อันดับที่ 8 จากอันดับที่ 5 ในปี 2019 ขณะที่สหราชอาณาจักรปรับลงไป 5 อันดับจากปี 2020 มาอยู่อันดับที่ 18 ในทางตรงกันข้ามเยอรมันกลับก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 7 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 10 อันดับ และโครเอเชีย ประเทศที่มีพัฒนาการมากที่สุดครองอันดับที่ 23 จากอันดับที่ 79 ในปี 2020
ในส่วนของประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้สะท้อนให้เห็นว่าหลายประเทศอยู่ในลำดับต้นๆ ซึ่งนักวิจัยได้ทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาถอดบทเรียนเป็นกรณีศึกษา และพบว่า “ประชาชนในเอเชียตะวันออกอยู่ภายใต้นโยบายที่เข้มงวดจากรัฐบาล ที่ไม่เพียงแต่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังบรรเทาผลกระทบของปัจจัยด้านลบที่สามารถส่งผลกระทบต่อความสุขของประชาชนได้เช่นกัน” Shun Wang จากสถาบันพัฒนาแห่งเกาหลีกล่าว
ไม่เพียงเท่านี้ ดัชนีความสุขของออสเตรเลีย (อันดับที่ 12) และนิวซีแลนด์ (อันดับที่ 9) ก็ได้ชี้ให้เห็นว่า “การทำงานของภาครัฐมีผลต่อสภาพจิตใจของผู้คนจริง” บรรณาธิการของรายงานกล่าว
นอกจากประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว รายงานความสุขโลกยังได้จัดอันดับประเทศที่มีความทุกข์ที่สุดในโลกเช่นกัน โดยในปีนี้ อัฟกานิสถาน ซิมบับเว แทนซาเนีย และจอร์แดน ครองตำแหน่งประเทศที่มีความทุกข์ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ดี ในที่นี้ Richard Layard ผู้อำนวยการร่วมของ Wellbeing Programme ที่ LSE’s Centre for Economic Performance กล่าวว่า “การมีชีวิตที่ยืนยาวมีความสำคัญพอๆ กับการมีชีวิตที่ดี และในแง่ของชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของแต่ละคนที่เกิดมาก็ได้มีพัฒนาการไปมากในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งแม้แต่โควิด-19 ก็ยังไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด”
สำหรับรายชื่อ "ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ประจำปี 2021" มีดังต่อไปนี้

<ol class="ol1">
 	<li class="li3">ฟินแลนด์</li>
 	<li class="li3">ไอซ์แลนด์</li>
 	<li class="li3">เดนมาร์ค</li>
 	<li class="li3">สวิตเซอร์แลนด์</li>
 	<li class="li3">เนเธอร์แลนด์</li>
 	<li class="li3">สวีเดน</li>
 	<li class="li3">เยอรมนี</li>
 	<li class="li3">นอร์เวย์</li>
 	<li class="li3">นิวซีแลนด์</li>
 	<li class="li3">ออสเตรีย</li>
 	<li class="li3">อิสราเอล</li>
 	<li class="li3">ออสเตรเลีย</li>
 	<li class="li3">ไอร์แลนด์</li>
 	<li class="li3">สหรัฐอเมริกา</li>
 	<li class="li3">แคนาดา</li>
 	<li class="li3">สาธารณรัฐเช็ก</li>
 	<li class="li3">เบลเยียม</li>
 	<li class="li3">สหราชอาณาจักร</li>
 	<li class="li3">ไต้หวัน</li>
 	<li class="li3">ฝรั่งเศส</li>
</ol>
แปลและเรียบเรียงจากบทความ The 20 Happiest Countries In The World In 2021 (Guess Where The U.S. Ranked?) เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-50-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5-5.html">การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2021</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events