เร่งเครื่องธุรกิจใหม่ปั๊มกำไร! ออริจิ้นฯ ขยาย ‘โรงแรม-คลังสินค้า’ ฝั่งอสังหาฯ ตั้งเป้าปี 68 ยอดขายแตะ 30,000 ล้าน - Forbes Thailand

เร่งเครื่องธุรกิจใหม่ปั๊มกำไร! ออริจิ้นฯ ขยาย ‘โรงแรม-คลังสินค้า’ ฝั่งอสังหาฯ ตั้งเป้าปี 68 ยอดขายแตะ 30,000 ล้าน

หลายปีมานี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยเจอความท้าทายมาหลายด้าน ที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและยอดขายที่ลดลง ไหนจะต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายบริษัทหันมาแตกไลน์ในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อหาทางสร้างสมดุลและมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ ล่าสุด ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เล่าถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งโรงแรมและคลังสินค้าที่จะมาช่วยสร้างรายได้และกำไรในระยะยาว แต่ธุรกิจหลัก ปี 2568 นี้ยังตั้งเป้ามียอดขาย 30,000 ล้านบาท รายได้รวม 14,000 ล้านบาท


    นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ปี 2568 ยังมีปัจจัยเสี่ยงในหลายด้าน ยิ่งทำให้ต้อง Resilience มากขึ้น นำสู่กลยุทธ์ Resilience Leads To Sustainable Growth ที่จะสร้างความยืดหยุ่นในองค์กรเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

    หนึ่งในสิ่งที่ ORI เริ่มทำในช่วงที่ผ่านมา คือการลงทุนและขยายกลุ่มธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้และกำไรในระยะยาว ได้แก่ ออริจิ้น โฮเทล ธุรกิจโรงแรมที่ปัจุจบันมีอยู่ 9 แห่งทั่วไทย (รวมถึงบริษัทร่วมทุน) มีจำนวนห้องพักรวมกว่า 2,000 ห้อง ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้โรงแรม กว่า 1,472 ล้านบาท เติบโต 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ EBITDA ที่ 514 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74%YoY

    ในปี 2568 นี้มีแผนจะเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่งในกรุงเทพฯ (Re-opening จากที่ซื้อเข้ามาในปี 2566) ภูเก็ต และเชียงใหม่ รวมทั้งหมด 764 ห้อง โดยในปี 2570 คาดว่าจะมีโครงการรวม 12 แห่ง จำนวนห้องพัก 3,000 ห้อง และมีมูลค่ารวม 4,000-7,000 ล้านบาท

    ขณะที่ธุรกิจ Logistics and Warehouse (คลังสินค้า) ที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเทรนด์โลจิสติกส์ มีบริษัทในเครืออย่าง บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น โดยในไตรมาส 1 ปี 68 มีพื้นที่กว่า 383,039 ตารางเมตร จากคลังสินค้า 9 แห่งที่อยู่ในทำเลยุทธ์ศาสตร์ เช่น รังสิต, บางนา กม.22, บางนา กม.19, บางนา กม.23, แหลมฉบัง, พานทอง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และในอีก 5 ปี ข้างหน้าตั้งเป้าจะขยายพื้นที่คลังสินค้าเป็น 1 ล้านตารางเมตร



    ทั้ง 2 ธุรกิจใหม่นี้อยู่ภายใต้ 5 ธุรกิจหลักของ ORI ที่เป็น Holding Company โดยอีก 3 ธุรกิจ ได้แก่

    1) บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL ดูแลกลุ่มคอนโดมิเนียม คาดว่าปี 68 นี้จะเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท

    2) บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRITANIA (BRI) กลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรร คาดว่าปี 68 นี้จะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท

    3) พรีโม่ เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI) กลุ่มธุรกิจบริการ คาดว่าปี 68 จะมีรายได้ 1,850 ล้านบาท


    ทั้งนี้ ธุรกิจที่ยังสร้างรายได้หลักอย่างอสังหาฯ ปี 68 ในภาพรวมจะเปิดโครงการใหม่ จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท คาดว่ายอดขาย (Presales) รวมจะอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ ห้องชุดคอนโดและบ้านจัดสรร จำนวน 22,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้รวมอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท โดยมี Backlog กว่า 44,562 ล้านบาท หนุนการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 4 ปี

    โครงการบ้านและคอนโดฯ ยังคงมุ่งขยายฐานลูกค้าในไทย โดยปีนี้มี “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นแอมบาสเดอร์เพื่อสร้าง Brand Awareness ให้มากขึ้น ขณะที่ลูกค้าต่างชาติจะบุกตลาดเพิ่มเติมผ่านการทำ Roadshow ในต่างประเทศ การร่วมมือกับตัวแทนขาย ล่าสุดมีนักแสดงชื่อดังชาวจีน-ฮ่องกง “Irene Wan(เวินปี้เสีย)” เป็นพรีเซ็นเตอร์นำคอนโดมิเนียมแบรนด์ Park Origin Collection บุกตลาดเอเชีย


    อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์หลักของ ORI ยังคงมี 7 ด้านหลัก ได้แก่

    1. FOCUS ON MAINSTREAM REVENUE

    2. UNIQUE VALUE PROPOSITION

    3. MARKET EXPANSION

    4. DIGITAL TRANSFORMATION

    5. FINANCIAL STRUCTURE MANAGEMENT

    6. CUSTOMER FINANCIAL SUPPORT

    7. ESG & GREEN REVOLUTION



ภาพ: ORI



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ttb มอง ‘ตลาดคอนโดฯ’ กรุงเทพ-ปริมณฑลเตรียมเข้าสู่ภาวะหดตัวนับจากปี 2568 และปีนี้อาจไม่ใช่จุดต่ำสุด

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine