<h2>ท่ามกลางความท้าทายด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ก่อปัญหาเป็นวงกว้าง ภาคธุรกิจมีส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนวาระสำคัญทั้งในระดับองค์กร สมาคมฯ และระดับประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับการคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อทั่วโลกต่างรับรู้ถึงปัญหาและทุกส่วนในสังคมต่างก็หาแนวทางในการแก้ไข การทำธุรกิจในแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียวหรือ green economy ที่เน้นลดการทำลายธรรมชาติแล้วหันมาใส่ใจผู้คนในสังคมให้มีชีวิตดีขึ้นผ่านการลดคาร์บอน ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นอีกหนึ่งการยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นในอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ที่ผ่านมาธุรกิจต่างๆ ได้นำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาวัสดุและผลิตภัณฑ์ในงานก่อสร้างที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งช่วยลดก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนของสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA: Thai Cement Manufacturers Association) ที่เน้นทำงานในทุกมิติ สิ่งแวดล้อม ชุมชน และเศรษฐกิจ Thailand’s New Era of Low Carbon Cement&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมซีเมนต์เดิมสู่ New Era ที่ปูนซีเมนต์ยังคงเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะเดียวกันก็ลดก๊าซเรือนกระจกได้ด้วยภายใต้ Thailand 2050 Net Zero Cement and Concrete Roadmap ที่เดินไปพร้อมกับแผนของประเทศไทยอย่าง Thailand NDC Roadmap&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แนวทางของการเปลี่ยนผ่านมีตั้งแต่การพัฒนาและวิจัยปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ การเร่งขยายผลการทำเหมืองให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามนโยบายภาครัฐ เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งน้ำและจุดเรียนรู้สำหรับชุมชนตาม พ.ร.บ. แร่ พ.ศ. 2560 ในแนวปฏิบัติ Green Mining Practice เช่น “เขาทับควายเพื่อชุมชน” เหมืองในจังหวัดลพบุรีมีการพัฒนารวมทั้งมีการทำงานที่เชื่อมโยงสร้างระบบนิเวศ โดยเฉพาะจัดการวัสดุที่ไม่ใช่แล้ว (waste) ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG) ปัจจุบันอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ได้นำของเสียในกระบวนการ 3R Reduce, Reuse, Recycle มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในเตาเผาปูนซีเมนต์เป็นการกำจัดขยะอย่างถูกต้อง ช่วยชุมชนปลอดมลพิษและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นวัตกรรมปูนคาร์บอนต่ำ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หนึ่งในการทำงานอย่างมุ่งมั่นกับการพัฒนาสินค้านวัตกรรม “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” ซึ่งเป็นปูนคาร์บอนต่ำ (low carbon cement) ผลิตตามมาตรฐาน มอก. 2594 ที่มีเทคโนโลยีการผลิตทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในแนวทางกระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ (Industrial Processes and Product Use: IPPU) นำมาใช้ทดแทนปูนปอร์ตแลนด์ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมและเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากข้อมูลการผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก 1 ตัน สามารถลดการปล่อย CO2 ได้ 0.05 ตัน CO2 เมื่อเทียบกับการผลิตปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ในปริมาณที่เท่ากัน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยให้การยอมรับและนำปูนไฮดรอลิกไปใช้ในงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ทั้งเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน การทางพิเศษ กระทรวงมหาดไทย ทำให้ในปี 2566 สามารถลดก๊าซเรือนกระจก 700,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นผลสำเร็จจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนภายใต้วิสัยทัศน์ TCMA Synergizing the Actions toward Net Zero 2050 เมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกในไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความตั้งใจที่จะลดคาร์บอนยังนำไปสู่การสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ อย่างสระบุรีแซนด์บ็อกซ์-ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ” หรือ “PPP-Saraburi Sandbox: A Low Carbon City” โดยร่วมทำงานกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา และอื่นๆ เพื่อพลิกสระบุรีที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมซีเมนต์ เพราะมีโรงงานซีเมนต์อยู่กว่า 70-80% และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ราว 7% ของ GDP ของประเทศให้เป็น “เมืองคาร์บอนต่ำ” อย่างเต็มรูปแบบ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมือง “สระบุรีแซนด์บ็อกซ์” แห่งนี้จะเป็นต้นแบบแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกโดยดำเนินการใน 5 ด้าน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. เน้นนำพลังงานสะอาดมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด (accelerating energy transition) เช่น การจัดหาพื้นที่ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำ (solar floating) และระบบผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน การพัฒนาสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (grid modernization) และการส่งเสริมปลูกพืชพลังงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. ทำการศึกษาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนและส่งเสริมการใช้ปูนไฮดรอลิก รวมถึงการมองหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาปูนชนิดใหม่ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้นในอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ (turning waste to value) นำมาเป็นเชื้อเพลิงทดแทน ซึ่งเป็นไปตามตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy: CE)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรรมคาร์บอน และพัฒนาปลูกพืชพลังงานในจังหวัดสระบุรีให้มากขึ้น เช่น ทำนาเปียกสลับแห้ง ซึ่งวิธีนี้จะลดการใช้น้ำและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5. สนับสนุนการปลูกป่าชุมชนอีก 38 แห่งทั่วจังหวัด เพื่อให้ต้นไม้ช่วยดูดซับคาร์บอน พร้อมทั้งต่อยอดในเชิงพาณิชย์ด้วยการซื้อขายคาร์บอนเครดิตทำรายได้ให้ชุมชน ผสานความร่วมมือระดับโกลบอล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การรับมือกับปัญหาก๊าซเรือนกระจกเป็นประเด็นที่ใหญ่และส่งผลกระทบในวงกว้าง การจับมือกับหน่วยงานต่างๆ มีความสำคัญอย่างมาก ที่ผ่านมา TCMA ได้ยกระดับความร่วมมือกับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเข้าร่วม COP27 และ COP28 รวมถึงร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับ GCCA (Global Cement and Concrete Association) ในหลายกิจกรรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หนึ่งในนั้นคือ การร่วมกันผลักดันให้เกิด GCCA CEO ซึ่งเป็นงานเดียวที่รวมตัวซีอีโอจากทั่วโลกให้เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมที่ประเทศไทยในวันที่ 4 มิถุนายน ปี 2567&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;GCCA CEO เป็นงานที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของภาคธุรกิจซีเมนต์ในไทย ทั้งแผนใหญ่ Thai Cement &amp; Concrete Roadmap to Net Zero 2050 และ “PPP-Saraburi Sandbox: A Low Carbon City” สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ โครงการที่มีแนวคิดและแผนปฏิบัติงานที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก โดย GCCA ยกให้เป็นต้นแบบและกรณีศึกษาเพื่อถ่ายทอดด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมซีเมนต์ที่เป็นมิตรต่อเศรษฐกิจและชุมชนให้แก่สมาชิก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บทบาทระดับภูมิภาคที่ TCMA ขับเคลื่อนก็มีเช่นกัน ในกิจกรรมของสภาผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งอาเซียน (ASEAN Federation of Cement Manufacturers: AFCM) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุม Asia Cement ประสบความสำเร็จเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยวางเป้าหมายให้ประเทศสมาชิกได้ร่วมกันลดคาร์บอนและเตรียมขยายผลต่อในการประชุมครั้งต่อไปที่เวียดนาม Green Funding&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากความร่วมมือที่ขับเคลื่อนทั้งระดับองค์กร จังหวัด และประเทศ รวมถึงในภูมิภาคและระดับโลกจะเกิดขึ้นได้นั้นจำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนทางการเงินจากคอร์ปอเรชั่นและ Green Funds จากต่างประเทศ เช่น UNIDO มีเงินทุนสนับสนุนมาจาก Global Environment Facility ส่งมาให้ UNIDO Thailand มีมูลค่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเดินหน้า CCUS (Carbon Capture Utilization and Storage) เทคโนโลยีที่ช่วยดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่และใช้เงินลงทุนสูง แต่หากเกิดขึ้นได้จริงจะมีประโยชน์อย่างมากต่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (climate change) และการลดก๊าซเรือนกระจกในไทย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/people/forbes-life-people/marisa-chearavanont-life-journey-through-arts" alt="มาริษา เจียรวนนท์ มอง Life Journey ผ่านโลกศิลปะ"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/world/america/kings-hawaiian-mark-taira-2024" alt="Mark Taira ผู้เปลี่ยนร้านเบเกอรี่ครอบครัว ให้เติบโตสู่ทรัพย์สินกว่า 2,000 ล้านเหรียญ"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/people/forbes-life-people/marisa-chearavanont-life-journey-through-arts" alt="มาริษา เจียรวนนท์ มอง Life Journey ผ่านโลกศิลปะ"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/people/the-next-tycoons/chayapa-chutrakul-the-pink-lab-may-2024" alt="‘ชญาภา จูตระกูล’ กับนิยามความสำเร็จนอกกรอบ ปลุกปั้น The Pink Lab ด้วยตนเอง"></a><a href="https://forbesthailand.com/world/america/ten-billion-kingdom-of-todd-boehly" alt="Todd Boehly เศรษฐีการลงทุน เจ้าของอาณาจักรหมื่นล้าน"></a><a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/csr-sustainability/or-vietjet-saf" alt="OR จับมือ ไทยเวียตเจ็ท ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง SAF ในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เริ่ม ก.ค.นี้">OR จับมือ ไทยเวียตเจ็ท ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง SAF ในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เริ่ม ก.ค.นี้</a>​ ​<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/04488869-cf4a-4c6b-8dc5-5ad0491eb3cd/june-2024" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine​">คลิกอ่านเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine​</a><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/hZyQ2tzHLxk2X38DTdd8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="hZyQ2tzHLxk2X38DTdd8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="320,420" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="0"></figure></div>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events