รู้จัก ‘คุณเก๋ขนมหวาน’ ขายขนมไทยเข้า 7-Eleven ยอดขายปีละ 100 ล้านชิ้น - Forbes Thailand

รู้จัก ‘คุณเก๋ขนมหวาน’ ขายขนมไทยเข้า 7-Eleven ยอดขายปีละ 100 ล้านชิ้น

ใครเข้า 7-Eleven แล้วอาจจะเคยเห็นมุมขนมไทยกลุ่มวุ้นกะทิ และขนมไทยที่ใส่ในถ้วย มีขนมไทยที่ชื่อแบรนด์ EZY SWEET ซึ่งผลิตโดย “คุณเก๋ขนมหวาน” ที่นอกจากจะสร้างยอดขาย 100 ล้านชิ้น/ปี กวาดรายได้ไปกว่า 387 ล้านบาท ยังตั้งเป้าดันขนมไทยเป็น Soft Power


    จุดเริ่มต้นของ “คุณเก๋ขนมหวาน” เริ่มต้นในปี 2540 ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงร้านขายขนมเล็กๆ ที่ผลิตอยู่หลังร้านขายยา แต่สามารถพลิกโอกาสครั้งสำคัญเมื่อได้ออกบูธในงาน Thaifex ปี 2549 จนนำไปสู่การวางจำหน่ายใน 7-Eleven เป็นครั้งแรกในปี 2551 ด้วยเมนูวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน

    ความมุ่งมั่นในการพัฒนามาตรฐานการผลิตทำให้ปี 2555 บริษัทได้รับมาตรฐาน GMP & HACCP ส่งผลให้แบรนด์เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดขนมหวานพร้อมทานได้อย่างแข็งแกร่ง และได้รับความไว้วางใจให้ผลิต OEM ให้ 7-Eleven ภายใต้แบรนด์ “EZY SWEET” ต่อยอดการพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของขนมไทยใน 7-Eleven เลยทีเดียว

    มนสวรรณ ศรัณย์เวชกุล CEO บริษัท คุณเก๋ขนมหวาน จำกัด กล่าวว่า “ขนมไทยของเราเกิดจากการพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven เราเชี่ยวชาญด้านขนมไทย ซึ่งกำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ธุรกิจขนมไทยที่เติบโตจากขนมวุ้นที่ผลิตและจำหน่ายหน้าร้านขายยาของสามี สู่การเป็นโรงงานผลิตขนมไทยมาตรฐานสากล ด้วยกำลังการผลิต 120,000 ชิ้น/วัน ยอดขายกว่า 100 ล้านชิ้น/ปี”


    ปัจจุบัน คุณเก๋ขนมหวาน กลายเป็นผู้นำแบรนด์ขนมไทยและวุ้นอันดับ 1 ใน 7-Eleven ที่มีการจัดจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมีกลุ่มสินค้าหลัก 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มขนมหวานบรรจุถ้วย เช่น ข้าวโพดมะพร้าวอ่อนกะทิสด สาคูเปียกข้าวโพด บัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน สาคูเมล่อน, กลุ่มวุ้น เช่น วุ้นเป็ดกะทิ วุ้นนานาชนิด และลูกชุบแฟนซี

    ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุผลประกอบการบริษัท คุณเก๋ขนมหวาน จำกัด ไว้ดังนี้

    -ปี 2564 รายได้ 162,692,058 บาท กำไร 1,079,412 บาท
    -ปี 2565 รายได้ 239,528,462 บาท กำไร 1,576,029 บาท
    -ปี 2566 รายได้ 275,920,968 บาท กำไร 18,969,712 บาท

    ส่วนในปี 2567 ขนมไทย by คุณเก๋ขนมหวาน เติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยยอดขายทะลุ 387 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ย 40 ล้านบาทต่อเดือน โดยมีขนมไทยที่จำหน่ายโดย 7-Eleven รวม 14 SKU และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ มากว่า 100 SKU นอกจากนี้ยังมีแผนขยายช่องทาง E-Commerce บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Facebook / Line / TikTok Shop เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่


    มนสวรรณ บอกว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากโมเดลธุรกิจที่มุ่งเน้นการเข้าใจ Customer Insight และ Product Innovation ภายใต้แนวคิด ‘นวัตกรรมคือหัวใจสำคัญ’ ซึ่งบริษัทเน้นการเพิ่มมูลค่า (Value Creation) ต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมให้มีมูลค่าเพิ่ม ผ่าน Brand Storytelling, Packaging Design และการทำ Collaboration กับพาร์ทเนอร์ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์หลักที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตแบบก้าวกระโดด มีดังนี้

    1.Product Innovation: สร้างสรรค์ขนมไทยรูปแบบใหม่ที่ผสานรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ขนมไทยเพื่อสุขภาพ และขนมไทย Functional Food

    2.Multi-Channel Distribution: ขยายการจำหน่ายผ่านทั้ง Modern Trade, E-Commerce และ Horeca (โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่)

    3.Brand Marketing: ใช้ Influencer และแคมเปญ Social Media เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

    4.Export Expansion: ปูทางสู่ตลาดต่างประเทศ โดยแบรนด์มีแผนลุยตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ในปี 2569 พร้อมนำเสนอขนมไทยในรูปแบบที่เหมาะสมกับตลาดโลก เช่น ขนมไทยพร้อมทานที่ยืดอายุได้นานขึ้น ยังคงรสชาติแบบต้นตำรับ โดยไม่ใช้สารกันบูด


    ส่วนในปี 2568 คุณเก๋ขนมหวานตั้งเป้ายอดขายทะยานสู่ 600 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Soft Power และ ESG Model

    มนสวรรณ กล่าวว่า “ขนมไทยไม่ใช่แค่ของหวาน แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่เราภาคภูมิใจและพร้อมส่งต่อให้ทั่วโลกได้ลิ้มลอง ด้วยแนวคิดนี้ แบรนด์จึงเดินหน้าผลักดันขนมไทยให้เป็นมากกว่าของกินเล่น

    "เรามุ่งมั่นเป็นผู้นำตลาดขนมไทยพร้อมทานอันดับหนึ่งใน 7-Eleven ด้วยยอดจำหน่ายเกือบ 400 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และปริมาณการผลิตมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อปี สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำด้านขนมไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จาก กะทิ และ ผลิตภัณฑ์ทางเกษตร อาทิ ทับทิมกรอบ สาคูเปียกข้าวโพด บัวลอยเผือก รวมถึงวุ้นเป็ดมะพร้าวอ่อน วุ้นแฟนซี และลูกชุบ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ภายใต้แบรนด์ EZY SWEET

    “เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง 3-4 SKU ต่อเดือน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาขนมไทยที่มีคุณภาพ รสชาติเยี่ยม และสะดวกในการบริโภค

    “นอกจากนี้ เรายังพัฒนาไลน์สินค้าเฉพาะเทศกาล เช่น ลูกชุบคริสต์มาส และวุ้นส้มนมสด เราพร้อมขยายการผลิตให้ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Mass และ Premium Mass ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อยกระดับขนมไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล”

มนสวรรณ ศรัณย์เวชกุล


    นอกจากการขยายตลาด บริษัท คุณเก๋ขนมหวาน จำกัด ยังให้ความสำคัญกับ โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG Model) และ ESG Model โดยมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทย เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน ลดของเสียจากการผลิต และพัฒนาบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก เช่น บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมารีไซเคิลได้ 100% และยังมีแผนปรับสูตรขนมให้ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ เช่น ลดน้ำตาล เพิ่มส่วนผสมจากธรรมชาติ และใช้นวัตกรรมอาหารเพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์ ซึ่ง บริษัทเป็น SMEs เพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัล BCG Model โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในปี 2567

    “อนาคตของขนมไทย จะไม่ใช่แค่ขนม แต่คือ Soft Power ที่ทรงพลัง ตลาดขนมไทยกำลังเปลี่ยนโฉมไปสู่ Thai Dessert 4.0 ซึ่งไม่ใช่แค่ของหวานที่รับประทานหลังมื้ออาหาร แต่เป็นสินค้าที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม, คุณค่า และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย เราจึงเดินหน้าปั้นแบรนด์ให้เติบโตสู่ระดับโลก ภายใต้แนวคิด ‘อร่อย ทันสมัย คุ้มค่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ โดยมีเป้าหมายทางธุรกิจที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570 ส่วนเป้าหมายทางวัฒนธรรมคือเราอยากสร้างการจดจำให้ขนมไทยคือมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่มีชีวิต” มนสวรรณ กล่าวทิ้งท้าย



ภาพ: บริษัท คุณเก๋ขนมหวาน จำกัด



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 7 สินค้า SME ขายดีในเซเว่นฯ ยอดขายปังทะลุ 100 ล้านบาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine