ศุภาลัยเปิดตัวคอนโดมิเนียมฝั่งธนบุรี 3 โครงการ 3 ทำเลรวด ตลาดพลู-แยกไฟฉาย-เจริญนคร เริ่ม 1.61 ล้านบาท รวมมูลค่า 5,770 ล้านบาท มองตลาดคอนโดฯ ระดับกลางถึงกลางล่างปีนี้ฟื้นตัว 10% เหตุผู้บริโภคมั่นใจการเมือง-อัตราปฏิเสธสินเชื่อลด
ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียม 3 โครงการสุดท้ายของบริษัทในปีนี้ ทั้งหมดในเดือนกันยายน รวมมูลค่าโครงการ 5,770 ล้านบาท โดยบริษัทมีการกระจายทำเลไปในฝั่งธนบุุรีเกาะแนวรถไฟฟ้า 3 สาย และแบ่งระดับราคาแตกต่างกันเพื่อตอบสนองลูกค้าทุกกลุ่ม ได้แก่
1.ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู
- มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท
- ทำเล 250 เมตรจากสถานี BTS ตลาดพลู (สายสีเขียวเข้ม)
- พื้นที่ 4 ไร่ 1 อาคารสูง 34 ชั้น จำนวน 785 ยูนิต
- ห้องชุดแบบ สตูดิโอ-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 27-72 ตร.ม.
- ราคาเริ่ม 1.61 ล้านบาท
2.ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย
- มูลค่าโครงการ 1,170 ล้านบาท
- ทำเลบนถนนพระเทพฯ 350 เมตรจากสถานี MRT แยกไฟฉาย (สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ)
- พื้นที่ 2 ไร่ 1 อาคารสูง 24 ชั้น จำนวน 366 ยูนิต
- ห้องชุดแบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35-77 ตร.ม.
- ราคาเริ่ม 2.17 ล้านบาท
3.ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร
- มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท
- ทำเลบนถนนลาดหญ้า ติดสถานีรถไฟฟ้าคลองสาน (สายสีทอง กรุงธนบุรี-ประชาธิปก)
- พื้นที่ 5 ไร่ 1 อาคารสูง 26 ชั้น จำนวน 578 ยูนิต
- ห้องชุดแบบ 1-3 ห้องนอนและเพ้นท์เฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอย 34-331 ตร.ม.
- ราคาเริ่ม 3.1 ล้านบาท
สำหรับโครงการศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู และศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย จะเปิดพรีเซลวันที่ 7-13 ก.ย.นี้ ที่เดอะ มอลล์ ท่าพระ ด้านศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร จะเปิดพรีเซลวันที่ 22-24 ก.ย.60 ที่สำนักงานขายโครงการ
จับช่องว่างทำเลธนบุรี
ไตรเตชะ กล่าวว่า มีความมั่นใจในการเปิดขายทั้ง 3 โครงการฝั่งธนบุรีหลังจากได้รับผลตอบรับเกินคาดจากโครงการ
ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ เมื่อเดือนสิงหาคม มียอดขายแล้ว 60% และหลังมีการโฆษณาทั้ง 3 โครงการไปบางส่วนมีลูกค้าแสดงความสนใจสอบถาม เข้าชมห้องตัวอย่างและลงทะเบียนแล้ว
และศุภาลัยมีการวิเคราะห์ข้อมูลรายทำเลที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ พบว่า
ทำเลตลาดพลู-คลองสาน มีห้องชุดเปิดขายทั้งหมด 8,283 ยูนิต ยอดขายทั้งทำเล 71% (รวมถึงคอนโดฯ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีตลาดพลูที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้มียอดขาย 70% ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยทำเล) อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกในกลุ่มราคา 1-2 ล้านบาท พบว่ามีเปิดขาย 1,487 ยูนิต โดยมียอดขายแล้ว 87% จึงมองว่าทำเลนี้ดีมานด์ต้องการห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาทเป็นหลัก
ด้านทำเล
บางกอกน้อย ซึ่งตรงกับทำเลของศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย พบว่ามีคอนโดฯ เปิดขาย 4,258 ยูนิต มียอดขายแล้ว 71% แต่อีกเช่นกัน เมื่อเจาะลึกในทำเลพบว่าห้องชุดขนาดใหญ่ราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท มีเพียง 570 ยูนิตและขายไปแล้ว 90% ทำให้ศุภาลัยเลือกจัดห้องชุดในโครงการทำเลแยกไฟฉายของบริษัทเป็นห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนคิดเป็นสัดส่วนค่อนข้างสูง 22% ของโครงการ
"ผังเมืองมีส่วนมากกับทำเลนี้ เพราะผังเมืองสีน้ำตาลที่อนุญาตให้สร้างตึกสูงจะกินบริเวณรอบๆ ถนนจรัญสนิทวงศ์เท่านั้น แต่เลยไปช่วงรอบถนนราชพฤกษ์เป็นต้นไปจะเป็นผังเมืองสีเขียวทแยงขาวซึ่งสร้างที่อยู่อาศัยได้เฉพาะบ้านขนาด 100 ตร.ว.ขึ้นไป ทำให้มีช่องว่างของผู้ซื้อที่ต้องการพื้นที่อาศัยอยู่กับครอบครัวแต่กำลังซื้อไม่เพียงพอและไม่ต้องการจะซื้อบ้านแฝดที่ห่างเมืองออกไปหลายกิโลเมตร กลุ่มนี้จะสนใจซื้อห้องชุดคอนโดฯ ขนาดใหญ่ใกล้เมือง นอกจากนี้โครงการนี้ยังใกล้รพ.ศิริราช ทำให้มีกำลังซื้อที่สนใจเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มหนึ่ง" ไตรเตชะกล่าว
ทำเลหัวมุมถนนลาดหญ้า-ถนนสมเด็จเจ้าพระยา โครงการศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร
คอนโดฯกลางถึงกลางล่างฟื้น
เอ็มดีศุภาลัยกล่าวต่อไปว่า สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ มองว่า
กลุ่มตลาดกลางถึงกลางล่างเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวสูงมียอดขายฟื้นตัวราว 10% คาดว่าเกิดจากผู้ซื้อเริ่มมั่นใจในสภาพการเมืองที่แน่นอนขึ้น และสถาบันการเงินเริ่มผ่อนคลายการอนุมัติสินเชื่อ ยกตัวอย่างศุภาลัยมีรีเจ็กต์เรตลดเหลือต่ำกว่า 8% เทียบปีก่อนที่มากกว่า 8% ทำให้
ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจซื้อมากขึ้น และเชื่อว่าแรงส่งนี้จะสะท้อนไปถึงปลายปี
ด้านการเปิดตัวโครงการใหม่ เชื่อว่าดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่จะเร่งเปิดตัวภายในเดือนกันยายน ขณะที่ไตรมาส 4 จะเป็นช่วงเวลาของการไว้อาลัยและเน้นทำกิจกรรมการตลาดในโครงการเก่าเป็นหลัก
