ดิศนิติ โตวิวัฒน์ DOS ผสานพลังปั้นแบรนด์มหาชน - Forbes Thailand

ดิศนิติ โตวิวัฒน์ DOS ผสานพลังปั้นแบรนด์มหาชน

ทายาทอาณาจักรธรรมสรณ์กรุ๊ป สานต่อภารกิจปั้นแบรนด์ DOS สร้างความต่างถังเก็บน้ำสัญชาติไทยด้วยมาตรฐานระดับโลก พร้อมผนึกกำลังองค์กรผ่าน Working Together ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตเพื่อทุกคุณภาพชีวิตสู่การเป็นบริษัทชั้นนำแห่งภูมิภาคอาเซียน

    

    มากกว่า 3 ทศวรรษบนเส้นทางการดำเนินธุรกิจที่เริ่มต้นก้าวแรกจากความมุ่งมั่นตั้งใจช่วยบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดยเฉพาะด้านการจัดการทรัพยากรน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการทั้งปริมาณและคุณภาพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ด้วยการเก็บน้ำและบำบัดน้ำเสียให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องร่วมกับการปลูกฝังและถ่ายทอดปณิธานสำคัญให้ทายาทยึดเป็นคัมภีร์กุมบังเหียนอาณาจักรของครอบครัว

    “ช่วงที่คุณพ่อและเพื่อนร่วมกันก่อตั้งบริษัทในปี 2534 ผมมีอายุประมาณ 1 ปี ตอนเด็กๆ จะวิ่งเล่นในโรงงานประจำจนซึมซับและรู้ว่าเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องสานต่อธุรกิจครอบครัวเพื่อให้ทุกคนมีน้ำสะอาดใช้ เพราะน้ำเป็นพื้นฐานของการมีชีวิต โดยธุรกิจของเราสามารถมีส่วนช่วยเหลือสังคมในด้านนี้ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา”


สั่งสมประสบการณ์ บริหารงานและคน

    ดิศนิติ โตวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด เริ่มต้นเล่าถึงการเตรียมตัวรับไม้ต่อในฐานะบุตรชายคนโตของ ธิติ โตวิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ในปัจจุบันโดยสั่งสมความรู้ระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และฝึกงานที่โตโยต้า มอเตอร์ ไทยแลนด์ ด้านการดูแลบริการหลังการขายก่อนศึกษาต่อสาขาบริหารระหว่างประเทศที่ นคร Shanghai ประเทศจีน เพื่อเรียนรู้ภาษาจีนสำหรับการต่อยอดธุรกิจในอนาคต 

    หลังเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศจนกระทั่งพร้อมรับบททดสอบความสามารถในการรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัวในวัย 23 ปี ดิศนิติเริ่มต้นการบริหารทีมงานและสร้างการเติบโตให้กับ บริษัท ฌาณตา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธรรมสรณ์ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับเงินแท้ 99.99% ด้วยนวัตกรรมการสังเคราะห์ซิลเวอร์นาโนให้เป็นซิลเวอร์เคลย์ที่เน้นการออกแบบเป็นเอกลักษณ์ชิ้นเดียวในโลกแบรนด์ shannta

    นอกจากนี้ ดิศนิติยังสอบผ่านบทพิสูจน์การพัฒนาระบบโรงงานและการบริหารพนักงานจำนวนนับร้อยคนใน บริษัท เรโปร เฮ้าส์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเกี่ยวกับการผลิต จำหน่าย ออกแบบ และรับติดตั้งประตูและหน้าต่างอะลูมิเนียมแบรนด์ Lynn รวมถึงพื้นไม้ รั้ว ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการก่อสร้าง และฝ่ายขายงานโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยได้เรียนรู้ทักษะการติดต่อสื่อสารและความต้องการของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกัน

    “การดูฝ่ายขายของ Lynn ทำให้ได้วิชาการดีลกับคนที่มีเอกลักษณ์ความเป็นตัวเองและความต้องการต่างกัน ขณะที่สินค้าในมือเรามีให้ทุกคนเหมือนกัน โดยเรามีโอกาสได้ปรับปรุง พัฒนา และเรียนรู้จากผู้ใหญ่ในโรงงาน รวมถึงพี่ๆ ตามไซต์งานที่สอนอะไรหลายอย่างให้กับเรา”

 

รับโจทย์ใหญ่ ปั้นแบรนด์ให้อยู่ในใจลูกค้า

    ภายในเวลาไม่กี่ปีดิศนิติสามารถเรียนรู้ระบบงาน การขายสินค้า การทำราคา และการบริหารต้นทุน พร้อมแสดงฝีมือของคลื่นลูกใหม่ปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการทุกหน่วยงานในองค์กรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสร้างความเชื่อมั่นให้รับโจทย์การพัฒนาธุรกิจหลักของกลุ่มธรรมสรณ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังเก็บน้ำบนดิน ถังเก็บน้ำใต้ดินถังดักไขมัน ถังบำบัดน้ำเสีย และงานออกแบบ ระบบบำบัดน้ำเสีย ภายใต้แบรนด์ DOS

    “เราได้รับโจทย์หลักจากคุณพ่อให้สร้าง DOS เป็นแบรนด์ในใจของลูกค้า ซึ่งตอนนั้นถังเก็บน้ำเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่ค่อยสนใจแบรนด์ แต่จากความสามารถของทีมเซลส์ที่รวบรวมความต้องการของลูกค้าและทีม R&D ของเรา ทำให้สินค้าของเราสามารถฉีกจากคู่แข่งในตลาดและประสบความสำเร็จกลายเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของประเทศ”

    ทายาทธุรกิจวัย 32 ปีกล่าวถึงโจทย์ที่ได้รับในการพัฒนาธุรกิจและความสำเร็จในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าจนกระทั่งได้รับความไว้วางใจและยอมรับจากภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ ร้านวัสดุก่อสร้าง บริษัทผู้รับเหมา ห้างโมเดิร์นเทรด และกลุ่มลูกค้าทั่วไป

    “DOS เป็นแบรนด์ภายใต้ธรรมสรณ์กรุ๊ป ส่วน DOS Life โฟกัสที่ธุรกิจของน้ำ ทั้งถังเก็บน้ำ ถังบำบัดน้ำเสียขนาดบ้านเรือน ขนาดอาคาร ถังดักไขมัน โดยมีแบรนด์ลูกอื่นๆ ใน DOS เช่น DOS Greenovation, DOS Corporation ซึ่งจากการลงทุนโรงงานที่พร้อมให้บริการลูกค้าทั่วประเทศทำให้เราเป็น nation brand ขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในแต่ละภาค ทำให้เราเจอคู่แข่งแต่ละภาคไม่เหมือนกัน”



    ทั้งนี้ ธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัทธรรมสรณ์ ได้แก่ DOS Greenovation ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ และ DOS Corporation โดย บริษัท สยามเวสท์ แมเนจเม้นท์ คอนซัลแทนท์ (เอเชี่ยน) จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมและจัดการระบบของเสียอย่างครบวงจรทั้งภาคอุตสาหกรรมและขยะชุมชน รวมถึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาไทย กระทรวงการคลัง ซึ่งมีผลงานด้านที่ปรึกษา เช่น การศึกษาออกแบบโครงการส่งเสริมการผลิตพลังงานจากขยะชุมชน (ต้นแบบระบบผลิตพลังงานจากขยะ) ของกระทรวงพลังงาน

    ส่วน DOS Life ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มถังเก็บน้ำและถังบำบัดน้ำเสียรวมถึงพัฒนาระบบการทำงาน (Think Tank) และถังน้ำขนาดใหญ่ ผู้ผลิตและติดตั้งระบบ biogas โดยมีโรงงานกระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้แก่ โรงงานสมุทรสาครสำหรับส่งสินค้าจำหน่ายในกรุงเทพฯ โดยภาคเหนือมีโรงงานที่จังหวัดลำพูน ภาคใต้มีที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดสงขลา (หาดใหญ่) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่นจำนวน 2 โรงงานและจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซียเพื่อส่งออกถังเก็บน้ำสัญชาติไทยให้สร้างชื่อในต่างประเทศ

    “การส่งออกของเราครอบคลุมกลุ่มประเทศ AEC เกือบทั้งหมด รวมถึงส่งออกไปมัลดีฟส์และถังบำบัดเข้ายุโรป โดยประเทศไทยยังเป็นตลาดหลักที่ทำยอดขายสูงสุด รองลงมาเป็นอินโดนีเซียที่เรามีโรงงานอยู่ เรามั่นใจว่าในอาเซียนเราไม่แพ้ใครเรื่องนวัตกรรม ความแข็งแรงและความสวยงาม ส่วนในไทยมีผลสำรวจจากสถาบันที่ได้รับการรับรองในระดับนานาชาติว่าเราเป็นเบอร์ 1 ของประเทศ”


บริษัทดูแลและแก้ปัญหาเรื่องน้ำอย่างครบวงจร ได้รับความไว้วางใจจากโครงการต่างๆ 
ทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยความเชี่ยวชาญภายใต้แนวคิด Total Water Management


    ขณะเดียวกันดิศนิติยังพัฒนาช่องทางการซื้อขายออนไลน์ให้สอดคล้องกับความต้องการและแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พร้อมจับมือพันธมิตรธุรกิจเปิดตัว บริษัท ออลคอนส์ วัน จำกัด และ ALLKONS แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการจัดการวัสดุก่อสร้างที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อบริหารจัดการซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก วิศวกร สถาบันการเงินผู้รับเหมา ช่องทางจัดจำหน่าย โรงงานผู้ผลิต เจ้าของโครงการ ทั้งยังมีการจัดงาน ALLKONS On Tour ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรทางการค้าออกบูธแสดงสินค้าในแต่ละภาคทั่วประเทศ เช่น สินค้ากลุ่มประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจากแบรนด์ Lynn สินค้ากลุ่ม home appliance เครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายแบรนด์ เป็นต้น

    “เราเริ่มนำสินค้าที่เกี่ยวกับซัพพลายเชนของเราจำหน่ายมากขึ้น เช่น ปั๊มน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า โรงงานที่ไม่มีพนักงานขายสามารถส่งมาให้เราขายในโครงการของเราได้ เพราะบ้านทุกหลังต้องมีถังเก็บน้ำ เราจะมีข้อมูลว่าบ้านไหนกำลังจะสร้างและจะส่งไปที่ไหน รวมถึงมีพนักงานขาย 300-400 คนพร้อมขายสินค้า และเรายังมีแอปพลิเคชันสำหรับเซลส์และร้านค้าที่ช่วยให้ซื้อขายสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยในอนาคตลูกค้าทั่วไปจะเข้าถึงแพลตฟอร์มนี้ได้ด้วยเช่นกัน”


 

องค์กรแข็งแกร่ง ต่อยอดธุรกิจเติบโต

    บทพิสูจน์ความสำเร็จการพัฒนาธุรกิจที่ผ่านมาของดิศนิติสะท้อนชัดในผลการดำเนินงานที่สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยรายได้ 3.19 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 376.24 ล้านบาท ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานให้พร้อมเผชิญกับความท้าทายทั้งการทรานส์ฟอร์มของเทคโนโลยีและวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยปรับสัดส่วนการทำงานในรูปแบบ work from home ให้ทำงานที่บริษัทเหลือ 40% และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายบริษัทยังคงใช้ระบบการทำงานแบบไฮบริดต่อเนื่อง

    “เราเชื่อว่าองค์กรที่จะแข็งแรงได้จะต้องเกิดจากภายในก่อน ถ้าทีมงานมี mindset ว่าการทำงานไม่ใช่หน้าที่ แต่เป็น hobby จะทำให้มีความสุขและทำงานด้วยความเต็มใจ เราต้องช่วยให้พนักงานสามารถ balance life และ work ได้ลงตัว เมื่อพนักงานมีความสุขเกิดความรักในองค์กรแต่ละคนก็พร้อมช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

    ขณะเดียวกันการสร้างแบรนด์ภายนอกองค์กรยังคงมุ่งเน้นที่การพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ด้วยการออกแบบและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายและแตกต่างจากตลาด เช่น ถังเก็บน้ำคู่ปั๊มน้ำ (Water Pac) นวัตกรรมถังเก็บน้ำที่สามารถประหยัดพื้นที่และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น โดย DOS Water Pac Pro ยังได้รับรางวัล Good Design Award และรางวัล Demark Design Award การันตีความคิดสร้างสรรค์ คุณภาพและประโยชน์ใช้สอย รวมถึงบริษัทยังสามารถคิดค้นเทคโนโลยี Ag+ COMBAC Antimicrobial ซึ่งช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ 99.99% ผ่านการรับรองโดยมหาวิทยาลัยมหิดล สวทช. และฉลากนาโน (NanoQ) รับรองโดยสมาคมนาโนเทคโนโลยีรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

    ทั้งนี้ ดิศนิติยังเตรียมพร้อมรับความท้าทายจากการแข่งขันและเทรนด์อนาคตด้วยนวัตกรรมเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยังมีแผนต่อยอดธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น การเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าควบคู่กับถังเก็บน้ำ พร้อมทั้งวางเป้าหมายการเติบโตจากภายในองค์กรที่มีการทำงานร่วมกันและมีความสุขกับการทำงาน เพื่อส่งต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์สู่ภายนอกให้รับรู้ถึงการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญการจัดการน้ำครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

เรื่อง: พรพรรณ ปัญญาภิรมย์  ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์

THE NEXT TYCOONS


อ่านเพิ่มเติม: 


​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine