“ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์” นำธรรมะเสริมแกร่ง TISCO เติบโตอย่างยั่งยืน - Forbes Thailand

“ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์” นำธรรมะเสริมแกร่ง TISCO เติบโตอย่างยั่งยืน

จากวิศวกรหนุ่มที่ข้ามสายงานสู่เส้นทางที่ชอบ คือจุดเปลี่ยนสำคัญของ “ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์” ที่ในปัจจุบันเขาก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ ดูแลกิจการทิสโก้ทั้งกลุ่ม ประกอบไปด้วย บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ กิจการไฟแนนซ์ รวมถึงธนาคารทิสโก้


    งานตำแหน่งวิศวกรไม่ใช่เรื่องยากสำหรับบัณฑิตวิศวกรรมศาตร์ (โยธา) (เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ทว่ามันไม่ใช่แพสชั่นที่แท้จริงของวิศวกรหนุ่ม เขาจึงพยายามเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อข้ามสายงานมาสู่สิ่งที่ชอบมากกว่า คือจุดเปลี่ยนของ “ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์” เมื่อ 30 ปีก่อน ปัจจุบันเขาก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ ดูแลกิจการทิสโก้ทั้งกลุ่มซึ่งมีทั้งบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ กิจการไฟแนนซ์ รวมถึงธนาคารทิสโก้ เป็นองค์กรใหญ่ที่เติบโตแข็งแกร่งมากว่า 53 ปี

    ศักดิ์ชัยเริ่มงานกับทิสโก้มาตั้งแต่ปี 2536 ไต่เต้ามาจากพนักงานบริหารระดับกลาง รับผิดชอบดูแลงานด้านครีเอทีฟและมาร์เก็ตติ้ง หลังจบการศึกษา Master of Business Administration (International Business), University of Hawaii at Manoa สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้ทุนเป็นตัวแทนนักศึกษาหนึ่งเดียวจากประเทศไทยในปีนั้น เพื่อไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ เส้นทางที่เปลี่ยนชีวิตและงานเขาอย่างสิ้นเชิง



- ข้ามสายงานวิศวกรสู่การเงิน -

    ระหว่างที่ได้ทุนเรียนต่างประเทศศักดิ์ชัยได้รู้จักนักเรียนทุนซึ่งเป็นพนักงานของทิสโก้ ได้ทราบว่าทิสโก้ดูแลพนักงานเป็นอย่างดี และมีโมเดลธุรกิจที่เป็นประโยชน์กับสังคม เมื่อสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศเขาจึงเดินเข้ามาสมัครงานกับทิสโก้และอยู่กับทิสโก้ตั้งแต่อายุ 25-26 ปี ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ล่วงเลยมาเกือบ 30 ปี เส้นทางสู่การเป็นผู้บริหารสูงสุดของทิสโก้สำหรับศักดิ์ชัยทุกอย่างคือการเรียนรู้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวมาเป็นสมาชิกในครอบครัวทิสโก้

    งานหลักที่ศักดิ์ชัยดูแลในช่วงนั้นคือ งานด้านครีเอทีฟ มาร์เก็ตติ้ง และการบริหารจัดการ จัดโครงสร้างด้านการตลาดต่างๆ ประสบการณ์ช่วงนั้นทำให้เขาได้รู้จักร้านค้ารถจักรยานยนต์จำนวนมากที่เป็นพาร์ตเนอร์ของทิสโก้ นอกจากดูแลด้านครีเอทีฟและการตลาดแล้ว ศักดิ์ชัยยังมีโอกาสได้ดูแลงานด้านติดตามหนี้ ทำให้ได้เรียนรู้ครบวงจรธุรกิจการปล่อยสินเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก แต่การเก็บเงินอาจยากหน่อย จำเป็นต้องมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพและการจัดการที่ดี


ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้


    หลังจากนั้นทิสโก้ก็เริ่มมีประสบการณ์ในธุรกิจเช่าซื้อยานยนต์มากขึ้น เมื่อกลุ่มยนตรกิจได้เข้ามาชวนทิสโก้ทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ทางทิสโก้ได้ชวนอิโตชู คอร์ปอเรชั่น จากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมด้วยเป็น 3 พารต์เนอร์ก่อตั้งกิจการเช่าซื้อรถยนต์ขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ตั้งแต่ปี 2539 คือ บริษัท ไทยคอมเมอร์เชียล ออโต้ จำกัด ซึ่งปัจจุบันจดทะเบียนเลิกกิจการไปแล้ว

    “ช่วงนั้นเริ่มเข้าใกล้วิกฤต 2540 ฟองสบู่แตก แบงก์ชาติประกาศปิดสถาบันการเงินที่ขาดสภาพคล่อง 56 ไฟแนนซ์ แต่ TISCO อยู่รอดปลอดภัย” ศักดิ์ชัยย้อนอดีตความท้าทายที่ผ่านมาได้

    แม้สถานการณ์ภาพรวมเลวร้ายก็ตามบริษัทเช่าซื้อรถยนต์สามารถคืนทุนได้เร็ว แต่ภายหลังเมื่อประธานกลุ่มยนตรกิจถึงแก่กรรมได้มีการแบ่งทรัพย์สินและแบรนด์ต่างๆ ออกไป หลังจากนั้นศักดิ์ชัยถูกย้ายกลับมาอยู่ทิสโก้ ดูแลด้านสินเชื่อทำให้เขาได้รับผิดชอบงานมากขึ้น จากแค่เช่าซื้อรถยนต์มาเป็นรีเทลโปรดักต์ของทิสโก้ทั้งหมด ทำมาได้สักระยะหนึ่งเขาได้ลาไปอุปสมบท

    ในช่วงที่บวช 3 เดือน ศักดิ์ชัยได้เรียนรู้เรื่องพุทธศาสนาและซาบซึ้งในรสพระธรรมถึงขั้นจะบวชไม่ยอมสึกเพื่อจะได้เรียนรู้ธรรมะมากขึ้น “ผมโทรมาลาออกจาก TISCO อยากบวชต่อเพราะศรัทธาในพุทธศาสนามาก ยิ่งเรียนรู้ยิ่งศรัทธา” เขาอธิบายเหตุผลของการที่คิดจะลาออกหลังบวชได้ครบ 1 พรรษา แต่ในที่สุดเขาก็ไม่ได้ลาออกเนื่องจากซีอีโอของทิสโก้ในขณะนั้นขอให้เขาทำงานต่อ

    เมื่อกลับไปทำงาน งานที่ศักดิ์ชัยรับช่วงต่อคือ การดูแลทรัพยากรบุคคล (HR) เขารับงานนี้เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคน เป็นสิ่งที่เขาต้องการพัฒนาหลังจากได้ศึกษาธรรมะก็อยากเผยแพร่ให้คนได้เรียนรู้ไปด้วย การพัฒนาคนดูเป็นแนวทางที่ไปด้วยกันได้ดี


- หลักธรรมนำการบริหาร -

    “ยอมรับว่าประทับใจจากการที่เราไปปฏิบัติธรรมมา ได้ความสุขความสงบจากการปฏิบัติธรรม น่าจะแชร์ให้กับคนหลายคนได้ลองปฏิบัติธรรม สมาธิทำให้ชีวิตมีสมดุล มีความสุขทั้งชีวิตและการทำงาน” นั่นคือความแข็งแรงด้านจิตใจที่เขาได้รับจากการบวชเรียน 

    มันทำให้จิตใจแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรก็สามารถแก้ปัญหาจากภายในได้ ศักดิ์ชัยต้องการแบ่งปันความรู้เหล่านี้จึงกลับมาทำงานกับทิสโก้ต่อเพราะสนใจเรื่องคน จึงคิดพัฒนาเรื่องการบริหารทรัพยากรบุคคล และได้แนวทางการบริหารบุคคลสมัยใหม่

    นอกจากบริหารงานบุคคลศักดิ์ชัยเล่าว่า เขายังมีโอกาสที่ดีในการได้เป็นผู้ช่วยซีอีโอติดตามไปในงานประชุมสำคัญๆ หลายแห่งทำให้มีความรู้ในธุรกิจต่างๆ ของบริษัทอย่างรอบด้าน ทั้งในเรื่องของแผนธุรกิจและรายละเอียดของการดำเนินงาน เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านั้นด้วยความสนุกและเรียนรู้ไปกับทุกเรื่อง จังหวะดีเมื่อครั้งทิสโก้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ การดูแลทรัพยากรบุคคลทำให้เขาได้รู้ความเป็นไปขององค์กร และได้เห็นปฏิกิริยาของพนักงานที่มีต่อองค์กรควบคู่ไปด้วย เขาเดินหน้าพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง 



    รางวัลต่างๆ คือตัวอย่างความสำเร็จที่ศักดิ์ชัยย้ำว่า ทุกก้าวย่างคือการใส่ใจพนักงาน “ผมกล้าพูดแบบไม่ใช้คำสวยงามเลยว่า เราให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอันดับแรก ขณะที่หลายบริษัทอาจบอกว่า ลูกค้ามาที่ 1 แต่ TISCO พนักงานต้องดีก่อนจากนั้นบริการที่ดีจะตามมา” นี่คือหลักคิดที่ซีอีโอกลุ่มทิสโก้วางไว้ชัดเจนและถือเป็นคัมภีร์สู่ความสำเร็จ เมื่อทีมงานแข็งแกร่งมีสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดีย่อมทำให้การทำงานดี เมื่อการทำงานดีก็ย่อมส่งผลต่อสินค้าและบริการที่ดีให้กับลูกค้า


- ปันแนวคิดสุขจากภายใน -

    ความเอาใส่ใจในทีมงานไม่ได้ดูเพียงผลตอบแทนที่จัดให้อย่างเหมาะสม แต่ดูแลสารทุกข์สุกดิบของทีมงาน ดูแลชีวิตและครอบครัว เช่น โครงการช่วยพนักงานปลดหนี้ก็เป็นอีกแนวปฏิบัติที่ศักดิ์ชัยนำมาใช้กับพนักงานเมื่อพบว่าพนักงานหลายคนมีปัญหาภาระหนี้สินล้นพ้นตัว เขาไม่รีรอที่จะนำปัญหานี้มาดูแลแก้ไข ให้พนักงานทุกคนสามารถอยู่ได้ โดยทำโครงการรวมหนี้แก้ไขให้พนักงานอยู่ได้ด้วยรายได้ที่เป็นปกติ อยู่ดีมีสุขอย่างพอเพียงควบคู่การสอนเรื่องการใช้จ่ายที่เหมาะสม และวางกรอบห้ามก่อหนี้เกินตัวรอบใหม่

    พร้อมกับการแก้ปัญหา ศักดิ์ชัยยังเผยแพร่แนวทางการใช้ชีวิตด้วยการบริหารสติจากการทำสมาธิ ซึ่งเป็นอีกแนวปฏิบัติของซีอีโอกลุ่มทิสโก้ที่ใช้มาตลอด “ผมใช้การนั่งสมาธิในการเคลียร์สมองให้โล่งทุกคืนก่อนนอนและทุกเช้าก่อนมาทำงาน” เขาบอกเล่าอย่างเรียบง่ายพร้อมยกตัวอย่างว่า การทำสมาธิก็เหมือนการอาบน้ำชำระร่างกายที่ปกติเราทำประจำทุกวันเช้า-ค่ำ สมองก็เช่นเดียวกันต้องการชำระล้างให้สะอาดเพื่อเริ่มใช้ใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ

    “การจัดสมดุลให้กับชีวิตที่พูดไปทำให้ได้ทั้งร่างกายและจิตใจ ร่างกายดี จิตใจดี เราก็จะสามารถทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้” ก่อนจะปิดท้ายการพูดคุยในวันนั้นศักดิ์ชัยย้ำว่า “คนเราควรจะมีชีวิตที่ดี และหนทางที่จะทำให้ชีวิตดีอาจไม่ต้องพึ่งพาวัตถุภายนอกเพียงอย่างเดียว ต้องรู้จักสร้างความสุขจากภายใน” จากแนวคิดการใช้ชีวิตสู่แนวทางการบริหารที่เน้นสร้างความแข็งแรงจากภายในทำให้องค์กรทิสโก้มีทีมงานที่แข็งแรงอยู่กับบริษัทอย่างยาวนาน พร้อมสร้างการเติบโตให้องค์กรได้อย่างยั่งยืน


ภาพ: API

อ่านเพิ่มเติม:

>> สุธาสินี สุดประเสริฐ โลกสีเขียวใบน้อยที่คิดใหญ่ของ Happy Grocers

>> วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ นำ "เบทาโกร" โตยั่งยืนในธุรกิจเกษตร-อาหาร


คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2565 ในรูปแบบ e-magazine