ยุวดี จิราธิวัฒน์ “With great power, comes great responsibility” - Forbes Thailand

ยุวดี จิราธิวัฒน์ “With great power, comes great responsibility”

FORBES THAILAND / ADMIN
17 Jun 2014 | 11:19 AM
READ 1812

สตรีผู้นี้ คือทายาทรุ่น 3ของตระกูล “จิราธิวัฒน์”กุมบังเหียนดูแลห้างเซ็นทรัล มากว่า 30 ปีล่าสุดได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Forbes Asia ฉบับเดือนมีนาคม2556 ให้ติด 1 ใน 50 นักธุรกิจหญิงผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชียประจำปี 2556 ภายหลังจากติดอันดับมาแล้วในปี 2555

ด้วยประสบการณ์และวิสัยทัศน์อันแหลมคม ยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัลจำกัด สามารถนำพาธุรกิจที่เธอดูแลทะยานไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและมีตัวเลขการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ควบคู่ไปกับการวางยุทธศาสตร์เดินหน้าขยายกิจการในอาเซียนและยุโรปอย่างเต็มสูบ พร้อมภารกิจใหญ่คือการสร้าง เซ็นทรัล ให้เป็นห้างที่ดีที่สุดของโลก ฝีมือการบริหารของ ยุวดี ไม่เพียงปรากฏโดดเด่นในไทย ทว่าโด่งดังได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะในปี 2547ยุวดี คือผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็น President ของ Intercontinental Group of Department Stores (IGDS) สร้างชื่อเสียงให้ชาวไทยบนเวทีธุรกิจห้างสรรพสินค้านานาชาติ “ยุมีโอกาสคลุกคลีกับงานของครอบครัวมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถม พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เริ่มช่วยงานด้านบริการและการขาย ทั้งการห่อของขวัญจนถึงเป็น cashier ประกอบกับได้เห็นคุณพ่อและคุณอาดำเนินธุรกิจนี้มาตลอด ทำให้ซึมซับและรักงานตรงนี้มาก ยุเชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตามหากได้ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ เราจะทำสิ่งนั้นได้ดีแน่นอน” ผู้บริหารหญิงแกร่งแห่ง เซ็นทรัล เริ่มการสนทนา เธอเอ่ยถึง สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ผู้เป็นบิดา และ วันชัย จิราธิวัฒน์ ผู้เป็นอาระหว่างพาเดินชมห้าง เซ็นทรัล ชิดลม ซึ่งถือเป็น Flagship Store ของเซ็นทรัล และเป็นสาขาที่สร้างรายได้มากสุด ยุวดี สำเร็จปริญญาตรีจากคณะ ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหลังจบปริญญาโทสาขาโฆษณาจาก Northwestern University ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เริ่มทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดวางแผนการใช้สื่อและบริหารงานลูกค้า ที่ Ogilvy Mather Advertising จากนั้นขึ้นเป็นผู้อำนวยการบริหารงานลูกค้า ก่อนที่ปี 2524จะเข้ามารับช่วงดูแลกิจการห้างเซ็นทรัลของตระกูลอย่างเต็มตัว ประเดิมตำแหน่งแรกด้วยการเป็น Store Merchandising Manager ดูแลสินค้าและการบริการหน้าร้าน และย้ายมาทำด้านจัดซื้อต่อมาจนถึงตำแหน่งในปัจจุบัน โดยนำประสบการณ์จากองค์กรเดิม อาทิ การสร้างแบรนด์สินค้าชื่อดัง การทำโฆษณาและบริหารธุรกิจโฆษณา ฯลฯ มาปรับใช้ในการบริหาร ความที่ห้างสรรพสินค้ามีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ มากมาย ทำให้ ยุวดี ลงความเห็นว่าธุรกิจนี้เหมาะเจาะ สอดคล้องและลงตัวกับธรรมชาติของ “ผู้หญิง” ที่สุด
“Retail is very detailed” เป็นสิ่งที่ผู้บริหารหญิงอย่าง ยุวดี ซึ่งมีพนักงานในความดูแลกว่า 5,000 คน เน้นอยู่เสมอ ตรงกับความเป็นผู้หญิงที่มีความละเอียดอ่อนอยู่ในตัว ช่างสังเกต จดจำ และยังมีความมุ่งมั่น อดทนสูง เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด “ผู้บริหารเซ็นทรัล 80-90% จึงเป็นผู้หญิง ถ้าระดับ Top Management ก็100% อาจมีผู้ชายคนเดียวในแง่ของ StorePlanning เพราะผู้หญิงมีรายละเอียดเยอะตรงนั้นยังไม่ดี ต้องเพิ่มเข้าไปหน่อย ตรงนี้ดีแล้ว แต่ลองปรับอีกนิด ธุรกิจห้างมีอะไรให้ตื่นเต้นอยู่เสมอ ทำตรงนี้เสร็จทำตรงนู้นต่อ ผู้ชายอาจไม่ชอบงานจุกจิกก็ได้”ผู้บริหาร “เบอร์หนึ่ง” พูดพลางหัวเราะ หลายปีที่ผ่านมา เซ็นทรัล สามารถขยายสาขาครอบคลุมพื้นที่หัวเมืองใหญ่ในแต่ละภูมิภาคได้ครบถ้วน และสร้างรายได้เป็นเม็ดเงินมหาศาล โดยปลายปีที่ผ่านมาสามารถปิดยอดขายรวมทุกหน่วยธุรกิจค้าปลีกที่อยู่ในห้างเซ็นทรัลที่ 54,000 ล้านบาทยอดขายเติบโต 18.8% คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13% กระนั้น ยุวดี ก็ยังไม่หยุดนิ่ง เธอบอกว่าแผน 5 ปีต่อจากนี้คือเพิ่ม เซ็นทรัล อย่างน้อย 6-7 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยปลายปีนี้วางแผนเปิด เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ และ เซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าในเมืองไทยให้เด่นชัดยิ่งขึ้น พร้อมกันนั้นก็ขยายธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งในตลาดโลกในนาม บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด นำโดย ทศ จิราธิวัฒน์ ผู้เป็นน้องชาย ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทั้งการรุกภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ศูนย์การค้า Grand Indonesia ใจกลางกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียขณะเดียวกันก็เตรียมขยายกิจการในประเทศเวียดนาม เนื่องจาก 2 ประเทศนี้มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เท่านั้นไม่พอ เซ็นทรัล ยังรุกยุโรป เริ่มด้วยการทุ่มทุนกว่า 11,000 ล้านบาทซื้อ La Rinascente ห้างหรูในประเทศอิตาลี ตามด้วยซื้อกิจการ Illum ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นห้างชั้นนำในกลุ่มชาว Scandinavia และคาดหวังจะขยายไปทั่วยุโรป “เราเลือกลงทุนในจุดที่มีกำลังซื้อดี และสามารถสร้างยอดขายได้ดีเป็นพื้นฐานส่วนที่เราเลือกลงทุนในตลาดยุโรปแม้ว่าเศรษฐกิจที่นั่นอยู่ในช่วงขาลง เป็นเพราะเรามองว่านี่คือโอกาสการลงทุนที่ไม่สูงนัก มีคนอยากขายธุรกิจใหญ่อยู่มากราย แต่มีคนซื้อน้อย อย่างไรก็ตามการลงทุนทำธุรกิจต่าง