เมล็ดพันธุ์ที่แตกยอดจากธุรกิจอาหารสัตว์สู่พลังงานและอสังหาริมทรัพย์พร้อมแตกกิ่งก้านเป็นไม้ใหญ่ในอาณาจักรแพทโก้ ด้วยการผนึกศักยภาพของลูกไม้ใกล้ต้นร่วมกันขับเคลื่อนสร้างความแข็งแกร่ง ภายใต้การกุมบังเหียนของ สืบวงษ์ สุขะมงคล ผู้นำทัพรุ่น 2 ที่ เปิดแผนยุทธศาสตร์บัญชาการธุรกิจคว้าโอกาสทองบนความเปลี่ยนแปลง
ในฐานะบุตรชายคนโตของสุทินและวิจิตรา สุขะมงคล ซึ่งได้สัมผัสกับธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายวิ่งเล่นในศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ หรือสังเกตการณ์ลูกเจี๊ยบที่ตู้ฟักไข่ก่อนคัดแยกใส่ถาดนำส่งต่อ รวมถึงติดตามมารดาดูที่ดินและพูดคุยกับเจ้าของที่ดินในช่วงวันหยุด พร้อมทั้งสั่งสมความรู้และประสบการณ์ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ตลอดเส้นทางการสืบทอดอาณาจักรของ ดร. สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป และบริษัทในเครือ “การเรียนหนังสือที่อัสสัมชัญศรีราชาทำให้เราได้เตรียมพร้อมทั้งภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ก่อนจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งได้เป็นประธานชมรม ISEC ที่มีสมาชิกประมาณ 5,000 คน จาก 18 ประเทศทั่วโลกเน้นด้านเศรษฐศาสตร์การเงินและการบริหารธุรกิจ โดยเคยจัดกิจกรรมตลาดนัดแรงงาน 2 ครั้ง และทำตลาดหุ้นจำลอง จนได้รับสารจากท่านมารวย ผดุงสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ในขณะนั้น รวมถึงเป็นเจ้าภาพเชิญนักศึกษาทั่วโลกแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน” นอกเหนือจากการศึกษาปริญญาตรี สาขาบริหารการเงิน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่ ดร. สืบวงษ์สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 ได้สำเร็จ ทายาทลูกไม้ใกล้ต้นยังให้ความสำคัญกับการสั่งสมความรู้เพิ่มเติมที่เกี่ยวเนื่องกับอาณาจักรของครอบครัวด้วยการศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเกี่ยวกับด้านเครื่องยนต์โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จนได้รับประกาศนียบัตรช่างเครื่องยนต์ดีเซล และศึกษาต่อปริญญาโท General Management ที่ Seattle University สหรัฐอเมริกา ในปี 2536 โดยภายหลังได้ศึกษาปริญญาเอกหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ในปี 2556 “หลังจากจบหอการค้าใหม่ๆ ผมสนใจการลงทุนในตลาดหุ้น และเริ่มลงทุนทำกำไรให้ครอบครัวได้ 20 ล้านตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ หลังจากนั้นก็มาช่วยคุณพ่อคุณแม่ดูเรื่องภาษีหรือบัญชีต่างๆ ก่อนจะไปเรียนต่อโทที่ Seattle ซึ่งเป็นเมืองกำเนิด Microsoft โดยผมศึกษาคอมพิวเตอร์ตั้งแต่มหาวิทยาลัยแล้ว เพราะต้องทำจดหมายต่างๆ และกรรมการผู้จัดการบริษัท IBM ขณะนั้นก็เป็นที่ปรึกษาของชมรม ISEC ประเทศไทยด้วย ซึ่งเพื่อนของผมก็เป็นคนเขียนโปรแกรมต่างๆ ทำให้ผมสนใจเรียนเรื่องการเขียนโปรแกรมเพิ่มและช่วงที่เรียนต่างประเทศก็ได้กระบวนการคิดมาพอสมควร” ทันทีที่สำเร็จการศึกษาปริญญาโทและเดินทางกลับประเทศไทย ดร. สืบวงศ์พร้อมรับภารกิจพัฒนาโครงการวิจิตราธานีในด้านการก่อสร้าง การตลาด และการขออนุญาตจัดสรรที่ดินด้วยยประสบการณ์ที่เคยทดลองชิมลางทำงานดูแลการก่อสร้างในโครงการสามมุขธานี ซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรแรกในจังหวัดชลบุรี ทำให้ทายาทคนโตของสุขะมงคลสามารถรับโจทย์สร้างการเติบโตท่ามกลางวิกฤตการณ์ได้สำเร็จ “โครงการแรกที่ทำหลังเรียนจบในปี 2536 ถือเป็นโจทย์ยาก เพราะโครงการวิจิตราธานีมีพื้นที่ขนาดใหญ่ 1,750 ไร่ และคุณพ่อผมเสียในปี 2537 หรือหลังจากเริ่มโครงการเพียง 1 ปี บวกกับช่วงวิกฤตการณ์ปี 2540 ตอนนั้นเราแบ่งทำเป็นเฟส โดยเฟสบ้าน ทะเลสาบ และสนามกอล์ฟ 18 หลุมเสร็จแล้วแต่ธนาคารที่สนับสนุนเปลี่ยนมือ ในส่วนที่ทำไม่เสร็จเราก็คืนเงินและดำเนินการให้เรียบร้อย จนกระทั่งมีโครงการมารวยต่อเนื่องมา ซึ่งมีน้องสาวเป็นผู้ดูแล” ดร.สืบวงษ์ กล่าวถึงการมอบหมายให้ ดร. นวณัฐ นำทัพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกันในช่วงวิกฤตค่าเงินปี 2540 ยังเป็นก้าวแรกของลูกไม้ใกล้ต้นในการรับภารกิจดูแลปรับโครงสร้างหนี้และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้กับกลุ่มการเกษตรและอาหารสัตว์ (Patco Agro) ซึ่งเป็นธุรกิจแรกของครอบครัวสุขะมงคล และการนำเข้าอาหารสัตว์เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทย ยังสามารถสร้างรายได้หลักให้กับกลุ่มบริษัทในปัจจุบัน นอกจากนั้น ทายาทคนโตของสุขะมงคลยังสนใจเข้าไปเรียนรู้ธุรกิจเครื่องยนต์ของครอบครัวตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะโรงเจียรคว้านของบิดา ซึ่งเป็นสถานที่ประจำในการพักผ่อนหรือรับประทานอาหารรอบิดาเลิกงาน พร้อมช่วยดูแลการทำงานในส่วนต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย จนกระทั่งน้องชาย (ทองหล่อ) สำเร็จการศึกษา และนั่งเก้าอี้รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท พัฒนายนต์ชลบุรี จำกัด หรือกลุ่มแพทโก้ในด้านธุรกิจเครื่องยนต์ (Patco Power) “ทั้งหมดเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันจาก Patco Agro ก่อนคือ ฟาร์มไก่ ฟาร์มไข่ ฟาร์มฟักไข่เป็นลูกเจี๊ยบ โรงสีข้าวรับซื้อข้าว อาหารสัตว์ เครื่องยนต์การเกษตร ปุ๋ย สารเคมีการเกษตร เป็นคลื่นลูกที่ 1 ซึ่งช่วงหลังไม่ได้ทำฟาร์มไก่แต่หันมาทำอาหารสัตว์อย่างเดียว จากนั้นก็เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องกลเกษตร เช่น ปั๊มน้ำ จนเติบโตเป็น Patco Power โดยมีการซ่อมเรือรบ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เป็น backup ของสนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องตัดหญ้า เกียร์เรือ เครื่องเรือ รวมถึงคุณแม่เริ่มซื้อที่ดินตั้งแต่อายุ 17 สะสมแลนด์แบงก์เป็น Patco Property” เล็งโอกาสขยายอาณาจักร ภายใต้การนำทัพของบรรดาขุนพลสุขะมงคลที่สามารถแบ่งบทบาทหน้าที่กันอย่างลงตัวโดยมี ดร. สืบวงษ์เป็นผู้กุมบังเหียนอาณาจักรทั้ง 3 ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ หรือ Patco Agro ธุรกิจพลังงาน หรือ Patco Power รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือ Patco Property “สัดส่วนรายได้หลักปัจจุบันยังเป็น Agro แต่สินทรัพย์จะเป็น Property ที่มีประสิทธิภาพการเติบโตสูงมาก ซึ่ง Power ปัจจุบันมีรายได้ที่ใกล้เคียงกับ Property แต่เป็นรายได้ที่ต่อเนื่องตลอด และเรามีชื่อเสียงมานานทั้งการซ่อมบำรุง อะไหล่ ISO มาตรฐาน รวมถึงสนใจแตกไลน์ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ หรือ medical โดยในอนาคตสัดส่วนรายได้ Agro น่าจะยังนำอยู่จากยอดขายรวมประมาณ 3.5 พันล้านบาท ต้องการเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาทใน 3 ปี นำโดย Agro รายได้ 3 พันล้านบาท ส่วน Property 1.5 พันล้านบาท และ Power ประมาณ 1 พันล้านบาท” สำหรับกลยุทธ์ที่วางไว้ในแต่ละธุรกิจมุ่งเน้นการต่อยอดสร้างการเติบโตให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง โดยให้ความสนใจเพิ่มธุรกิจใหม่จากอาหารสัตว์เป็นผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับคน เนื่องจากเล็งเห็นความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในประเทศไทย เช่น ข้าว ลำไย ทุเรียน อ้อย พร้อมส่งไม้ต่อให้บุตรชายคนโตคือ ธนภัทร์ ร่วมสร้างทางธุรกิจใหม่หลังสำเร็จการศึกษาด้าน Food Science จาก University of Leeds ด้วยความรู้ที่ศึกษาด้านการผลิตโดยตรง และการพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้ “Agro อาจจะนำเข้าสินค้าตัวอื่นเพิ่มขึ้นหรือมากขึ้น เช่น DDGS และอาจจะทำ food business จากอาหารสัตว์อย่างเดียวเป็นอาหารคนเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ลูกชายผมเรียน Food Science ที่ University of Leeds ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ทางด้าน Food Science และเขามีไอเดียการสร้างมูลค่าเพิ่มจากเทคโนโลยีใหม่ในการแปรรูปอาหารและอาหารคนนอกเหนือจากการขายเฉพาะวัตถุดิบ โดยเขาคิดว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค รสชาติ ความสะอาด ความปลอดภัยด้านอาหารที่พัฒนาในจุดนี้ได้” ส่วนธุรกิจพลังงานได้วางกลยุทธ์มุ่งเน้นด้านการให้บริการหลังการขายทั้งศูนย์ซ่อมและการบำรุงรักษา รวมถึงการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าชุมชน หรือโรงไฟฟ้าชีวมวลจากการใช้อาหารสัตว์เป็นวัตถุดิบผลิตไฟฟ้าพร้อมให้ความสนใจโอกาสสร้างการเติบโตในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) โดยเฉพาะเมียนมาและลาวที่มีความต้องการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าทั่วประเทศ เช่น โรงแรม และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น “ยุคก่อนหน้าจะเป็นช่วงก่อร่างสร้างตัวที่มีข้อดีคือ การสั่งสมเครดิตจากการค้าทำให้ขยายตัวได้มากและคู่แข่งน้อย ซึ่งในปัจจุบันแม้คู่แข่งจะมากกว่า แต่เราก็ไม่กลัว ในทางตรงกันข้ามการมีคู่แข่งมากขึ้นสามารถทำให้ตลาดเติบโตได้ รวมทั้งดอกเบี้ยในปัจจุบันที่ต่ำมากทำให้คนถือสินทรัพย์ได้เปรียบ และเป็นโอกาสของคนทำธุรกิจในการขยายกิจการหรือกู้เงินปรับปรุงเครื่องจักรได้ แต่ก็มีความท้าทายในเรื่องความเปลี่ยนแปลงโดย big data จะมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งเรามั่นใจว่า เราจะสามารถก้าวข้ามเทคโนโลยีดิสรัปชันได้จากทายาทรุ่น 3 ที่เริ่มเข้ามา พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในเรื่องการตลาดได้ทั้ง 3 กลุ่ม” เคล็ดลับในคัมภีร์ธุรกิจ ดร.สืบวงษ์ ปิดท้ายถึงคัมภีร์ธุรกิจของครอบครัวสุขะมงคลที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นให้ยึดหลักความซื่อสัตย์ ขยันอดทน และการพัฒนาบุคลากรหรือองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในทุกยุคทุกสมัย โดยมุ่งดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานแพทโก้ กรุ๊ป จำนวนกว่า 600 คน ผู้ถือหุ้น คู่ค้าซัพพลายเออร์ ธนาคาร ตลอดจนสังคมไทยให้สามารถเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน “เราเน้นธุรกิจที่มีกำไรและลดความเสี่ยงโดยอาจจะหาคนเก่งมาช่วยและให้ผลตอบแทนอย่างยุติธรรม โดยเรายังเน้นเรื่อง workable ถ่ายทอดให้ลูกๆ ต้องฝึกงานทุกแผนกเป็นการเตรียมตัว ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนการเป็นหัวหน้าวงดนตรีที่ต้องหัดร้องเพลงและเล่นดนตรีเป็นด้วย เขาต้องศึกษาก่อนว่าทำได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็อาจจะเป็นผู้ถือหุ้นอย่างเดียว เขาควรเลือกทำด้านที่ถนัดและมีความสุข เพราะปรัชญาการทำงานของสุขะมงคลคือ ความสุขและมงคล ดังนั้นเราต้องการส่งมอบความสุขและสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ทั้งตัวเราเอง คู่ค้า ธนาคาร และทุกคน ตรงนี้เป็นหลัก” อ่านเพิ่มเติม: วิจิตรา สุขะมงคล สร้างอาณาจักร “แพทโก้” บนพื้นฐานความซื่อสัตย์คลิกอ่านฉบับเต็ม “LAND BILLIONAIRE สุขะมงคล” และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine