จับตาทำเลสุดฮอต ‘บางนา-ตราด’ ผู้ประกอบการแห่ผุดมิกซ์ยูส ออฟฟิศสุดไฮเทค และที่อยู่อาศัยไฮเอนด์ - Forbes Thailand

จับตาทำเลสุดฮอต ‘บางนา-ตราด’ ผู้ประกอบการแห่ผุดมิกซ์ยูส ออฟฟิศสุดไฮเทค และที่อยู่อาศัยไฮเอนด์

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Jun 2024 | 04:48 PM
READ 1051

ทำเลที่มาแรงในปีนี้ ดูเหมือนจะหนีไม่พ้นย่านบางนา-ตราด ประตูหน้าด่านมุ่งสู่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งภาครัฐทุ่มงบประมาณในการสร้างโครงข่ายคมนาคมปูทางไปสู่ EEC ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์มาตลอดแนวนับจาก EEC มาถึง 3 สนามบินฝั่งตะวันออกมาสู่เส้นทางบางนา-ตราด


ทำเลแลนด์มาร์กและย่านนวัตกรรมเพื่ออนาคต

    นับจากที่มีการประกาศโครงการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก พร้อมกับโครงข่ายคมนาคมขนาดใหญ่มูลค่าหลายแสนล้าน นักลงทุนและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างก็หันหัวเรือมุ่งมาสู่ทำเลหลักที่ได้รับอานิสงส์จาก EEC อย่างทำเลบางนา-ตราด

    โดยจะเห็นความตื่นตัวของโครงการต่างๆ นับจากจุดตัดระหว่างถนนบางนา-ตราด ขาออกสู่ชลบุรีและถนนสุขุมวิทขาออกสู่สมุทรปราการ ไปจนถึงบางนา-ตราด กม.10 ผู้ประกอบการชั้นนำพร้อมใจกันมาปักธงสร้างแลนด์มาร์กกันยกใหญ่ จนกระทั่งเกิดการชะลอตัวกันไปชั่วคราวจากวิกฤตการณ์โควิด-19

    จนเมื่อโควิด-19 จบลงในปี 2565 ย่านบางนา-ตราดก็กลับมาคึกคักกว่าทำเลอื่นๆ อีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ มูลค่าการลงทุนไซส์หมื่นล้านไปถึงแสนล้านบาทต่างผุดขึ้นในบริเวณสองข้างถนนกันอย่างครึกครื้น

    ไม่ว่าจะเป็น community malls ใหญ่เล็กต่างๆ หรือจะเป็น specialty mall ของสินค้าเฉพาะทาง ไปจนถึงอาคารสำนักงานไฮเทค มิกซ์ยูส ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่ใกล้เปิดให้บริการในปีนี้ รวมทั้งโครงการที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 125,000 ล้านบาทอย่าง เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งผู้พัฒนาโครงการอย่าง MQDC พัฒนาแบบ Theme Project ซึ่งเน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ

    โดยมีป่าและพื้นที่สีเขียวถึง 56% ทั้งที่อยู่อาศัยในคอนเซ็ปต์ต่างๆ ที่มีทั้งสำหรับคนรุ่นใหม่ในราคาจับต้องได้ไปจนถึง ultra luxury อย่างแบรนด์ ซิกเซนส์ (Six Senses) มีทั้งพื้นที่ไลฟ์สไตล์ ให้การใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่รวมครบจบในที่เดียว ซึ่งบางส่วนของโครงการอย่าง คอนโดฯ Whizdom สองอาคารแรกเสร็จสมบูรณ์ มีผู้เข้าอยู่อาศัยแล้ว และกำลังมีโครงการอื่นเสร็จตามๆ กันมา

    ยิ่งเมื่อวิเคราะห์ต่อไปถึงทำเลเชื่อมต่อถึงกันอย่างย่านนวัตกรรม อินโนเวชั่น ดิสทริค หรือ Innovation District หรือย่านสุขุมวิทใต้ ซึ่งนับจุดเริ่มต้นที่อ่อนนุช ปุณณวิถี อุดมสุข มาจนถึงถนนบางนา-ตราด จากการศึกษาของศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) พบว่าความเจริญจากถนนสุขุมวิทใต้มาเชื่อมต่อกับบริเวณจุดตัดสี่แยกบางนา-ตราด และพัฒนาต่อมาตามแนวถนนบางนา-ตราด จึงช่วยเติมเต็มให้ทำเลบางนา-ตราด กลายเป็นทำเลทอง

    โดยย่านนวัตกรรมช่วยดึงดูดให้บริษัทชั้นนำหลายแห่งย้ายสำนักงานใหญ่จากในเมืองมาอยู่ตั้งสำนักงานไฮเทคในย่านนี้ ทำให้ย่านสุขุมวิทตอนใต้และบางนา-ตราดเชื่อมกันเป็นทำเลทอง โครงการแลนด์มาร์กที่กำลังผุดขึ้น อาทิ ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมแม่เหล็กสำคัญของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย นั่นคือโรงเรียนอินเตอร์แบรนด์ดังจากทั่วโลกจนถึงปัจจุบันรวมกันเกือบ 20 แห่งอย่างคอนคอร์เดียน, เวอร์โซ, เซนต์แอนดรูส์ โรงพยาบาลเอกชนอีก 11 แห่ง

    ทำให้ทำเลนี้รายล้อมด้วยความสะดวกสบายครบครัน เรียกได้ว่าไม่ต้องฝ่ารถติดกลางเมืองก็ยังคงไลฟ์สไตล์แบบฮิปๆ ได้ดังเดิม ทำให้ทำเลบางนา-ตราด ในปีนี้กำลังกลายเป็นศูนย์รวมแลนด์มาร์กของเมืองอย่างแท้จริง


ทำเลทองของการลงทุน

    จากสถิติของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในช่วงไตรมาสสี่ปี 2566 ที่ดินในย่านบางนา-ตราด ต่อเชื่อมจากสุขุมวิทไปถึงรอบโซนสุวรรณภูมิ บริเวณเขตลาดกระบังและกาญจนาภิเษก เป็นโซนที่ราคาที่ดินพุ่งสูงที่สุดถึง 51.3% เมื่อเทียบกับโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑลโซนอื่นๆ

    ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะมีโครงการอาคารสำนักงานใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ทำเลนี้กลายเป็นย่านเนื้อหอมแห่งการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ดึงดูดผู้คนให้ย้ายมาอยู่อาศัยในแถบนี้ เกิดความหลากหลายของชุมชนใหม่ ทั้งพนักงานออฟฟิศ พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงบุคลากรจากองค์กรชั้นนำตั้งแต่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงระดับผู้บริหาร ทั้งไทยและ expat เพิ่มขึ้นอีกร่วม 250,000 คน ทำให้ความต้องการพื้นที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามในอัตราก้าวกระโดด

    ด้วยเหตุนี้ เหล่านักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาจับตามองทำเลเด่นอย่างบางนา-ตราด ไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรืออาคารชุดพักอาศัย ไม่ว่าจะเช่าหรือซื้อขาด ก็ให้กำไรกับนักลงทุนกันได้เป็นกอบเป็นกำ


โครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงครอบคลุมสี่มุมเมือง

    สำหรับโครงการแหล่งสร้างเศรษฐกิจใหม่อย่าง EEC คมนาคมที่เชื่อมถึงและสะดวกสบายเป็นปัจจัยสำคัญ ไม่น่าแปลกใจที่รัฐบาลจะทุ่มงบประมาณกระหน่ำเพื่อพัฒนาโครงข่าย ตั้งแต่ทางด่วนลอยฟ้าเหนือถนนบางนา-ตราดจากกรุงเทพฯ ไปจนถึงจังหวัดชลบุรี เชื่อมโยงกับทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์จากพระรามเก้าไปถึง จ.ชลบุรี แล้ว ยังมีวงแหวนกาญจนาภิเษกที่เชื่อมคมนาคมจากสี่มุมเมืองทั้งทิศเหนือ ใต้ และตะวันตก เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลืองซึ่งเชื่อมกับรถไฟฟ้าเส้นหลักที่ถนนศรีนครินทร์ก็เปิดใช้งานแล้วเช่นกัน

    ด้านโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็มีแผนขยายเพิ่มไปจนถึง 5 เฟส ทั้งอาคารผู้โดยสาร อาคารเทียบเครื่องบิน รันเวย์ เพื่อรองรับคนเดินทางได้ถึง ซึ่งปัจจุบันเฟสที่ 2 และ 3 กำลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จเพื่อทยอยเปิดใช้งานได้ในครึ่งปีหลังนี้

    นอกจากนี้ โครงการใหม่อย่าง LRT Bangna - Suvarnabhumi หรือโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ขนานเบา สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวน 14 สถานี เชื่อมต่อการเดินทางกรุงเทพฯ กับ จ.สมุทรปราการ และ โครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ (Airport Rail Link) เพื่อต่อเชื่อมการเดินทางระหว่างสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ที่อยู่ระหว่างขยายเส้นทาง รวมถึงอยู่ระหว่างการดำเนินงาน ทำให้ทำเลนี้น่าจะเป็นทำเลที่มีการคมนาคมที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศก็ว่าได้

    ทำเลบางนา-ตราดจึงนับเป็นทำเลที่เป็น “ดาวรุ่ง” ในหลายด้านทั้งพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เทคโนโลยี การอยู่อาศัย และการลงทุนในยุคนี้


บทความโดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC)



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” นำวิถียั่งยืน ดันรายได้ “SC Asset” 3 หมื่นล้าน

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine