คลื่นลูกใหม่อสังหาฯ เล็งปรับวิธีคิดรับแลนด์สเคปธุรกิจเปลี่ยนสู่ Living Solutions Provider เดินหน้าตามแผน “SC Re-Invention 2020” สร้างยอดขายรวมทะยานมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ย้ำภาพผู้นำบ้านเดี่ยวพรีเมียม พร้อมขยับฐานแมสครอบคลุมกลุ่มผู้อยู่อาศัย
“ประสบการณ์ที่ได้รับผสมผสานทั้งด้านบริหาร สถาปัตยกรรม การตลาด การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และที่ปรึกษา ทำให้เรามีมุมมองกว้างขึ้น สามารถสื่อสารได้กับคนหลากหลายหน้าที่ เพราะงานพัฒนาอสังหาฯ เหมือนผลิตภัณฑ์ชิ้นใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนหลายเรื่อง ขณะที่มุมมองสถาปัตย์ฯ ทำให้เราเข้าใจมิติผลิตภัณฑ์ลึกขึ้น”
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการปรับความรู้ที่ผ่านมาด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ MBA จาก DePaul University สหรัฐอเมริกา และยังสั่งสมความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายบทบาทหน้าที่ ก่อนจะเข้าสู่บ้านเอสซี แอสเสท ปี 2555
จากวันแรกในบ้านหลังใหญ่ที่มีโครงการในมือกว่า 30 โครงการและเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากพันล้านบาทสู่หมื่นล้านบาทในช่วงเวลา 10 ปี ผู้บริหารรุ่นใหม่เรียนรู้ที่จะลดอุณหภูมิความต้องการเร่งสร้างความเปลี่ยนแปลงในทศวรรษต่อมาโดยให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจธุรกิจและเสริมทัพความแข็งแกร่งของบริษัทให้สามารถเติบโตพร้อมกันในระยะยาว
“สิ่งที่ต้องทำก่อนเปลี่ยนแปลงคือ รู้จักตัวเอง รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ในวันนั้นเราทำหลายอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เพราะทีมไม่ได้วิ่งไปกับเรา ผมต้องถอยออกมาก้าวหนึ่ง เราต้องรู้ว่าบริษัทเราแข็งแรงเรื่องไหน และต้องเติมเรื่องไหน ผมดึงตัวเองให้ช้าลง เพื่อเดินไปด้วยกันกับทีม”
สำหรับจุดแข็งของบริษัทยุคแรกในมุมมองของณัฐพงศ์อยู่ที่การเอาใจใส่ดูแลทั้งทีมงาน ลูกค้า และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาเครดิตตามเงื่อนไขสัญญาที่ระบุไว้ ทั้งสถาบันการเงิน คู่ค้า หรือผู้อยู่อาศัย ส่งผลให้เกิดการแนะนำบอกต่อและความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่สร้างการเติบโตให้บริษัทได้อย่างแข็งแกร่ง
ถอดสมการ Human-Centric
ณัฐพงศ์พร้อมปรับวิธีคิดนำบริษัทก้าวสู่บริบทใหม่ ซึ่งมุ่งเน้นในการเป็น
“Living Solutions Provider”ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย ด้วยการทำงานเชื่อมโยงกันภายใต้ ecosystem ที่มีสมาชิกหลากหลายและมีการเชื่อมต่อระหว่าง ecosystem เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่มากกว่าผลิตภัณฑ์และบริการ
สำหรับการทำงานร่วมกันใน ecosystem ของ 3 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่ม
incumbents หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดิม และกลุ่ม
tech entrepreneurs ทำงานด้วยความรวดเร็วและสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงกลุ่ม
digital giants ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มขยายขนาดและขอบเขตการทำธุรกิจครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
“เรื่องหลักในวันนั้นคือคุณภาพ แต่วันนี้มี 3 เรื่อง ได้แก่ รู้ใจ คุณภาพ และนวัตกรรม เราเปลี่ยนความคิดใหม่ลูกค้าต้องการอะไร และใช้ชีวิตอย่างไรเราต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะในโลกยุคใหม่วิธีคิดเปลี่ยน บริบทเปลี่ยน เพราะมีเรื่อง digital technology มา disrupt เราไม่ได้วิ่งคนเดียวบนโลก แต่ละอุตสาหกรรมทำงานร่วมกันเป็น ecosystem ทุกคนมีหลายบทบาท ทั้งคู่แข่งหรือคู่ค้าแยกกันยากมาก”
ภายใต้วิธีคิดใหม่ของความร่วมมือตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคบนภูมิทัศน์ธุรกิจใหม่ ณัฐพงศ์เดินหน้า 4 กลยุทธ์ตาม
“SC RE-INVENTION 2020” ซึ่งเป็นโรดแมปหรือแผนการทำงานของบริษัท 3 ปี (2561-2563) นำโดยกลยุทธ์ RE-INVENTION จากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่การเป็นผู้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยผ่าน 3D ได้แก่ Digitize, Design และ Develop
สำหรับกลยุทธ์ CO-CREATION ซึ่งบริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรในระบบ ecosystem เราใช้แพลตฟอร์ม
“Rue Jai” และกลยุทธ์ QUALITY FIRST หรือการให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและบริการ ซึ่งแบ่งออกเป็นก่อนและหลังการโอน หรือก่อนและหลังการขาย
ส่วนการบริการหลังการขายในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทได้ก่อตั้งบริษัทย่อยชื่อ
บริษัท เอสซี เอเบิล จำกัดเพื่อ “สอน” และ “ซ่อม” ด้วยการเปิด
Able Academy สถาบันอบรมพัฒนาช่างฝีมือ และอบรมทีม รปภ. ที่ดูแลความปลอดภัยให้โครงการภายใต้ SC ทั้งหมด และสถาบันนี้จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสังคมไทยด้วยการยกระดับช่างฝีมือในประเทศ
ขณะเดียวกันบริษัทยังร่วมลงทุนกับ
Fixzy สตาร์ทอัพอนาคตไกลที่สร้างแอพพลิเคชั่นรวบรวมสารพัดช่างอันดับ 1 ของไทย ส่วนอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าทำหน้าที่เป็น secured income โดยปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่อาคารสำนักงานเพื่อเช่ารวม 110,000 ตรม. หรือมีสัดส่วนของกำไรสุทธิสูงถึง 1 ใน 4 ของทั้งหมด
ก้าวสู่โรดแมป 6 หมื่นล้าน
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 ณัฐพงศ์สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทำลายสถิติทั้งยอดขายรวมและแนวราบ โดยยอดขายรวมเติบโต 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 1.53 หมื่นล้านบาท และแนวราบเติบโต 33% อยู่ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท
ในปีนี้บริษัทได้วางเป้าหมายยอดขายและรายได้จำนวน 1.7 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 11% และ 36% ตามลำดับจากแผนการเปิดโครงการใหม่ 19 โครงการมูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมโครงการที่เปิดขายทั้งหมดในปีนี้ที่ 58 โครงการมูลค่ารวม 5.6 หมื่นล้านบาท
“วันนี้สภาพตลาดมีรูปแบบของดีมานด์หลากหลาย เช่น คอนโดฯ 5 ล้านบาทเหมือนกันแต่รสนิยมของผู้อยู่อาศัยต่างกันเราจึงนอกจากนี้ร่วมลงทุนกับคุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ เปิด บริษัท สโคป จำกัด ช่วยเพิ่มสไตล์ที่หลากหลายให้กับกลุ่มคอนโดฯ เราไม่ได้เน้นที่เซกเมนต์กลุ่มไฮเอนด์หรือแมสแต่เป็นความเข้าใจและความถนัดมากกว่าเช่น คนชอบไอศกรีมเหมือนกันแต่คนละรสชาติ เราอาจจะถนัดวานิลลาหลายแบบส่วนสโคปถนัดช็อกโกแลต” ณัฐพงศ์ กล่าว
ณัฐพงศ์เชื่อมั่นว่าในทุกความเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยพลังของทีมงานจำนวนกว่าพันคนในบริษัทเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนความสำเร็จ โดยผู้บริหารวัย 38 ปีมุ่งมั่นสร้างความสุขจากภายในองค์กรบนหลักความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตหรือ work life balance เพื่อให้การทำงานทุกวันมีความสุขและสามารถเติบโตไปพร้อมกันในระยะยาว รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเกี่ยวกับวิธีคิดและทัศนคติการเอาใจใส่ดูแลในทุกด้าน
ภาพ: เอกพงศ์ ตันติผลประเสริฐ