การลงทุนทองคำ ในปี 2564 อาจเป็นหนังคนละม้วนกับปี 2563 ที่ทองคำคือ “สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย หรือ safe haven” ของนักลงทุน เพราะในยามที่เศรษฐกิจทั้งโลกเผชิญภาวะถดถอยรุนแรงจากวิกฤตโควิด-19 ราคาทองคำโลกและราคาทองคำในไทยพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดถึง 2,063.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์
ในตอบจบเรามาอ่านความคิดเห็นของ กูรูในเรื่องการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับ asset allocation อย่าง ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ยังคงมีคำแนะนำให้ลงทุนในทองคำสัดส่วนเท่าไร หลังจากตลอดปี 2563 โบรกเกอร์ค่ายนี้แนะให้นักลงทุนลงทุนทองคำสัดส่วน 1-5% ของพอร์ต รวมถึงมุมมองของ ณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนผู้ก่อตั้งสถาบัน Creative Investment Space ที่มีต่อการลงทุนทองคำ
ทองคำยังน่าลงทุน
ณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนผู้ก่อตั้งสถาบัน Creative Investment Space กล่าวว่า ปี 2563 เป็นปีที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับราคาทองคำที่ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 2,076 เหรียญต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่ตลาดหุ้นถูกเทขายทั่วโลกจากวิกฤตโควิดและหากใครที่ซื้อทองคำในช่วงที่ราคาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,448 เหรียญและขายที่จุดสูงสุดจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 45%
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้ถูกเทขายมาอย่างต่อเนื่องหลังจากขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ เหตุผลหลักมาจากพัฒนาการของการค้นพบวัคซีนต้านไวรัสโควิด ทำให้เริ่มมีความเชื่อมั่นว่าวงจรเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้ในเร็วๆ นี้ สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจึงถูกเทขาย
“นอกจากนี้ ก็เริ่มเกิดคำถามแล้วว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนและยังเป็นขาขึ้นได้อีกหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวผมยังคงมองว่าทองคำคือ หนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการลงทุน และการที่ราคาลงมาในระดับหนึ่งยังทำให้เกิดอัพไซด์เกนที่น่าสนใจอีกด้วย
“สำหรับเหตุผลที่ผมมองว่า ทำไมราคาทองคำจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้ เพราะแม้ว่าจะมีการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิดขึ้นมาได้ แต่การกระจายให้คนทั้งโลกได้มีโอกาสเข้าถึงยังต้องใช้เวลาอีกสักพักไม่ได้รวดเร็วมากนัก” ณพวีร์กล่าว

ประเทศเกิดใหม่ต้องการทองคำ
ผลจากการที่เศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่จะเป็นประเทศที่ยังคงมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกในปี 2564 รวมถึงประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือ Emerging Market ที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศพัฒนาแล้ว จึงมีโอกาสที่จะเกิดความต้องการซื้อทองคำกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่หายไปในปี 2020 ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยผลักดันราคาทองคำ
ถ้าจะถามว่า มองเป้าหมายผลตอบแทนจากราคาทองคำไว้อย่างไรในปี 2564 หากใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ระดับราคา 1,800 เหรียญ ถือเป็นแนวรับที่สำคัญของทองคำ นอกจากเป็นตัวเลขทางจิตวิทยาแล้วยังเป็นแนวต้านสำคัญที่ทองคำสามารถ breakout ผ่านมาได้ในปี 2020 ในทางเทคนิคจึงทำหน้าที่เป็นแนวรับต่อจากจุดสูงสุดเดิมที่ 1,926 เหรียญ ซึ่งทำหน้าที่เป็นอีกแนวรับสำคัญเช่นกัน
หากทองคำยังไม่หลุดจากระดับ 1,800 เหรียญจะยังคงแนวโน้มไซด์เวย์เพื่อรอฟื้นตัวกลับมาเป็นขาขึ้น แต่หากหลุดลงจากระดับดังกล่าวแนวโน้มมีโอกาสที่จะพลิกกลับเป็นขาลงได้ เป้าหมายทางเทคนิคของทองคำ หากสามารถกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 2,076 ได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 2,467 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวต้านที่ Fibonacci Retracement 161.8 ซึ่งจะมีอัพไซด์เกนประมาณ 36% หากเข้าซื้อที่ระดับประมาณ 1,800 เหรียญ
ทองคำจึงยังเป็นสินทรัพย์ที่ยังน่าสนใจในการลงทุนในปี 2564 ราคาที่ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดทำให้เกิดอัพไซด์เกนที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ต้องบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมากที่ต้องจับตา “กลยุทธ์การเทรดทองในปี 2564 จึงน่าจะเป็นการอาศัยจังหวะที่ราคาย่อตัวและเข้าซื้อเพื่อหวังทำกำไรในระยะกลาง ส่วนผู้ที่ต้องการถือลงทุนในระยะยาวก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน”
เรื่อง: ยินดี ฤตวิรุฬห์ ภาพ:5 เสือเยาวราช
อ่านเพิ่มเติม:
การลงทุนทองคำ ปี ’64 Safe Haven บางส่วน ตอนที่ 1
การลงทุนทองคำ ปี ’64 Safe Haven บางส่วน ตอนที่ 2
คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine



