Villa Frantzen ร้านอาหารนอร์ดิกที่แผงไปด้วยกลิ่นอายแบบเอเชีย

เมื่อช่วงเดือนก่อน ร้านอาหารนอร์ดิกที่แอบแฝงด้วยกลิ่นอายแบบเอเชียได้มาเปิดประตูต้อนรับผู้หิวโหย ณ ซอยเย็นอากาศ ร้านอาหารแห่งนั้นคือ Villa Frantzen ซึ่งเป็นการขยายกิจการเข้าสู่ทวีปเอเชียครั้งล่าสุดของทาง Frantzén Groups

แม้ว่ากรุงเทพจะเป็นเมืองขวัญใจนักชิม นักกินทั้งหลาย แต่เหตุผลที่ Björn Frantzén เชฟมือฉมังเบื้องหลังร้านอาหารสุดหรู Villa Frantzen เลือกกรุงเทพเป็นจุดหมายที่ 2 ในเอเชียกลับเป็นทำเลที่ถูกใจ คำชักชวนจากคนรู้จัก และโชคชะตา

หากขับรถผ่าน หลายคนคงเข้าใจผิดคิดว่าร้านอาหารแห่งนี้เป็นบ้านสีขาว ที่ลืมปิดประตู แต่ลักษณะแบบเป็นกันเอง ไม่โออ่านี่แหละที่ถูกใจเชฟคนดังคนนี้

เมื่อมองดูอีกทีจะพบว่า ภายในบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่นั้นมี 60 ที่นั่งเต็มที่รอคอยแขกผู้หิวโหย เชฟมากประสบการณ์ ทีมงานที่ตั้งหน้าตั้งตารอให้บริการ และอาหารสไตล์นอร์ดิก-เอเชีย 5 คอร์สแสนอร่อยรอคุณอยู่

“เรามีครัวที่เราลองปรุงอาหารอยู่ที่ Stockholm ผมเริ่มจากลองนึกไอเดียขึ้นมาก่อน เสร็จแล้วก็วาดไอเดียเหล่านั้นลงไปบนกระดาษ แล้วพวกเราก็เริ่มลงมือปรุง” Frantzen เล่าย้อนถึงการคิดค้นเมนูของ Villa Frantzen ที่ยังสามารถคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอของ Frantzén Groups ที่ตัวเขาและ Daniel Everts กับ Claes Grännsjö ทีม R&D ของเขาช่วยกันรังสรรค์ขึ้นมา

เขาเล่าต่อว่า “ถ้าเราชอบ ถ้าเราแฮปปี้ เราก็จะถ่ายรูปอาหารเหล่านั้น ถ่ายวิธีการทำ และจดสูตรออกมา” โดย Frantzen ยังได้เผยอีกว่า หลังจากนั้นเขาจะอัปโหลดเมนูไว้ใน Dropbox เพื่อให้ Martin Enström ผู้เป็น Executive Chef และ Executive Sous Chef อย่าง Nilas Corneliussen ร่วมมือกับทีมครัวที่ไทยพัฒนาเมนูเหล่านั้นต่อ

อาหารแบบ 5 คอร์สของทางร้านนอกจากจะแปลกใหม่ตรงที่นำอาหารสไตล์นอร์ดิกมาผสานกับสไตล์เอเชียแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใครคือแขกทั้งหลายสามารถเลือกเมนูในแต่ละคอร์สเองได้ โดยแต่ละคอร์สมีเมนูให้เลือก 3 ส่วนคอร์สของหวานมีให้เลือก 4 เมนู ทำให้การมาเยือนวิลล่าแห่งนี้ในแต่ละครั้งเต็มไปด้วยความใหม่อยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม การจะมาเยือนร้านอาหารสุดฮิตเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยหลังจากที่ร้านอาหารเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน คิวจองโต๊ะก็เต็มมาตลอดทั้งเดือน จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้เอง ที่ทางเราได้มีโอกาสไปลิ้มรสอาหาร ณ ร้านอาหารแห่งนี้

อาหาร และเครื่องดื่ม

ภายในร้านอาหารเต็มไปด้วยแสงไฟสีอบอุ่น และเฟอนิเจอร์ไม้สีอ่อน รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายสแกนดิเนเวีย ทั้งนี้เป็นเพราะผู้ช่วยออกแบบร้านอาหารแห่งนี้คือ Joyn Studio สตูดิโอสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในเล็กๆ แห่งหนึ่งใน Stockholm ที่มี 3 สาวชาวสวีเดน Helena Eliason, Lisa Grape และ Ida Wanler อยู่เบื้องหลังนั่นเอง

ก่อนที่จะสั่ง 5 คอร์สหลัก ทางร้านก็มี Supplement Servings แขกผู้หิวโหยได้รองท้องก่อน โดยมี 2 เมนูให้เลือกด้วยกัน เมนูแรกคือ Villa Björn Frantzén caviar »Prestige Selection« คาเวียร์ 30 กรัม เสิร์ฟพร้อมกับวาฟเฟิลมะพร้าวและขนุน ซาวครีมและสาหร่ายโนริแห้ง เนย brown butter และมะนาว ส่วนเมนูที่ 2 คือ หอยนางรม “63.4C” เสิร์ฟพร้อมกับ smoked cream และ spicy pumpkin ตกแต่งด้วย sea buckthorn oil สีเหลืองสวยงาม

นอกจากนั้น ทางร้านยังมีขนมปัง Swedish white beer & dark rye kavring เสิร์ฟพร้อมกับเนย Bordier เนียนนุ่ม เสิร์ฟเป็น complimentary dish ให้รับประทานตลอดมื้ออาหารอีกด้วย

เมนูให้เลือกในคอร์สแรกประกอบไปด้วย Veal tartar & smoked parsley, Cured Norwegian salmon & beer poached king crab และ Cold poached lobster & rhubarb

คอร์สที่ 2 มี Cauliflower chawanmushi & morels, Grilled scallops & fermented parsnips และ Jerusalem artichokes & vendace roe ให้เลือกอิ่มอร่อย

ต่อมาในคอร์สที่ 3 มีทั้ง Baked turbot & green asparagus, White asparagus & wasabi beurre blanc และ Pumpkin & frozen truffle butter ให้เลือกทานก่อนที่จะเข้าสู่คอร์สที่ 4 ที่จะมาพร้อมความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร

ก่อนจะเข้าสู่คอร์สที่ 4 ทางร้านจะนำมีดสีสันสดใส ประดับด้วยลวดลายสวยงามมาให้คุณเลือก โดย Pernilla Nordman เป็นผู้วาดลวดลายบนมีดจาก Morakniv เหล่านี้ด้วยมือ ส่วนเมนูในคอร์สที่ 4 นั้นมี Duck & foie gras, Ox cheeks & caramelized onion velouté และ Chicken »pôche-grillé« & scrambled eggs ให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกัน

คอร์สสุดท้าย อย่างคอร์สขนมหวานของทางร้าน มีตัวเลือกถึง 4 เมนูด้วยกัน โดยเมนูเหล่านั้นคือ »Spicy orange«, Frozen & dried herbs, Szechaun pepper ice cream และ Snoked ice cream »2.0« ซึ่งเป็นเมนูของหวานที่เสิร์ฟ ณ Zén ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลินในเครือ Frantzén Groups ที่สิงคโปร์ด้วย ทั้งนี้ แขกผู้มาเยือนสามารถเลือกได้ว่าจะรับ wine pairing หรือ juice pairing พร้อมกับคอร์สอาหารด้วยหรือไม่ ไวน์ที่ทางร้านเสิร์ฟนั้นมีรสชาติกลางๆ ทำให้เข้ากับทุกจานได้เป็นอย่างดีไม่ว่าคุณจะเลือกอะไรก็ตาม ส่วนน้ำผลไม้ต่างๆ ก็เป็นน้ำผลไม้ที่แปลกใหม่ แตกต่างจากน้ำผลไม้ทั่วไป โดยทางเราได้เลือกลองน้ำผลไม้ และแก้วโปรดของเราคือแก้วที่มาพร้อมกับคอร์สที่ 3 อย่าง Oxidized pear ผสมกับ Barley tea 

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว คุณสามารถเดินไปที่บ้านหลังเล็กๆ ข้างๆ เพื่อไปจิบค็อกเทลที่ Cocktail Bar ต่อได้ โดยทีมบาร์เทนเดอร์มากฝีมือพร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มที่เรารับรองว่าคุณไม่เคยได้ลิ้มลองที่ไหนมาก่อนให้เพลิดเพลินกัน

บาร์แห่งนี้มี Gabriel Valdés เป็น Bar Manager โดยมีบาร์เทนเดอร์คนเก่งอย่าง สุวิญชา สิงห์สุวรรณ เป็นบาร์เทนเดอร์คนไทยประจำการ เครื่องดื่มต่างๆ ณ บาร์แห่งนี้มีการนำผลไม้ดองที่นับว่าเป็นเอกลักษณ์สไตล์นนอร์ดิกมาผสมทำให้แปลกใหม่ โดยเมนูโดดเด่นของบาร์ที่เราอยากให้ลองคือ Chlorophyll highball ค็อกเทลรสชาติสดชื่น ให้ความรู้สึกเสมือนยืนอยู่ในป่าแถบสแกนดิเนเวีย 

ผู้ที่สนใจอยากลิ้มลองรสชาติแปลกใหม่ที่ Villa Frantzen นำเสนอสามารถจองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ของทางร้านได้แล้ววันนี้ ส่วน Villa Frantzen Cocktail Bar เปิดประตูต้อนรับแขก walk-in ทุกวันตั้งแต่เวลา

อ่านเพิ่มเติม: เปิดตัว “อวานี เฉวง สมุย โฮเทล แอนด์ บีช คลับ” ที่พักสไตล์เรโทรสุดมันส์

---

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine