Benchmark Capital: 5 หนุ่มผู้สร้างมาตรฐานวงการ VC - Forbes Thailand

Benchmark Capital: 5 หนุ่มผู้สร้างมาตรฐานวงการ VC

FORBES THAILAND / ADMIN
09 Jul 2015 | 02:40 PM
READ 3836
หุ้นส่วนธุรกิจทั้ง 5 ของ Benchmark ถ่ายร่วมกันหน้าสำนักงานใน San Francisco ประกอบด้วย Bill Gurley, Mitch Lasky, Eric Vishria, Matt Cohler และ Peter Fenton
 
เรื่อง: ALEX KONRAD เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา (อ่านฉบับเต็ม "Benchmark Capital: 5 หนุ่มผู้สร้างมาตรฐานวงการ VC" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ JUNE 2015)

Uber เป็นการลงทุนล่าสุดของ Benchmark ที่ประสบความสำเร็จมหาศาล ผลการดำเนินงานของพวกเขาทำให้บริษัทร่วมลงทุน (venture capital) รายอื่นดูเหมือนใช้ทรัพยากรและพนักงานมากเกินไป

การสนทนาระหว่างมื้อค่ำเฉพาะกิจของบริษัทหนึ่งใน Silicon Valley Benchmark Capital เจ้าภาพมื้ออาหาร ที่ใช้ในโอกาสสำคัญสำหรับมื้อกลางวันกับหุ้นส่วนทางธุรกิจและมื้ออาหารเย็นกึ่งทางการกับบรรดาหัวกะทิในวงการธุรกิจเทคโนโลยีที่ได้รับเชิญโดยเฉพาะซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกสัปดาห์ มื้ออาหารเหล่านี้เป็นเหมือนการประชุมเฉพาะกิจที่มีการหารือและถกทุกเรื่อง ตั้งแต่อนาคตของเครือข่ายไร้สายที่เชื่อมโยงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ไปจนถึงปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของ Twitter

“ขนาดและรูปทรงของโต๊ะเหมาะสมที่สุดสำหรับให้คน 7 คนพูดคุยกัน” Bill Gurley หุ้นส่วนผู้มีส่วนร่วมในการบริหารซึ่งอยู่กับบริษัทมานานที่สุดกล่าว ไม่ใช่แค่ให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ให้ทุกคนมีสิทธิ์ออกเสียงเท่ากันเป็นกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจที่สำคัญของ Benchmark หลักการที่ทำให้ Benchmark แตกต่างจากคู่แข่งส่วนใหญ่ก็คือการให้ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเสมอภาคกัน ไม่มีใครสวมบท CEO รายได้ของบริษัทซึ่งมาจากค่าธรรมเนียมการจัดการที่อัตรา 2.5% และส่วนแบ่ง 30% จากผลกำไรที่มากกว่าเป้าหมายจะถูกแบ่งให้หุ้นส่วนทางธุรกิจเท่ากันทุกคน
ขณะที่บริษัทที่โด่งดังกว่าอย่าง Andreesen Horowitz หรือ Google ทุ่มทุนจ้างพนักงานมากมายในฝ่ายการตลาด ฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ดูแลลูกค้า ฝ่ายสรรหาบุคลากรและฝ่ายออกแบบภายในองค์กร

แต่ Benchmark ตัดสินใจดำเนินหลักการแบบมุ่งเน้นองค์ประกอบที่น้อยที่สุด เว็บไซต์ของบริษัทแสดงข้อมูลบนหน้าเดียวแบบเรียบง่ายมีแค่ลิงค์เชื่อมโยงไปยังหน้าอัพเดทบน Twitter ของบรรดาบริษัทที่พวกเขาลงทุน นอกจากนี้บริษัทยังตัดสินใจที่จะไม่ระดมทุนก้อนใหญ่ขึ้น แต่คงมูลค่าระดมทุนไว้ที่ต่ำกว่า 500 ล้านเหรียญ

“เราเป็นเหมือนวงดนตรีแจ๊ซมากกว่าวงโยธวาทิต” Peter Fenton หุ้นส่วนอีกคนกล่าว (เขาติดอันดับ 2 ของ Midas List) หลักการของ Benchmark อาจเป็นไปแบบสวนทาง แต่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในช่วง 20 กว่าปีหลังการก่อตั้ง บริษัทเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับยักษ์ใหญ่ในวงการอินเทอร์เน็ตหลายแห่ง เช่น Dropbox, eBay, Instagram, Yelp และ Zillow และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนการลงทุนยิ่งสูงขึ้นกว่าเดิม เงินลงทุน 32 ล้านเหรียญใน Twitter มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 พันล้านเหรียญในปัจจุบัน มูลค่าการลงทุน 21 ล้านเหรียญใน Snapchat ซึ่งนำโดย Mitch Lasky (ติดอันดับ 70 ของ Midas List) เติบโตสู่ระดับ 2 พันล้านเหรียญ ผลตอบแทนของ Benchmark จากการเข้าไปร่วมสนับสนุนลงทุนรายแรกๆ ใน Uber คือหุ้นที่มีมูลค่าประเมินราว 7 พันล้านเหรียญของยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเรียกรถรับส่ง เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ขนาดของกองทุนทำให้ Benchmark ต้องเดินเกมรุก มุ่งมั่น และตัดสินใจรวดเร็ว หนึ่งปีหลังรู้จักและสร้างความสนิทสนมกับ Matt Cohler หุ้นส่วนของ Benchmark (ติดอันดับที่ 63 ของ Midas List) ใน Davos เมื่อปี 2010 Josh James ประธานบริหารของ Domo ได้เสนอแผนธุรกิจใหม่ของตน Cohler ขอให้เขานำเสนอแผนธุรกิจกับหุ้นส่วนบริษัททุกคนในเช้าวันถัดไป ทั้งนี้ James ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการธรรมดา แต่เขาขาย Omniture ธุรกิจล่าสุดของเขาให้กับ Adobe ในมูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญ

Benchmark จับปลาตัวใหญ่ที่สุดที่เคยได้มาคือ Uber ด้วยแผนหยอกที่สื่อข้อความค่อนข้างชัดเจนไปยัง Travis Kalanick CEO ของบริษัทว่า เรารู้ว่าคุณกำลังเจรจากับคู่แข่งของเราอยู่แต่เรารู้จักแอพฯ ของคุณดีกว่าใคร ขณะที่ Cohler และ Gurley กำลังเตรียมตัวสำหรับการประชุมนำเสนอข้อมูล Cohler หันไปเห็นรถ Uber กำลังจอดรอ Kalanick อยู่ที่บริษัทธุรกิจเงินร่วมลงทุนแห่งหนึ่งในละแวกใกล้เคียงบนถนน Sand Hill Road “Matt จึงจัดการโทรเรียกรถคันนั้นออกไป ทำให้ Travis ต้องออกแรงวิ่งด้วยเท่าไปตลอดทางเพื่อเข้าประชุม” Gurley กล่าว “เขาเดินทางมาถึงในอีกประมาณ 20 นาทีต่อมาพร้อมเหงื่อท่วมตัว และคืนนั้นเราส่งรองเท้าเทนนิสไปให้เขา”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Benchmark ได้พัฒนาแนวทางที่เป็นเหมือนหลักดำเนินการพื้นฐาน โดยส่วนใหญ่ Benchmark จะมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่ทำการระดมทุนจากนักลงทุนสถาบันในรอบแรกหรือรอบที่สอง และต้องการมีสัดส่วนการลงทุนมากที่สุดในส่วนนักลงทุนภายนอก พร้อมที่นั่งในคณะกรรมการบริหาร ด้วยชื่อเสียงของบริษัทข้อเสนอการลงทุนราว 60% ของ Benchmark จึงมาจากการแนะนำบอกต่อหรือผู้ก่อตั้งธุรกิจหน้าเก่า Gurley กล่าว (ติดอันดับที่ 9 ของ Midas List)
 
สนามทดสอบฝีมือบรรดาผู้ก่อตั้งธุรกิจที่น่าเชื่อถือได้ก็คือโครงการพัฒนาความสามารถผู้ประกอบการหรือ EIR ซึ่งมีผู้เคยเข้าร่วมโครงการนี้ เช่น Nirav Tolia ประธานบริหารของ Nextdoor, Lew Cirne ประธานบริหารของ New Relic และ Dave Goldberg ประธานบริหารของ SurveyMonkey

Benchmark ไม่ได้ยึดมั่นหลักปฏิบัติของตนตลอดเวลา ในช่วงภาวะฟองสบู่ธุรกิจไอทีบริษัทวางเดิมพันที่จะขยายสู่ตลาดโลก โดยเปิดสำนักงานขึ้นใน London และ Tel Aviv แม้ว่าผลตอบรับจะเป็นที่น่าพอใจแต่ธุรกิจที่กระจายไปหลายทิศทางเริ่มเยอะเกินจะรับมือไหว Gurley พลาดการลงทุนใน Skype เนื่องจากพยายามส่งไม้ต่อให้พันธมิตรร่วมลงทุนจากยุโรป และสำนักงานที่ตั้งอยู่คนละประเทศเริ่มเข้าใจไม่ตรงกันโดยไม่มีใครรับบทบาท CEO ที่ชัดเจน ในปี 2007 พวกเขาเริ่มจำกัดการขยายธุรกิจและแยกส่วนการลงทุนในยุโรปและอิสราเอลออกไป

คำถามสำคัญสำหรับ Benchmark ในตอนนี้ก็คือ บริษัทจะมีวิธีรักษาผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของตนอย่างไรเมื่อมีหุ้นส่วนรายใหม่เข้าร่วมธุรกิจหลังจากที่ผู้มากประสบการณ์อย่าง Gurley และ Fenton ย้ายไปที่อื่น บริษัทกำลังหาคำตอบด้วยการเดินหน้าอย่างเอาจริงเอาจังเช่นเคย ในการประชุมหุ้นส่วนธุรกิจวันหนึ่งซึ่งปกติจัดขึ้นทุกวันจันทร์ พวกเขาใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงไล่ดูข้อมูลรายละเอียดของผู้สมัคร ขั้นตอนดำเนินอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดย Eric Vishria หุ้นส่วนธุรกิจคนล่าสุดทดลองงานอยู่นาน 10 เดือน บริษัทต้องการสรรหาหุ้นส่วนธุรกิจเพิ่มอีก 2-3 คนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดย Gurley กล่าวว่าเป้าหมายคือเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งจากช่วงอายุที่ต่างกันมากของทีมงานจนสร้างปัญหาให้กับบริษัทในธุรกิจเทคโนโลยีแห่งอื่นๆ “สิ่งนี้เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Benchmark เมื่อบรรดาผู้ก่อตั้งของเราอยู่ในช่วงที่มีอำนาจสูงสุด พวกเขาก็ยื่นกุญแจให้พวกเรา”

อ่านฉบับเต็ม "Benchmark Capital: 5 หนุ่มผู้สร้างมาตรฐานวงการ VC" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ JUNE 2015