GMM Music เปิดตัวโลโก้ใหม่ ตอบรับแผนการ Spin-Off จาก GMM Grammy ชูดีไซน์ที่สะท้อนแนวคิด Inclusivity ผ่านการใช้ลายเส้นและการวางตำแหน่งตัวอักษร ‘US’ ที่อยู่ในคำว่า music ให้โดดเด่นแตกต่าง เพื่อสื่อความเป็น “เราทุกคน” พร้อมปล่อยแคมเปญสื่อสารครบวงจร
แคมเปญนี้เริ่มจากสร้างการรับรู้ภายในองค์กรตอกย้ำความสำคัญของศิลปินและพนักงานทุกคนที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จในทุกย่างก้าวของบริษัท ตามด้วยแผนการสื่อสารสู่ภายนอกแบบปูพรม พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการสร้างโอกาสใหม่ของอุตสาหกรรม (New Music Economy) ที่ทุกคนในธุรกิจเพลงจะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีเอ็มเอ็ม มิวสิค กล่าวว่า “GMM Music มีเป้าหมายที่จะยกระดับและผลักดันโอกาสใหม่ๆ ของอุตสาหกรรม ที่ทุกคนในแวดวงดนตรีจะสามารถก้าวไปข้างหน้าและเติบโตไปพร้อมกัน เราจึงวางแนวทางการสื่อสาร Culture ของแบรนด์ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจเพลงครบวงจรที่มุ่งเน้นความมีส่วนร่วมของทุกคน (Inclusivity) เพราะดนตรีเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งจุดเริ่มต้นสำคัญคือการทำให้คนในองค์กรเข้าใจความหมาย เห็นภาพตรงกัน และมีประสบการณ์ร่วม”
ภาวิตอธิบายว่า “ด้วยแคมเปญการสื่อสารภายในที่สร้างการรับรู้ด้วยภาพที่ปรากฏอยู่ในลิฟต์ของตึก GMM Grammy Place เพื่อสื่อว่าศิลปิน และพนักงานทุกคน ในทุกหน้าที่ ทุกตำแหน่ง ล้วนเป็นความสำเร็จที่สำคัญของ GMM Music ก่อนที่จะปล่อยแคมเปญสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรสู่สาธารณชนในลำดับถัดไป”
ดมิสาฐ์ องค์ศิริวัฒนา Co-Founder และ Chief Creative Officer SOUR Bangkok ในฐานะที่ปรึกษาการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์ เผยว่า “GMM Music วางโจทย์ที่ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าต้องการสร้างวัฒนธรรมและประสบการณ์ใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เราแสดงไอเดียได้อย่างอิสระ จากการนำเสนอดีไซน์โลโก้ไปกว่า 40 แบบ เราได้เข้าใจว่า GMM Music ต้องการสื่อความสวยงามทางความคิดและความหมาย มากกว่าความสวยงามทางสายตา”
เธออธิบายแนวคิดการออกแบบโลโก้ใหม่ในครั้งนี้ว่า “เลือกดีไซน์และรูปแบบตัวอักษรที่ดูธรรมดา วางขนาดตัวอักษร GMM ให้เล็กกว่าคำว่า Music เพื่อสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมเพลงที่เหนือกว่าตัวบริษัท และค้นพบจิ๊กซอว์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในคำว่า ‘Music’ คือคำว่า ‘US’ ที่แปลว่า ‘เรา’ ตรงกับเจตนารมณ์ของ GMM Music ที่มุ่งสู่การสร้างความมีส่วนร่วมของทุกคน (Inclusivity) ให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมดนตรี จึงเติมลูกเล่นให้ตัว U และ S ด้วยฟ้อนต์ที่แตกต่าง และวาดเส้นสายเชื่อมต่อกันเพื่อสื่อถึงคำว่า ‘US’ กลายเป็นโลโก้ GMM Music ที่แสดงถึงความตั้งใจที่จะพาอุตสาหกรรมดนตรีก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์จากภายในสู่ภายนอกของ GMM Music ที่เริ่มจากการใช้ลิฟต์ในตึก GMM Grammy Place เป็นสื่อหลัก เมื่อลิฟต์ปิด จะเห็นภาพตัวแทนจากทุกแผนกของบริษัท ขนาบข้างด้วยภาพศิลปินในสังกัดทั้งหมด 80 แบบไม่ซ้ำกัน และจะปรากฏข้อความทิ้งท้ายว่า “More of US to come” ซึ่งสื่อให้เห็นว่าบนเส้นทางสู่การเติบโตครั้งใหม่นี้จะมีผู้เข้ามาร่วมเดินทางอีกมากมาย และนำไปสู่แคมเปญการสื่อสารภายนอกต่างๆ ซึ่งจะตามมาเร็วๆ นี้
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ขายเครื่องแล้ว ขายแฟรนไชส์ด้วย! LG เปิดตัวแฟรนไชส์ ‘ร้านสะดวกซัก’ ในไทยที่แรกในโลก
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine