บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO บริษัทในกลุ่มธุรกิจสื่อโฆษณา ของ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เผยผลการดำเนินงาน ไตรมาสแรก ปี 2562 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำรายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 149.3% หรือกว่า 689 ล้านบาท
การเติบโตของรายได้ส่วนใหญ่ของ MACO มาจากรายรับของการให้บริการด้านระบบครบวงจร ของ 
บริษัท ทรานส์แอดโซลูชั่น จำกัด และ 
บริษัท รอคเทคเทคโนโลยี จำกัด หรือ 
“Trans. Ad Group” ทั้งหมด 428 ล้านบาท สื่อประเภท Billboard และอื่นๆ ทำรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 15.7% หรือจำนวน 153 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนสื่อประเภท Street Furniture สู่หน้าจอแบบ LED และกล่องไฟ ทั้งหมด 23 สถานี ซึ่งได้ทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ จะเริ่มทำการบันทึกผลการดำเนินงานของสื่อ Street Furniture ในรูปแบบ Digital ได้อย่างเต็มที่ในปีนี้ช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 62
 Phoon Chiong Kit ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือMACO
Phoon Chiong Kit
 Phoon Chiong Kit ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือMACO
Phoon Chiong Kit ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือMACO ได้ขยายธุรกิจโฆษณาสู่ต่างประเทศมาเลเซีย ภายใต้ชื่อบริษัท 
VGM (VGI Malaysia) ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการเข้าจัดการพื้นที่สื่อโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมด 31 สถานี และบนขบวนรถไฟทั้งหมด 58 ขบวน รวมทั้งสื่อโฆษณาในสนามบิน ซึ่งสายรถไฟ SBK มีผู้โดยสารมากกว่า 150,000 คนต่อวัน ในส่วนของสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ MACOได้ทำการติดตั้งหน้าจอ Digital เพิ่มเติมอีกทั้งหมด 42 หน้าจอในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ดึงดูดสายตาจากผู้โดยสารมากกว่า 60 ล้านคนต่อปี

โดยช่วงไตรมาสแรกประเทศมาเลเซียประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซา ทำให้ส่งผลกระทบกับลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทฯ ในการลงสื่อที่สนามบิน เนื่องจากการลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา ซึ่งนำไปสู่การยกเลิกสัญญาระยะยาวบางส่วน ทำให้อัตรากำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นไตรมาสแรก ลดลงจากเดิม 19.1% เป็น 5.4% โดยMACO กำลังเร่งดำเนินการหาลูกค้ารายใหม่เพื่อทดแทนสัญญาเดิม ซึ่งเราคาดการณ์ว่าสถานการณ์ที่ประเทศมาเลเซียจะคลี่คลายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 62

ด้านตลาดอินโดนีเซีย ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีแดง (เหนือ-ใต้) ได้เปิดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีระยะทางรวมกว่า 15.7 กิโลเมตร ทั้งหมด 13 สถานี ในเดือนแรกของการดำเนินงานมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 80,000 คนต่อวัน และคาดว่าจะให้บริการผู้โดยสารได้มากกว่า 200,000 รายต่อวัน ซึ่ง 
บริษัท PT Avabanindo Perkasa (AVA) บริษัทร่วมของMACO ได้เปิดให้บริการพื้นที่โฆษณาภายในสถานีรถไฟฟ้า จำนวน 13 สถานี และบนขบวนรถไฟฟ้า จำนวน 16 ขบวน ทั้งนี้เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น บริษัทฯจึงคาดว่าตลาดอินโดนีเซียจะสามารถเริ่มสร้างผลตอบแทนในปีหน้า
Phoon Chiong Kit  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังกล่าวอีกว่า 
"แม้บริษัทฯ จะต้องเผชิญกับความผันผวนของแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกและจากอัตรากำไรสุทธิของเราที่คาดว่าจะลดลงจากปัจจัยข้างต้น แต่เรายังคงประมาณการอัตราการเติบโตรายได้ของMACO ที่ 30-35 เปอร์เซ็นต์ หรืออยู่ในช่วง 2.3–2.4 พันล้านบาท ซึ่งเราจะเปลี่ยนความท้าทายจากสถานการณ์ต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ในการค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในมาเลเซีย และนำไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทฯ ยิ่งขึ้นไปอีก"