JDF คว้าโอกาสฟู้ดเทคเทรนด์ ส่งรสไทยเสิร์ฟตลาดโลก - Forbes Thailand

JDF คว้าโอกาสฟู้ดเทคเทรนด์ ส่งรสไทยเสิร์ฟตลาดโลก

เส้นทางมากกว่า 2 ทศวรรษของเจดีฟู้ด (JDF) ที่สามารถสร้างการยอมรับในระดับโลก ด้วยความมุ่งมั่นคิดค้นพัฒนานวัตกรรมเครื่องปรุงรสอาหาร และสูตรเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหารมากกว่า 2,000 รสชาติ พร้อมรับเทรนด์ความเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมอาหารอย่างยั่งยืน 

เบื้องหลังความสำเร็จของครัวไทยในร้านอาหารที่ต้องการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องจำเป็นต้องใช้สูตรเฉพาะและรสชาติมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา ด้วยเครื่องปรุงรสอาหาร ซอส ไส้ขนม ล้วนเป็นรายละเอียดสำคัญที่ผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารไม่สามารถมองข้ามได้

โดยเฉพาะในช่วงที่การแข่งขันทวีความรุนแรงทั้งผู้เล่นเดิมที่ต้องพยายามรักษาฐานผู้บริโภคและผู้เล่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมอาหารช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งผู้ที่สามารถพัฒนาสูตรอาหารและปรับปรุงรสชาติร่วมกับมืออาชีพด้านเครื่องปรุงรสที่มีผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์การอาหารและทีมวิจัยคิดค้นสูตรได้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจะมีความได้เปรียบกว่าในโลกของฟู้ดเทค (food technology) 

หลังจากจบวิทยาศาสตร์การอาหาร หรือ Food Science มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ผมทำงานในธุรกิจอาหารหลายบริษัท ตั้งแต่ supervisor ฝ่ายผลิตถึงผู้จัดการโรงงาน แต่เพราะต้องการมีธุรกิจส่วนตัวจึงตัดสินใจลาออก และเริ่มเป็นเซลส์ขายวัตถุดิบให้กับโรงงานอาหาร จนเห็นช่องว่างการผลิตวัตถุดิบซัพพลายให้โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว เราจึงตั้งโรงงานแห่งแรกที่สมุทรสงครามในปี 2542 และขยายไปที่สมุทรสาครปี 2544 ในช่วงต้มยำกุ้งซึ่งรัฐบาลมีโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก เราจึงเข้าร่วมและสร้างแบรนด์กินดี โดยเน้นการส่งออกเป็นหลัก และเพิ่มผลิตภัณฑ์มะพร้าวอบกรอบซัพพลายให้ลูกค้าอเมริกา ก่อนจะตั้งโรงงานแห่งที่ 3 ในปี 2559 เพื่อรองรับการผลิตมะพร้าวอบกรอบให้ลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งระหว่างปี 2553-2559 เรายังผลิตสินค้าไส้ขนมปัง แยม สำหรับพ่อค้าขายส่งและสร้างแบรนด์ OK สำหรับผู้ใช้ขนาดย่อมลง” 

ธีรบุล หอสัจจกุล กรรมการบริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน)

ธีรบุล หอสัจจกุล กรรมการบริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ JDF ย้อนระลึกถึงการก่อตั้งธุรกิจผลิตเครื่องปรุงรสอาหาร (food seasoning) ซอส ไส้ขนม อาหารอบแห้ง แบบครบวงจรตามความต้องการของลูกค้า (made to order) ซึ่งเครื่องปรุงรสอาหารดังกล่าวนำไปใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบส่วนผสมในการปรุงอาหารของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร 

นอกจากนั้น บริษัทยังรับจ้างผลิตขนมขบเคี้ยวประเภทมะพร้าวอบกรอบตามความต้องการของลูกค้า (OEM) ภายใต้ตราสินค้าเฉพาะ (private label) สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารในต่างประเทศและต่อยอดพัฒนาความเชี่ยวชาญการผลิตอาหารแบรนด์ของบริษัท ได้แก่ ซุปกึ่งสำเร็จรูปปราศจากผงชูรส GOOD EATS ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอาหารแบรนด์กินดี ผลิตภัณฑ์มะพร้าวอบกรอบและมะพร้าวอัดก้อนแบรนด์ Crispconut และ Little Monkey ผงเขย่าปรุงรส และไส้เบเกอรี่หรือฟิลลิ่งสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและลูกค้าทั่วไปแบรนด์ OK 

ขณะที่บริษัทมีจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดเครื่องปรุงรสเป็นระยะเวลายาวนาน นอกจากผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของ JDF บริษัทยังอยู่เบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหารยักษ์ใหญ่จำนวนมาก ด้วยทีมวิจัยคิดค้นและพัฒนาสูตรเฉพาะร่วมกับลูกค้า หรือปรับเปลี่ยนสูตรอาหารให้ตรงตามความต้องการทำให้ลูกค้ามีคำสั่งซื้อในระยะยาว เพื่อคงรสชาติของสินค้าไม่ให้เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะธุรกิจ food chain ที่ต้องควบคุมรสชาติของอาหารให้เหมือนกันในทุกสาขา 

ดังนั้น แม้ธุรกิจอาหารจะได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองหลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา แต่บริษัทยังสามารถข้ามผ่านวิกฤตความท้าทายได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยรายได้ 586 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 45 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยวางเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่องร้อยละ 25 ในปีนี้ เนื่องจากภาพรวมการบริโภคในประเทศและการส่งออกฟื้นตัว ทำให้มีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาและความต้องการของผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงในปีที่ผ่านมาบริษัทยังลงทุนสร้างโรงงานใหม่บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องปรุงรสกว่าร้อยละ 75 จากกำลังการผลิตเดิม 

นอกจากนี้ การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังเป็นก้าวสำคัญสำหรับการเติบโตของบริษัทใน 3-5 ปีข้างหน้า ทั้งการลงทุนวิจัยและพัฒนากลุ่มผลิตใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง การจัดตั้งห้องแล็บหรือสำนักงานขายในต่างประเทศ เช่น ประเทศเวียดนาม การขยายช่องทางตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) ประเทศจีนตอนใต้และประเทศอินเดีย รวมทั้งลงทุนในระบบเทคโนโลยีและระบบกึ่งอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิต พร้อมพัฒนาระบบการเชื่อมโยงด้านข้อมูลให้รองรับการขยายกำลังการผลิตและยอดขายที่เพิ่มขึ้น 

สำหรับก้าวต่อไปของบริษัทยังคงมุ่งมั่นขยายตลาดใหม่ที่สอดรับเทรนด์อุตสาหกรรมอาหารในอนาคต เช่น ซอส ไส้กรอก เนื้อแปรรูป อาหารทะเล และแป้งทอดกรอบ ซึ่งเป็นตลาดค่อนข้างใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาและวิจัยนวัตกรรมทางอาหารในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ (healthy snack) ผักผลไม้อบกรอบหรืออบแห้ง อาหารโปรตีนจากพืช (plantbased) ซึ่งคาดการณ์ผลวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายไดตั้งแต่ปี 2566 พร้อมต่อยอดกลุ่มสินค้าอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่เป็นแบรนด์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาเครื่องปรุงรสหรืออาหารให้สอดคล้องกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ 

ธีรบุลย้ำถึงความมั่นใจในปัจจัยความสำเร็จของบริษัท ได้แก่ มาตรฐานการผลิตอาหารกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะ โรงงานการผลิตที่ได้มาตรฐาน และกำลังการผลิตที่เพียงพอ ประสบการณ์ของผู้ก่อตั้งและผู้บริหารมืออาชีพ รวมถึงความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการให้การบริการอย่างเต็มที่และดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด 

ในเรื่องของการซัพพลายให้ลูกค้าเรามีความพร้อม แม้จะเป็นความต้องการเร่งด่วน เช่น ขอออร์เดอร์พิเศษ ในเรื่องของ relationship เราบริการเต็มที่ ลูกค้าจะไม่มีปัญหาเรื่องของขาดหรือของจะสะดุด ทีมเซลส์ของเราก็เป็น technical sales ติดต่อดูแลลูกค้าใกล้ชิดตลอด” 

เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์   ภาพ: ​JDF

อ่านเพิ่มเติม:
คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine